สวัสดี บุคคลทั่วไป

ที่ดูดฝุ่น ทางเลือกเพื่อช่วยการทำงานบ้าน

  • 0 ตอบ
  • 249 อ่าน
            เครื่องดูดฝุ่นนับว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่ใช้สะดวก สะดวกสบาย และยังช่วยประหยัดเวลาในการทำความสะอาดที่อยู่อาศัยทำให้เกือบทุกบ้านต้องมีที่ดูดฝุ่นไว้ในที่พัก อย่างไรก็ตามการที่จะเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นสำหรับที่จะนำมาใช้งานซักอันจำเป็นจะต้องมีปัจจัยหลายเรื่องมาเกี่ยวข้องสำหรับเลือกให้เหมาะกับการใช้งานดังนั้นแล้วมาดูกันว่าจะต้องมีรูปแบบในการตัดสินใจซื้อกับมีแบรนด์ไหนแนะนำกันบ้าง
            อย่างแรกคือ ชนิดของเครื่องดูดฝุ่น เป็นสิ่งที่จำเป็นก็เพราะว่าประเภทสำหรับที่ดูดฝุ่นที่แตกต่างกันก็เหมาะสมกับการทำงานที่ไม่เหมือนกันออกไป เครื่องดูดฝุ่นประกอบด้วย 4 ประเภท
1.) ที่ดูดฝุ่นแบบแห้ง เหมาะสำหรับการทำงานที่ห้องธรรมดา แต่ไม่เหมาะสำหรับที่พื้นพรม เนื่องจากกำลังสำหรับดูดฝุ่นน้อย
2.)  ที่ดูดฝุ่นไร้สาย มุ่งเน้นความคล่องแคล่วในการใช้งาน เพราะว่าสามารถชาร์จพลังงานก่อนนำไปใช้ รวมถึงน้ำหนักน้อยใช้สะดวกสบาย เหมาะสำหรับห้องที่มีบริเวณน้อย
3.) ที่ดูดฝุ่นมือถือ เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ไม่มีถุงเก็บฝุ่น ง่ายสำหรับการทำงานกับพื้นที่ขนาดเล็ก อย่างเช่น รถยนต์
4.) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำให้ทำความสะอาดโดยอัตโนมัติได้ตามการตั้งรายการ แล้วยังช่วยให้เข้าไปในพื้นที่ที่มุ่งหวังเก็บกวาดได้แบบสะดวกมาก พร้อมเซ็นเซอร์สแกนสิ่งกีดขวางพร้อมด้วยยางป้องกันกระแทก
            ประเด็นถัดมา สถานที่สำหรับทำงาน ถือเป็นประเด็นที่จำเป็นต้องนำมาไตร่ตรองเนื่องจากจะถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจซื้อความจุของเครื่องดูดฝุ่น รวมทั้งบ้านของเรามีมุมอับหรือไม่ ถ้าหากซื้อที่ดูดฝุ่นความจุเล็กเกินพอดีจะทำให้ที่ดูดฝุ่นทำงานหนัก เก็บกวาดได้ไม่ดี รวมทั้งกระตุ้นเสียเร็วกว่าเดิม
ประเด็นถัดมา เรื่องของฟังก์ชั่น และความสามารถในการเก็บกวาดของที่ดูดฝุ่น ประเด็นนี้ต้องคิดเริ่มตั้งแต่แรงไฟ โดยที่จำเป็นจะต้องต้องซื้อให้เหมาะสมแก่การใช้งานก็เพราะว่าถ้ากำลังไฟน้อยก็มีผลกับกำลังสำหรับดูดฝุ่น ต่อมาเป็นพวกโครงสร้างทั้งหลาย ในแต่ละแบรนด์รวมถึงทุกรุ่นก็มีโครงสร้างที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น ช่วยกดฝุ่นละอองเป็นก้อนเพื่อง่ายต่อการเก็บกวาด หรือมีระบบการสกัดมากขั้นสำหรับที่จะไม่ให้ฝุ่นผงออกจากเครื่อง ฯลฯ เราเลยต้องดูว่าที่ดูดฝุ่นแบบใดที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด
            สุดท้ายนี้คือ เรื่องของคุณลักษณะ ราคา รวมถึงอายุใช้งาน ถือเป็นประเด็นที่ต้องคิดว่าประสิทธิภาพและมูลค่าเป็นไปในคู่ควรกันหรือเปล่ารวมถึงคุ้มค่าที่จะเลือกซื้อไปใช้งานหรือไม่เนื่องจากต่อมาเป็นอายุใช้งานถ้าตัดสินใจสินค้าที่ผิดกับการทำงานไปทำให้อายุใช้งานน้อยลงรวมทั้งนับว่าเป็นการเปลืองเงิน
เครื่องดูดฝุ่นที่น่าซื้อที่จะเอามาเสนอ คือ

