สวัสดี บุคคลทั่วไป

เครื่องดูดฝุ่น ผู้ช่วยสำหรับการทำงานบ้าน

  • 0 ตอบ
  • 228 อ่าน
            ที่ดูดฝุ่นนับว่าเป็นเครื่องมือประจำที่อยู่อาศัยเลยก็เป็นไปได้ เพราะว่าใช้งานง่าย สะดวก รวมถึงช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาดที่พักอาศัยส่งผลให้แทบจะทุกที่พักอาศัยจำเป็นต้องมีเครื่องดูดฝุ่นไว้ในที่พัก แต่ว่าการที่จะซื้อที่ดูดฝุ่นสำหรับเอามาใช้งานซักอันต้องประกอบด้วยเหตุผลหลายอย่างมาเกี่ยวสำหรับเลือกให้เหมาะกับการใช้งานดังนั้นแล้วมาดูกันว่าจะต้องประกอบด้วยวิธีการสำหรับเลือกซื้อและมีแบรนด์ไหนแนะนำกันบ้าง
            เริ่มที่คือ ประเภทของเครื่องดูดฝุ่น คือเรื่องที่จำเป็นเนื่องจากประเภทสำหรับที่ดูดฝุ่นที่ต่างกันก็เหมาะสมกับการทำงานที่แตกต่างออกไป ที่ดูดฝุ่นประกอบด้วย 4 แบบ
1.) เครื่องดูดฝุ่นแบบแห้ง เหมาะสำหรับการใช้งานที่ห้องธรรมดา แต่ว่าไม่เหมาะกับบนพื้นพรม เพราะกำลังในการดูดฝุ่นไม่มาก
2.)  ที่ดูดฝุ่นไม่มีสาย เน้นความคล่องตัวในการใช้งาน เนื่องจากต้องชาร์จแบตเตอรี่ก่อนเอาไปใช้งาน รวมไปถึงน้ำหนักเบาใช้งานง่าย เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่น้อย
3.) เครื่องดูดฝุ่นมือถือ ที่ดูดฝุ่นขนาดย่อม น้ำหนักเบา ไม่มีถุงเก็บฝุ่น สะดวกสบายต่อการทำงานในพื้นที่ไม่ใหญ่มาก ตัวอย่างเช่น รถยนต์
4.) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ช่วยให้ทำความสะอาดโดยอัตโนมัติได้ด้วยการตั้งโปรแกรม แล้วยังช่วยเข้าถึงบริเวณที่ตั้งใจทำความสะอาดได้อย่างสะดวกมาก พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางกับยางกันปะทะ
            เรื่องถัดมา อาณาบริเวณในการทำงาน ถือเป็นเรื่องที่ควรจะนำมาพิจารณาเพราะว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการซื้อความจุของเครื่องดูดฝุ่น รวมถึงบ้านช่องของคุณมีมุมอับหรือไม่ หากว่าเลือกซื้อที่ดูดฝุ่นความจุเล็กเกินพอดีจะทำให้ที่ดูดฝุ่นทำหน้าที่มากไป ทำความสะอาดได้ไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้ชำรุดเร็วมากขึ้น
ประเด็นที่สาม ประเด็นของโครงสร้าง และทักษะในการเก็บกวาดของที่ดูดฝุ่น ประเด็นนี้ควรจะพิจารณาตั้งแต่กำลังไฟ ซึ่งจำเป็นต้องควรเลือกให้เหมาะสมแก่การใช้งานเนื่องจากถ้าหากแรงไฟน้อยก็มีผลต่อกำลังสำหรับดูดฝุ่น ถัดมาคือพวกโครงสร้างต่างๆ ในแต่ละแบรนด์หรือทุกรุ่นก็จะมีโครงสร้างที่ต่างกันออกไป เช่น ช่วยกดฝุ่นให้เป็นก้อนเพื่อให้ไม่ยากต่อการจัดเก็บ หรือมีระบบการกรองมากขั้นสำหรับไม่ให้ฝุ่นละอองออกจากตัวเครื่อง ฯลฯ คุณก็เลยจำเป็นจะต้องเช็คว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบใดที่ตรงใจคุณที่สุด
            สุดท้ายเป็น ประเด็นเกี่ยวกับคุณลักษณะ ราคา รวมถึงอายุการใช้งาน เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับคุณภาพกับมูลค่าดำเนินไปในทางเดียวกันหรือไม่รวมถึงคุ้มที่จะซื้อไปใช้หรือเปล่าเพราะต่อมาก็คืออายุใช้งานถ้าหากตัดสินใจของที่ไม่ตรงกับการใช้งานไปทำให้อายุการใช้งานสั้นลงและยังนับว่าเป็นการเปลืองเงิน
เครื่องดูดฝุ่นที่น่าจับตามองที่จะเอามาเสนอแนะ ยกตัวอย่างเช่น

  • HITACHI ที่ดูดฝุ่นรูปแบบกล่อง แบบ CV-SH20V แรงมอเตอร์ 2000 วัตต์ น้ำหนัก9 กิโลกรัม ช่วยท่านกำจัดฝุ่นละอองได้การรับรองประสิทธิภาพด้วยสถาบันโรคภูมิแพ้ ในประเทศอังกฤษ (Allergy UK) กล่องเก็บฝุ่นไซโคลน ปริมาตรขนาด 1.6 ลิตร บีบบีบฝุ่นกลายเป็นก้อนทำให้สะดวกกับการกำจัด ไม่ฟุ้งกระจาย โดยใช้ระบบกรองฝุ่น 7 กระบวนการ พร้อมที่กรองเฮป้า กับนาโน ไททาเนียม ดักจับกลิ่น ตัดการเดินเครื่องโดยทันทีหากเครื่องอุณภูมิสูง ราคา 4,190 บาท
  • PHILIPS หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ประเภท FC8822/01 พร้อมด้วยระบบ SMART DETECTION SYSTEM ปรับโหมดตามสภาพแวดล้อม พลังงาน LI-ION ทำให้ปฏิบัติงานต่อเนื่องมากที่สุด 120 นาที ระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอน ที่มีการเช็ดเก็บฝุ่นรูปแบบแห้ง หุ่นยนต์ช่วยตรวจพื้นที่ที่ไม่สะอาดมากเพื่อที่จะเก็บกวาดเป็นพิเศษ รวมถึงมีโหมดสแกนพื้นผิวที่แตกต่างกันเพื่อจะทำความสะอาดแบบถูกวิธี ราคา 21,990 บาท
  • DYSON เครื่องดูดฝุ่นประเภทด้ามจับ (0.54 ลิตร) รุ่น SV10(V8) Absolute PlusV8 Absolute Plus ที่ดูดฝุ่นไม่มีสาย พร้อมทั้งการใช้งาน ครอบคลุมทุกทาง มีความมั่นคงแข็งแรง ใช้งานง่าย ด้วยระบบพายุไซโคลนเรเดียล 2 ชั้น ที่จะเพิ่มเติมการไหลวนสำหรับอากาศและยังดักจับฝุ่นละอองละอองเล็ก หัวเก็บกวาดรูปแบบ Direct-drive ทำความสะอาดตรงเข้าในพรมเพื่อจะกำจัดคราบเปื้อนบนพื้น และ หัวทำความสะอาดแบบลูกกลิ้งนิ่มออกแบบเพื่อสำหรับพื้นแข็ง ยังพร้อมกับระบบกรองลักษณะถอดออกไปล้างได้ ด้วยราคา 28,900 บาท


จะเห็นได้ว่า ยี่ห้อทุกแบรนด์ขยันปรับปรุงรวมถึงใช้เทคโนโลยีล่าสุด เข้าไปเพื่อให้สะดวกสบายแก่ผู้ซื้อ ดังนั้นแล้ว การเลือกเครื่องดูดฝุ่นซักเครื่องให้เหมาะกับการทำงานเลยไม่ใช่ส่วนทรามเสมอไป

Tags : เครื่องดูดฝุ่น,เครื่องดูดฝุ่น ราคา,เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี