สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานสังคม Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 211 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ตำนานสังคม Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: มกราคม 02, 2019, 03:03:23 PM »
                ถ้าคุณคือคนที่หลงรักในเสียงดนตรี หรือเสียงเพลง เชื่อว่าท่านจักต้องรู้จักยี่ห้อเครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องจากเป็นยี่ห้อที่ได้รับความชื่นชอบอย่างสูง เช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และต่างๆ อีกเยอะแยะ ซึ่งเรื่องราวประวัติของยี่ห้อนี้ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของตำนานสังคมดนตรีร็อกแอนด์โรลเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง ซึ่งเรื่องราวของ Marshall นั้น จะมีความเป็นมาเช่นไรบ้าง พร้อมด้วยเพราะอะไรถึงได้มาเป็นแบรนด์สุดยอดปานนี้ กระผมจักมาหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้จัดตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งต้นกำเนิดอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมืออาชีพมาก่อน ซึ่งเล่นในตำแหน่งมือกลอง ต่อมาก็ได้เปลี่ยนตนเองมาทำธุรกิจการค้าร้านค้าขายเครื่องดนตรี และเครื่องมือต่างๆ ซึ่งเริ่มต้นจากการค้าขายกลองชุดและกีตาร์ในลอนดอนเขตแดน Hanwell โดยลูกค้าจำนวนมากจะเป็นนักดนตรีเพลงRock and Roll ที่มีความเด่นในช่วงเวลานั้น ดังเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้ซื้อมากขึ้น
                ต่อจากนั้นก็เริ่มมีนักดนตรีมีชื่อเสียง หลายคนอยากได้แอมป์ หรือว่าเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งดังกว่าเดิม เพราะปัญหาที่เจอเป็นส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องความดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอในการบรรเลงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจลองทำออกมาจัดจำหน่าย และดันบรรลุผลอย่างหนัก กลายเป็นการบอกปากต่อปาก จนวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาทำออกมาค้าขายอย่างเอาเป็นเอาตาย และได้จัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นในปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดแรกเริ่มของแบรนด์ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่เป็นเหตุให้นักดนตรีทั้งหลายโปรดปราน อีกทั้งยังเอื้อนคือความเห็นเดียวกันว่าคือแอมป์กีตาร์ที่เสียงเยี่ยมตามที่เคยมีมา (ในยุคนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และหลังจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาสร้างแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมด้วยตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความน่าเชื่อถือจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงดังๆ ระดับประวัติศาสตร์ตัวอย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC ฯลฯ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในยุค 60 ของ Marshall อย่างรวบรัดตัดความ อย่างไรก็ตามเมื่อสมัยได้ล่วงเลยเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่คร่ำหวอดในสังคมเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าร่วมมือในการสร้างสินค้าเพื่อให้ทันยุค ทันสมัย อีกทั้งแม่นยำตามความหวัง หรือตอบโจทย์ผู้บริโภคเยอะขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ที่เป็นสินค้าจำพวกหูฟัง เพื่อให้ลูกค้า หรือคนทั่วๆ ไปให้ได้รับประสบการณ์การรับฟังเสียงดนตรีในแบบของ Marshall รวมถึงผลิตภัณฑ์ชนิดลำโพงที่สามารถเชื่อมบลูทูธได้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้ Marshall ฮิตอย่างเหลือเฟือเหมือนกัน ด้วยแบบเสียงที่ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งดีไซน์ที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิค สวยงาม ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าดึงดูด และจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิกอยู่ข้างในตัว การออกแบบสวยงาม เรียบร้อยมีสไตล์ ขนาดเล็กสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้สบาย มีการเชื่อมฉับพลันด้วย Bluetooth 4.0 แต่สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเหมือนกัน  สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งใช้เวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ส่วนของสำเนียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall ด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดของชิ้นส่วนดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดประวัติศาสตร์แบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกแน่นอน โดยหูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่นนี้ สนนราคาจักอยู่ที่ไม่มากเกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่ได้ออกขายเป็นเวลายาวนานแล้วเหมือนกัน แต่ทว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าแต่เดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้เสียงที่คมชัดครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ออกแบบด้วยไดร์ฟเวอร์ข้างในทั้งสิ้น 3 ตัว อีกทั้งยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. พร้อมด้วย INPUT2 หรือว่า RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีสมรรถนะในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้เช่นกัน ให้เสียงเสมือนท่านกำลังฟังเสียงดนตรีจากการบรรเลงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีความถูกที่ไม่มากเกิน 15,900 บาท หากว่าเปรียบเทียบน้ำเสียงที่ได้รับ ถือได้ว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางอีฉันได้ยกมาฝากกันในวันนี้ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่อดีตจวบจนกระทั่งสมัยปัจจุบันนั้น หมู่เรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้เกือบทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่จำนวนมากหลายรุ่นที่ไม่ว่ากาลเวลาจักพ้นไปนานเท่าใด แต่ว่า Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิคตามแนวแบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : marshall ราคา

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall