สวัสดี บุคคลทั่วไป

รากเหง้า Huawei P Series

  • 0 ตอบ
  • 236 อ่าน
รากเหง้า Huawei P Series
« เมื่อ: ธันวาคม 30, 2018, 08:44:34 AM »
หากเอ่ยถึง Huawei สาย P Series ตัวแรกที่คำนึงถึงเลย ก็น่าจะหนีไม่พ้น Huawei P9 เพราะว่าช่วงที่เปิดฉากรุ่นนี้ออกมาเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 นับว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะด้วยความเป็นกล้องถ่ายรูปคู่ที่ได้รับการผสานของเทคโนโลยีที่เข้าร่วมพัฒนากับ LEICA จึงทำให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างสวยงาม และยังได้รับความนิยมชมชอบอยู่ในปัจจุบันนี้ วันนี้เราจะนำทางย้อนรอยเรื่องกล้องของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องหลัง 2 กล้องที่ทาง Huawei ได้ร่วมมือกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องขั้นตำนานมาเข้าร่วมออกแบบกล้องให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องถ่ายรูปข้างหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งล่าง LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการบอกช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขแนบท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่พอเหมาะเลยเทียว
 
 โดยกล้องตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายรูปที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะกล้องถ่ายรูปตัวที่ 2 จะเป็นกล้องถ่ายภาพที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่กระจ่างกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปกติธรรมดา และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายความว่าปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องถ่ายภาพทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus เช่นเดียวกันเลย อีกอย่างแม้ว่าจะแบ่งแยกเป็นกล้อง RGB กับ กล้องถ่ายภาพ Monochrome แต่ว่ากล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวจะทำงานด้วยกันอยู่แล้ว จึงทำให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนสีขาว-ดำชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องทั่วไป รวมถึงสามารถปรับโฟกัสหลังจากทำการถ่ายภาพได้ด้วยเหมือนกัน

 ด้านกล้องถ่ายภาพหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังถือว่ายังทำออกมาได้ดีทั้งที่จะไม่ใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องถ่ายภาพด้านหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ออกจะสว่าง ใบหน้าขาวใส ถ้าใครที่โปรดปรานถ่ายภาพตัวเอง ก็ไม่ควรพลาด อีกทั้งยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน เช่นคุณไปงานสังสรรค์ยามค่ำคืน แต่ว่าต้องการเซลฟี่ ท่านก็สามารถถ่ายได้ทุกแห่ง โดยไม่ต้องมองหาแสงจากที่ไหน เพราะจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างทันทีที่คุณลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับไฟแฟลชด้านหน้าเลยเชียว
 
 และหากว่าล้วงลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงเริ่มที่โหมดออโต้ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานง่ายที่สุด เนื่องจากเพียงแค่ยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์แค่นั้น เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่หัดถ่ายภาพ แต่อยากได้รูปที่สวยงาม โหมดอัตโนมัติก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายภาพอยู่บ้าง โดยท่านสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ โดยตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย ถ้าหากว่าใครต้องการนำไปแก้ไขในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็มิได้มีฤทธิ์เดชในการแต่งเยอะมากมาย ด้วยขีดจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้องถ่ายภาพ Monochrome ซึ่งจัดว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีเลยก็ว่าได้ เนื่องมาจากเป็นยี่ห้อแรกที่มีกล้องถ่ายรูปเพื่อถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดปลีกย่อยความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่กระจ่าง สวยงามมาก เหมือนยังกับมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการจำลองรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งคงทำได้ไม่ดียังกับกล้องใหญ่อย่าง DSLR เหตุเพราะมีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนขี้ริ้วขี้เหร่
 
 และโหมดสุดท้ายที่ไม่แนะนำไม่ได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าหากท่านมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่ท่านจะได้นี่เทียมเท่ากล้องถ่ายภาพใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะว่าหากไร้ขาตั้งกล้อง อาจทำให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้คุณสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยเชียว แต่ถ้าหากไม่อยากปรับเปลี่ยนอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้ออโต้ได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีข้อดี สเปคการใช้งานต่างๆ ที่น่าสนใจอีกอื้อ แต่อย่างที่บอกไปในข้างต้น ว่า Huawei สายสกุล P Series นั้น มีข้อดีที่กล้องถ่ายภาพอยู่แล้ว ซึ่งหากว่าใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูป และอยากได้ภาพถ่ายที่ค่อนข้างมีคุณภาพทัดเทียมกล้องถ่ายภาพใหญ่ๆ แถมสามารถติดตัวได้อย่างฉลุยมากกว่าพกกล้องถ่ายรูปจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งณ เวลานี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง โดยเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ หรือร้าน ราคาอาจแตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ลองตรวจสอบราคากันอีกครั้งนะฮะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : Huawei p9

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9