  • HITACHI ที่ดูดฝุ่นรูปแบบกล่อง รุ่น CV-SH20V แรงมอเตอร์ 2000 วัตต์ น้ำหนัก9 กิโลกรัม ทำให้ทุกคนขจัดฝุ่นได้การพิสูจน์คุณภาพโดยสถาบันโรคภูมิแพ้ ในประเทศอังกฤษ (Allergy UK) กล่องใส่ฝุ่นไซโคลน ปริมาตรปริมาตร 1.6 ลิตร กดบีบฝุ่นละอองกลายเป็นก้อนทำให้ง่ายกับการกำจัด ไม่ฟุ้งกระจาย เพราะระบบกรองฝุ่น 7 ขั้นตอน พร้อมด้วยที่กรองเฮป้า และนาโน ไททาเนียม ดักกลิ่น ตัดการทำงานอัตโนมัติกรณีเครื่องอุณภูมิสูง สนนราคา 4,190 บาท
  • PHILIPS หุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่น FC8822/01 พร้อมทั้งระบบ SMART DETECTION SYSTEM เปลี่ยนโหมดตามสภาพการณ์รอบๆ ตัว แบตเตอรี่ LI-ION สามารถใช้งานต่อเนื่องมากถึง 120 นาที ระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอน ที่ประกอบด้วยการเช็ดเก็บฝุ่นแบบแห้ง หุ่นยนต์จะสำรวจบริเวณที่สกปรกมากสำหรับที่จะเก็บกวาดโดยเฉพาะ และยังมีโหมดตรวจจับพื้นผิวที่ไม่เหมือนกันสำหรับที่จะเก็บกวาดอย่างถูกทาง สนนราคา 21,990 บาท
  • DYSON ที่ดูดฝุ่นชนิดด้ามจับ (0.54 ลิตร) รุ่น SV10(V8) Absolute PlusV8 Absolute Plus ที่ดูดฝุ่นไม่มีสาย พร้อมด้วยการทำงาน ครอบคลุมทุกรูปแบบ มีความแน่นหนาคงทน ใช้ไม่ยาก โดยใช้ระบบพายุไซโคลนเรเดียล 2 ระดับ ที่จะเพิ่มการไหลวนของอากาศรวมทั้งดักจับฝุ่นละอองเล็ก หัวเก็บกวาดแบบ Direct-drive เก็บกวาดตรงเข้าไปกับพรมเพื่อที่จะกำจัดรอยเลอะในพื้น ในด้าน หัวทำความสะอาดประเภทลูกกลิ้งนิ่มดีไซน์เพื่อมาที่เหมาะสำหรับพื้นแข็ง อีกทั้งมาพร้อมกับระบบกรองรูปแบบแกะออกชำระล้างได้ ด้วยราคา 28,900 บาท


จะเห็นได้ว่า ยี่ห้อแทบทุกแบรนด์ขยันพัฒนาพร้อมทั้งใช้เทคโนโลยีไม่ซ้ำ ใส่ไปเพื่อให้สบายกับผู้บริโภค ดังนั้นแล้ว การเลือกซื้อที่ดูดฝุ่นซักอันให้เหมาะสมกับการทำงานก็เลยไม่ใช่ส่วนทรามเสมอไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี

Tags : เครื่องดูดฝุ่น,เครื่องดูดฝุ่น ราคา,เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี