สวัสดี บุคคลทั่วไป

ประวัติศาสตร์สังคม ร็อกแอนด์โรล ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 240 อ่าน
                ถ้าคุณเป็นผู้ที่หลงเสน่ห์ในเสียงเพลง หรือเสียงเพลง เชื่อว่าท่านจักต้องรู้จักแบรนด์เครื่องเสียงยี่ห้อนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องมาจากเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างหนัก เช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และอื่นๆ อีกมากมาย โดยประวัติภูมิหลังของแบรนด์นี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตำนานวงการดนตรีRock 'n' Rollเลยก็ว่าได้ และยี่ห้อที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยภูมิหลังของ Marshall นั้น จักมีภูมิหลังเช่นไรบ้าง และเพราะเหตุใดถึงได้มาเป็นยี่ห้อสุดยอดเช่นนี้ ข้าพเจ้าจะมาหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้จัดตั้งขึ้นโดย Jim Marshall ซึ่งต้นกำเนิดอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมือเก่ามาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง หลังจากนั้นก็ได้ผันตัวเองมาดำเนินงานกิจการร้านขายเครื่องดนตรี อีกทั้งอุปกรณ์หลากหลาย ซึ่งริเริ่มจากการจัดจำหน่ายกลองชุดพร้อมทั้งกีตาร์ในลอนดอนย่าน Hanwell โดยผู้ซื้อเป็นส่วนใหญ่จะเป็นนักดนตรีเพลงRock 'n' Roll ที่มีความโด่งดังในคราวนั้น อย่างเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้ซื้อเพิ่มมากขึ้น
                ภายหลังก็เริ่มมีนักดนตรีชื่อดัง หลายคนอยากได้แอมป์ หรือเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ และเสียงดังกว่าเดิม เพราะอุปสรรคที่เจอส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องความดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอดีในการสำแดงโชว์สดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจลองทำออกมาจำหน่าย และดันประสบความสำเร็จอย่างมาก กลายเป็นการบอกเล่าปากต่อปาก จนกระทั่งคณะดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาผลิตออกมาจำหน่ายอย่างตั้งใจ และได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นในปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นต้นตอของแบรนด์ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายโปรดปราน ยิ่งกว่านั้นยังเอื้อนเป็นความเห็นเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่เสียงดีเลิศตามที่เคยมีมา (ในช่วงเวลานั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และต่อจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมด้วยตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความเชื่อใจจากมือกีตาร์แนวบลูส์ สายร็อก จากวงดัง ระดับตำนานเช่นว่า The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC เป็นต้น
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในช่วงเวลา 60 ของ Marshall แบบสังเขป อย่างไรก็ตามครั้นยุคได้ล่วงก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่ชำนาญในวงการเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและหยิบยกเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าร่วมมือในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทันยุค ทันสมัย และถูกต้องตามความหวัง หรือตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone โดยเป็นสินค้าชนิดหูฟัง เพื่อให้ผู้ใช้ หรือว่าสามัญชนสามัญให้ได้รับประสบการณ์การรับฟังเสียงดนตรีในแบบของ Marshall รวมถึงผลิตภัณฑ์พวกลำโพงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ ซึ่งนั่นทำให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างเต็มเปี่ยมเช่นเดียวกัน ด้วยแนวเสียงที่ไม่เหมือนใคร และดีไซน์ที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิค สละสลวย โดยรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าสนใจ และจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังปราศจากสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจักมีรายละเอียดปลีกย่อยดังต่อไปนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิคอยู่ภายในตัว ออกแบบสวยงาม ดูดีมีสไตล์ ขนาดเล็กสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้ง่าย มีการต่อโดยเร็วด้วย Bluetooth 4.0 แต่กระนั้นสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นกัน  สามารถใช้งานได้นานมากถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) และใช้เวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ด้านของสุรเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะเบสแน่นๆ เสียงร้องคมชัด มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกรายละเอียดของชิ้นเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีมาก สมกับการเป็นสุดยอดประวัติศาสตร์แบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกแท้จริง ซึ่งหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ มูลค่าจะอยู่ที่ไม่เลย 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ที่ได้ออกค้าขายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นกัน ทว่าเรื่องของคุณภาพนั้นมิได้ต่ำต้อยไปกว่าแต่เดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้สุรเสียงที่กระจ่างครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ออกแบบด้วยไดร์ฟเวอร์ด้านในทั้งหมด 3 ตัว รวมถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. อีกทั้ง INPUT2 หรือ RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีความสามารถเฉพาะในการปรับเสียงทุ้มแหลมได้ด้วย ให้เสียงเสมอเหมือนคุณกำลังฟังดนตรีจากการเล่นดนตรีสดเลยก็ว่าได้ โดยลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จักมีความถูกที่ไม่เลย 15,900 บาท หากเปรียบกับสุรเสียงที่ได้มา ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางเราได้หยิบยกฝากกันในวันนี้ ซึ่งจักเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยก่อนจนกระทั่งสมัยนี้นั้น ชาวเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้แทบจะทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่มากมายมากหลายรุ่นที่ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยยาวนานเพียงใด แต่ Marshall ก็ยังคงความคลาสสิกตามสไตล์แบบ Marshall มิเคยเปลี่ยนแปลง

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall