สวัสดี บุคคลทั่วไป

Bose VS อัศวโสภณ

  • 0 ตอบ
  • 203 อ่าน
Bose VS อัศวโสภณ
« เมื่อ: มกราคม 10, 2019, 11:22:38 PM »
ถ้าหากจะพูดถึงเครื่องเสียงซักแบรนด์ที่ดังมาอย่างยาวนาน อีกทั้งได้รับความนิยมเหลือเกิน พร้อมคุณภาพสุรเสียงที่ท่วมท้นล้มหลามทุกอณู ก็คงจะมียี่ห้อ Bose เข้ามาอยู่ในลิสต์พร้อมด้วย โดย Bose ได้ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1964 ภายใต้ชื่อที่ว่า Bose Corporation ที่จัดตั้งขึ้นโดย Dr. Amar G. Bose ศ.ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า (electrical engineering) ณมหาวิทยาลัยมีชื่อติดอันดับหนึ่งของโลก นั่นก็คือ "Massachusetts Institute of Technology" หรือที่ชาวเรารู้จักกันอย่างดีในชื่อสั้นๆ ที่เรียกว่า MIT นั่นเอง ซึ่งพวกเราจะนำคุณไปรับทราบถึงต้นตอ และกว่าจักมาเป็น Bose Corporation กัน
Dr. Amar G. Bose เป็นผู้ที่ชอบดนตรี และด้วยความฉงนสนเท่ห์ในตอนเด็กว่าส่วนประกอบที่ให้เสียงในวิทยุ จึงได้แกะออกมาพินิจและก็ทำกลับเข้าไปใหม่ พร้อมด้วยในตอนนั้นเป็นเวลาสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นเหตุให้ธุรกิจการค้านำเข้าใยมะพร้าวของตระกูลได้ความกระทบกระเทือน Amar G. Bose จึงได้ออกความคิดเห็นกับพ่อของเขาว่าจะเปิดบริษัทซ่อมแซมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียนในการนำวิทยุ หรือโทรทัศน์ที่เสียของลูกค้ามาซ่อม พร้อมทั้งเขายังพูดอีกว่า "หากว่าเกรดที่โรงเรียนผมดี ผมจะแสร้งป่วย 1 วันต่ออาทิตย์เพื่อที่จะมาช่วยซ่อมวิทยุนะฮะ" นั่นจึงทำให้คุณพ่อของเขาสังเกตเห็นคุณสมบัติพิเศษในตัวของลูกชาย
โดยพ่อเองก็ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า "พวกเราจะส่งลูกของพวกเราไปศึกษาที่สถาบันที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Amar G. Bose ได้เข้าศึกษาเล่าเรียนณ Massachusetts Institute of Technology (MIT) ซึ่งตอนนั้นคุณพ่อของ Amar G. Bose กู้เงินจำนวน 330,000 บาท เพื่อให้ลูกชายของเขาได้เรียนรู้ในสถาบันที่ดีที่สุดนั่นเอง และหลังจากนั้น 9 ปีถัดมา Bose ได้จบดุษฎีบัณฑิต ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ที่ขณะนั้นมีอายุแค่เพียง 27 ปีเท่านั้น และได้ริเริ่มทำงานเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ พร้อมกับเริ่มมองหาสิ่งที่ตัวเองโปรดปรานตั้งแต่เด็กก็คือเครื่องเล่นเสียงสเตอริโอนั่นเอง โดยเขาคิดว่าของแพงคือของดี และแล้วเขาก็คิดผิด เพราะสิ่งที่เขาได้รับเป็นเครื่องเล่นเสียงสเตอริโอราคาแพงที่มีน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำมาก อีกทั้งน้ำเสียงผิดเพี้ยนไปจากดนตรีต้นฉบับพอควร เรื่องนี้จึงทำให้เขาตระหนักว่าพึงมี Bose Corporation ที่สร้างเครื่องเสียงที่ดี และทรงคุณภาพได้แล้ว
และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Bose ก็เป็นที่นิยมอย่างเร็ว แพร่ขยาย และได้กลับกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกหยิบยกออกไปขายทั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งได้รับความไว้ใจจาก Bose(R) Corporation สหรัฐฯ ซึ่งมีบริษัท อัศวโสภณ จำกัด เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้า Bose(R) เครื่องเสียงชั้นดีของโลกแต่ผู้เดียวในเมืองไทย ครั้นปี พ.ศ. 2512 จวบจนกระทั่งล่าสุด ถือได้ว่าเป็น Bose Thailand เลยก็ว่าได้
โดยตอนนั้นได้ดำเนินงานโดยคุณทวี อัศวโสภณ และด้วยความเชื่อใจของทั้งสองฝ่ายที่มีให้กัน จึงทำให้ Bose Thailand สามารถหยัดยืน พร้อมทั้งถือครองตลาดเครื่องเสียงและลำโพงมากระทั่งสมัยนี้ ถัดจากนั้นต่อมาบริษัทอัศวโสภณจะดูเงียบๆ ไปในเชิงธุรกิจ ในยุคของคุณไพศาล อัศวโสภณ ผู้บริหารอัศวโสภณ รุ่นที่ 2 โดยเป็นบุตรของคุณทวี อัศวโสภณ นั่นเอง โดยคุณไพศาล อัศวโสภณเป็นผู้ที่มุ่งเน้นเรื่องงานด้านเทคนิคมากกว่าการตลาดนั่นเอง เขาจึงไม่ค่อยสนใจในเรื่องของการลดราคา แลก แจก แถมสักเท่าไรนัก โดยเขาจะมุ่งเน้นเรื่องคุณภาพมากกว่านั่นเอง
แต่แล้วก็เข้าสู่ช่วงเวลาที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทุกธุรกิจได้รับผลพวงหมด มูลค่าตลาดก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง มีผลให้รายได้ของบริษัท ในขณะนั้นลดน้อยลงไปมากพอตัว อย่างไรก็ตามคุณไพศาลก็ยังมั่นใจว่าลูกค้าเก่าจักยังอยู่กับ BOSE ต่อไป อย่างไรก็ดีในความเป็นจริงแล้วนั้น การทำกิจการในขณะนั้นเริ่มยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากอย่างที่แจ้งไปในตอนแรกว่าคุณไพศาลพึงใจงานด้านเทคนิคมากกว่าการดำเนินการทางด้านการตลาด เป็นเหตุให้ใครหลายๆ คน เป็นห่วงสถานการณ์ของอัศวโสภณไม่เบาในขณะนั้น
แต่ว่าก็ผ่านพ้นมาได้กระทั่งถึงเวลานี้ ที่คว้าคุณยิ่งฉัตร อัศวโสภณ บุตรชายคนโตของคุณไพศาล อัศวโสภณ นั่นเอง ที่มาช่วยการงานในส่วนการตลาด เพราะว่าคุณยิ่งฉัตร อัศวโสภณ ได้เรียนจบปริญญาโททางด้านการบริหารจาก Central Michigan University จัดว่าเป็นรอยเชื่อมที่ลงตัวอย่างยิ่งที่ อัศวโสภณ หรือ Bose Thailand มีทั้งการตลาดที่ยอดเยี่ยมจากคุณยิ่งฉัตร อัศวโสภณ อีกทั้งงานทางด้านเทคนิคที่สุดยอดจากคุณไพศาล อัศวโสภณ จนทำให้อัศวโสภณยังคงอยู่กับ Bose เรื่อยมาจนขณะนี้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : bose ราคา

Tags :  bose thailand, bose,bose ราคา