สวัสดี บุคคลทั่วไป

น้ำหอม ชาแนล กับการเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิว

  • 0 ตอบ
  • 255 อ่าน
ถ้าหากถามว่าเพราะเหตุไรพวกเราจึงจะต้องใช้น้ำหอม เนื่องจากว่าใครอีกหลายๆคนไม่เคยใช้หรือว่าอาจจะมองว่าน้ำหอมไม่สำคัญเพราะพวกเราใช้แค่สบู่ถูตัวตอนอาบน้ำ กลิ่นของสบู่ก็หอมก็ดีแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดจ้ะ แต่ว่าด้วยความที่บางที่อากาศบ้านพวกเราร้อนจัดทำให้เหงื่อออกได้ง่ายอย่างยิ่ง และเมื่อเหงื่อเจอกับกลิ่นของสบู่ หรือว่าความเค็มของเหงื่อเจอกับไขมันจากสบู่ที่อยู่บนตัวเรา ก็อาจจะเป็นผลให้เกิดปฏิกิริยา นั่นคือกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนานั่นเองจ้ะ สังเกตว่าเพราะเหตุไรตอนเช้าเราไปทำงานก็ยังตัวหอมดี แต่ว่าเมื่อเลิกงานเดินทางกลับบ้านกลิ่นเต่าเริ่มมา โดยเหตุนั้นแปลว่าการอาบน้ำของเราชักจะช่วยอะไรไม่ค่อยได้แล้วล่ะ การอาบน้ำอย่างเดียวอาจจะไม่พอจะต้องมีตัวช่วย อย่างน้ำหอม ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นน้ำหอม ชาแนล หรือน้ำหอมหลากหลายแบรนด์ที่มีขายกัน ในตอนนี้ก็มากมาย สำหรับน้ำหอม chanel แล้วเรียกว่าเป็นที่นิยมมากมายเลยทีเดียวล่ะค่ะ โดยเหตุนี้วันนี้พวกเรามาดูกันว่า การเลือกซื้อน้ำหอมจำต้องดูอะไรบ้าง แน่ๆว่าพวกเราใช้น้ำหอมก็จำต้องอยากได้กลิ่นที่ติดทนทั้งวัน หรือนานที่สุดเท่าที่จะสามารถนั่นเองจ้ะ ซึ่งถ้าเกิดอยากได้ความคงทน เราจำเป็นต้องดูที่ความเข้มข้นของน้ำหอม โดยเหตุนั้นมาดูกันว่า ระดับความเข้มข้นของน้ำหอมมีแบบไหนอย่างไรบ้าง
ระดับความเข้มข้นของน้ำหอม

1.) Parfum หรือ Perfume น้ำหอมชนิดนี้เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มขันมากที่สุด และก็มีหัวน้ำหอมมากถึง 20 - 40% เลยทีเดียวจ้ะ โดยเหตุนี้ความทนทานนานก็จะติดไปถึง 8 - 10 ชั่วโมงเลยล่ะ เมื่อเป็นน้ำหอมซึ่งสามารถให้กลิ่นติดทนนานได้อย่างนี้ ราคาของน้ำหอมก็จะสูงตามไปด้วย เพราะเหตุว่าเป็นน้ำหอมที่มีหัวน้ำหอมมาก เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบางหรือที่เราเรียกว่า Sensitive มากกว่าการใช้น้ำหอมจำพวกอื่น เนื่องจากว่าเมื่อมีหัวน้ำหอมเยอะมาก แอลกอฮอล์ก็เลยน้อยโน่นเองค่ะ
2.) Eau de Parfum ( EDP) เป็นน้ำหอมที่เรียกว่ามีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมเยอะมากรองๆ ลงมาจากแบบแรกนั่นเอง จำนวนหัวน้ำหอมที่ใส่ไปในน้ำหอมกลุ่มนี้อยู่ที่ 15 - 20% ให้กลิ่นติดทนนานประมาณ 7 - 8 ชั่วโมง และก็เรื่องของราคาก็เลยถูกกว่าแบบแรกนิดหน่อย เนื่องจากว่าแบบนี้ก็เช่นกัน คือมีจำนวนหัวน้ำหอมลดน้อยลง ปริมาณแอลกอฮอล์ก็เลยเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่ต้องเปลืองหัวน้ำหอม ราคาก็เลยถูกกว่านั่นเอง น้ำหอม ชาแนลรุ่นที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง BLEU DE CHANEL Eau De Parfum Pour Homme Spray ก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้
3.) Eau de Toilette (EDT) เป็นกรุ๊ปที่เรียกว่ามีความเข้าข้น ออกจะน้อย หัวน้ำหอมที่ใส่เข้าไปในน้ำหอมกลุ่มนี้อยู่ที่ 5 - 15% ระยะเวลาของกลิ่นที่จะติดอยู่กับตัวเราคือ โดยประมาณ 4 - 6 ชั่วโมงแค่นั้นค่ะ แม้กระนั้นนับได้ว่าเป็นกรุ๊ปยอดนิยมมากเลยอย่างยิ่ง อย่าง Chanel Coco Mademoiselle Eau de Toilette เป็นน้ำหอม ชาแนลอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยม มีกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิด กลีบดอกกุหลาบ ดอกมะลิและเพิ่มความหอมหวานจากกลิ่นลิ้นจี่ ซึ่งหลายท่านก็เลือกที่จะใช้น้ำหอมกลุ่มนี้ในช่วงเวลากลางวัน และใช้ EDP ในช่วงกลางคืนนั่นเอง
4.) Eau de Cologne (EDC) เป็นน้ำหอมกรุ๊ปที่มีความเข้มข้นต่ำที่สุดของบรรดาน้ำหอมทั้งหมดเลยก็ว่าได้ เพราะจำนวนหัวน้ำหอมที่ใส่เข้าไปมีเพียงแค่ 2 - 4% แค่นั้น ที่เหลือคือแอลกอฮอล์ ราคาจึงถูกกว่าน้ำหอมทุกจำพวก แต่ว่าจะติดทนนานเพียง 3 - 4 ชั่วโมงเท่านั้นจ้ะ แต่ว่าหากเราไปงานเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถเลือกใช้ได้เช่นเดียวกัน
5.) Eau Fraiche เป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยเหมือนกับกรุ๊ป EDC เท่าไหร่ค่ะ หัวน้ำหอมที่อยู่ในน้ำหอมกลุ่มนี้มีเพียง 1 - 3% แต่ว่าจะไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์เพราะเหตุว่าจะใช้น้ำแทนทั้งหมดทั้งปวงนั่นเอง ซึ่งถ้าใครเคยได้ลองใช้น้ำหอม chanel จะรู้ว่า Chanel CHANCE EAU FRAICHE น้ำหอมสีประกายเขียวมรกตตัวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวที่ไม่ธรรมดาเลย ให้กลิ่นหอมอ่อนๆที่จะทำให้คุณสดชื่นไปตลอดทั้งวัน
สำหรับการเลือกใช้น้ำหอมที่นอกจากจะจะต้องดูที่ประมาณหัวน้ำหอมแล้ว ยังจำต้องดูที่อุณหภูมิอีกด้วย เนื่องจากอุณหภูมิก็มีผลต่อการใช้น้ำหอมให้ติดทนนานจ้ะ เป็นต้นว่า ในช่วงฤดูร้อนมักจะใช้ EDT ซึ่งบางทีก็อาจจะเป็นกลิ่นจากดอกไม้และก็ผลไม้ ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น นั่นเองค่ะ
มาดูในเรื่องของผิวกันบ้างจ้ะ ว่าเราจะเลือกน้ำหอม ชาแนลให้เหมาะกับผิวพวกเราได้อย่างไร ผิวแบบไหนต้องใช้น้ำหอมแบบไหน
เริ่มกันที่ผิวมัน เป็นผิวประเภทที่ในผิวจะมีน้ำมันอยู่มาก แล้วก็เป็นผิวที่น้ำหอมจะติดทนนานที่สุด กลิ่นจะกระจายตัวได้ค่อนข้างจะดี และก็ผิวมันจะมีผลให้กลิ่นของน้ำหอมฉุนมากยิ่งกว่าธรรมดา ฉะนั้นคนที่ผิวมันควรหลีกเลี่ยงน้ำหอมที่มีกลิ่นแรงมาก แล้วเลือกใช้เป็นกลิ่นที่กลิ่นที่อ่อนลงมาหรือว่ากลิ่นหอมสดชื่นจางๆแทน
ผิวแห้ง เป็นผิวที่ดูดซึมความมันจากน้ำหอมได้ดี ทำให้การกระจายตัวของน้ำหอมไม่ค่อยดี หรือเรียกว่ากระจายตัวได้น้อยกว่าคนผิวมันนั่นเองค่ะ ฉะนั้นการเลือกน้ำหอมต้องเลือกที่มีกลิ่นฉุนนิดนึงจะช่วยทำให้กลิ่นติดทนขึ้น
ผิวที่เหงื่อไหลไคลย้อยง่าย ควรเลือกใช้น้ำหอมที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เพราะผิวที่เหงื่อออกง่ายรูรูขุมขนจะเปิดกว้าง ทำให้เวลาที่พวกเราใช้น้ำหอมที่มีแอลกอฮอล์อาจจะมีอาการแสบได้นั่นเองค่ะ
รู้อย่างงี้แล้วคงทำให้หลายท่านเลือกซื้อน้ำหอม ชาแนลได้ง่ายขึ้น ซึ่งน้ำหอมในแต่ละรุ่นของ Chanel เองก็มีระดับความเข้มข้นของน้ำหอมให้ท่านได้เลือกกันหลากหลายระดับตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น คนไหนที่สนใจแนะนำว่าไปลองเทสกันได้ที่เค้าท์เตอร์แบรนด์จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความหอมที่เหมาะกับตัวคุณอย่างแท้จริง

Tags : น้ำหอม chanel,chanel