สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานสังคม Rock 'n' Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 195 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ตำนานสังคม Rock 'n' Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: ธันวาคม 29, 2018, 08:18:46 PM »
                หากท่านเป็นคนที่หลงเสน่ห์ในเสียงดนตรี หรือว่าเสียงดนตรี เชื่อว่าท่านจะต้องรู้จักแบรนด์เครื่องเสียงยี่ห้อนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องจากเป็นยี่ห้อที่ได้รับความชื่นชมอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งเรื่องราวเรื่องราวของแบรนด์นี้ นับเป็นส่วนหนึ่งของตำนานกลุ่มเพลงRock 'n' Rollเลยก็ว่าได้ และยี่ห้อที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยประวัติของ Marshall นั้น จักมีเรื่องราวยังไงบ้าง และเพราะอะไรถึงได้มาเป็นแบรนด์ยิ่งใหญ่ปานฉะนี้ ฉันจักมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้จัดตั้งขึ้นโดย Jim Marshall ซึ่งจุดแรกเริ่มอยู่ที่การเป็นนักดนตรีผู้ช่ำชองมาก่อน ซึ่งเล่นในตำแหน่งมือกลอง ตอนหลังก็ได้ผันตัวเองมาทำธุรกิจร้านขายเครื่องดนตรี พร้อมด้วยวัสดุอุปกรณ์หลายชนิด ซึ่งเริ่มต้นจากการขายกลองชุดพร้อมกับกีตาร์ในลอนดอนแถบ Hanwell โดยผู้บริโภคโดยมากจะเป็นนักดนตรีดนตรีRock 'n' Roll ที่มีความโด่งดังในยุคนั้น ดังเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือว่าเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น
                สืบมาก็เริ่มมีนักดนตรีมีชื่อเสียง หลายคนอยากได้แอมป์ หรือว่าเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งเสียงดังกว่าเดิม เหตุเพราะตัวปัญหาที่พบส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องความดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอดีในการสำแดงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจลองทำออกมาจำหน่าย และดันบรรลุผลอย่างมากมาย กลายเป็นการบอกเล่าปากต่อปาก กระทั่งคณะดนตรีหลายๆ วง ให้ความสนใจ Marshall จึงจัดหามาจัดการออกมาค้าขายอย่างจริงจัง พร้อมทั้งได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นในปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นต้นตอของแบรนด์ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายถูกใจ รวมไปถึงยังเอื้อนคือความเห็นเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่เสียงเยี่ยมตามที่เคยมีมา (ในยุคนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดไปมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความวางใจจากมือกีตาร์สายบลูส์ แนวร็อก จากวงดังๆ ระดับประวัติศาสตร์อย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC เป็นอาทิ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในยุค 60 ของ Marshall แบบรวบรัดตัดความ อย่างไรก็ตามเมื่อระยะเวลาได้ผ่านพ้นก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่ชำนาญในกลุ่มเครื่องเสียงก็ได้พัฒนาและหยิบยกเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมในการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทันยุค ทันสมัย อีกทั้งแม่นยำตามความหวัง หรือตอบโจทย์ลูกค้าเพิ่มขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ซึ่งเป็นสินค้าจำพวกหูฟัง เพื่อให้ผู้บริโภค หรือว่าสามัญชนสามัญให้ได้รับประสบการณ์การสดับตรับฟังเพลงในแบบของ Marshall รวมไปถึงสินค้าจำพวกลำโพงที่สามารถต่อบลูทูธได้ โดยนั่นทำให้ Marshall ฮิตอย่างท่วมท้นเช่นเดียวกัน ด้วยแบบเสียงที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งการออกแบบที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิค ดูดี โดยรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าดึงดูด พร้อมกับจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจักมีรายละเอียดดังนี้
 
หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                คือหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิคอยู่ภายในตัว ดีไซน์สวยงาม ดูดีมีสไตล์ ขนาดย่อมสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้ง่ายดาย มีการเชื่อมฉับพลันด้วย Bluetooth 4.0 แต่ทว่าสามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นกัน  สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งกินเวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งผ่าน Micro USB ส่วนของเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องชัด มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดของชิ้นเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีมาก สมกับการเป็นสุดยอดประวัติศาสตร์ยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกแน่นอน ซึ่งหูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่นนี้ สนนราคาจักอยู่ที่ไม่เกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                เป็นลำโพงบลูทูธที่มีขนาดออกจะใหญ่ที่ได้ออกจำหน่ายเป็นเวลายาวนานแล้วเหมือนกัน เสียแต่ว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้แย่ไปกว่าแต่แรกเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้น้ำเสียงที่ชัดครบถ้วน ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ภายในทั้งสิ้น 3 ตัว อีกทั้งยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือว่าแจ็คขนาด 3.5 มม. พร้อมด้วย INPUT2 หรือ RCA นอกจากนี้ยังมีฝีไม้ลายมือในการปรับเสียงทุ้มแหลมได้ด้วย ให้น้ำเสียงเสมือนท่านกำลังฟังเพลงจากการบรรเลงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีราคาถูกที่ไม่มากเกิน 15,900 บาท หากเทียบกับน้ำเสียงที่ได้มา นับว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางดีฉันได้หยิบยกฝากกันในวันนี้ โดยจักเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยก่อนจวบจนกระทั่งสมัยนี้นั้น พวกเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้แทบทุกเวทีเลย รวมทั้งหูฟัง และลำโพงที่เยอะแยะหลากหลายรุ่นที่ไม่ว่ายุคสมัยจะผ่านพ้นนานเท่าใด ทว่า Marshall ก็ยังคงความคลาสสิกตามสไตล์แบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : marshall ราคา

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall