สวัสดี บุคคลทั่วไป

บรรพบุรุษ Huawei P Series

  • 0 ตอบ
  • 302 อ่าน
บรรพบุรุษ Huawei P Series
« เมื่อ: มกราคม 14, 2019, 05:20:58 PM »
ถ้าหากพูดถึง Huawei สายสกุล P Series ตัวแรกที่คิดถึงเลย ก็น่าจะหลบไม่พ้น Huawei P9 เนื่องด้วยช่วงที่เปิดฉากรุ่นนี้ออกมาครั้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 ถือว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยความเป็นกล้องคู่ที่ได้รับการผสมผสานของเทคโนโลยีที่ร่วมพัฒนากับ LEICA จึงทำให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างงดงาม และยังได้รับความนิยมชมชอบอยู่ในเวลานี้ วันนี้ผมจะนำทางย้อนรอยเรื่องกล้องของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องหลัง 2 กล้องถ่ายภาพที่ทาง Huawei ได้ร่วมกันกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องถ่ายรูประดับตำนานมาเข้าร่วมดีไซน์กล้องถ่ายภาพให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องข้างหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งล่าง LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการแสดงช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขแนบท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งถือเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่กำลังดีเลยเชียว
 
 โดยกล้องถ่ายรูปตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายรูปที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะกล้องถ่ายรูปตัวที่ 2 จะเป็นกล้องถ่ายภาพที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่ชัดกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปกติ และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายความว่าปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus เช่นเดียวกันเลย อีกอย่างถึงจะแบ่งแยกเป็นกล้องถ่ายภาพ RGB กับ กล้อง Monochrome แต่ว่ากล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวจะทำงานด้วยกันอยู่แล้ว จึงทำให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดในส่วนสีขาว-ดำชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูปทั่วไป รวมไปถึงสามารถปรับโฟกัสหลังจากทำการถ่ายภาพได้ด้วยเช่นกัน

 ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังจัดว่ายังทำออกมาได้ดีแม้จะไม่ใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องถ่ายรูปด้านหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างสว่าง หน้าขาวใส หากใครที่ชอบเซลฟี่ ก็ไม่ควรพลาด ยิ่งกว่านั้นยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน เช่นคุณไปงานรื่นเริงกลางคืน แต่ต้องการเซลฟี่ คุณก็สามารถถ่ายได้ทุกแห่ง โดยไม่ต้องแลหาแสงจากที่ไหน เพราะจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างโดยทันทีที่คุณลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำงานราวกับแฟลชข้างหน้าเลยเชียว
 
 และหากล้วงลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงเริ่มที่โหมดอัตโนมัติ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานสบายที่สุด เพราะแค่เพียงยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์แค่นั้น เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่หัดถ่ายภาพ แต่ต้องการรูปถ่ายที่สวยงาม โหมดออโต้ก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายรูปอยู่บ้าง โดยท่านสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ ซึ่งตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย ถ้าหากใครอยากนำไปแก้ไขในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็มิได้มีอานุภาพในการแต่งเยอะมากมาย เหตุด้วยข้อจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้อง Monochrome ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นยี่ห้อแรกที่มีกล้องถ่ายรูปเพื่อถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่กระจ่าง สวยงามมาก เหมือนยังกะมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการเลียนแบบรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งอาจจะทำได้ไม่ดีเหมือนกับกล้องใหญ่อย่าง DSLR เพราะว่ามีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนน่าอาย
 
 และโหมดสุดท้ายที่ไม่แนะนำมิได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าหากว่าท่านมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่คุณจะได้นี่ทัดเทียมกล้องถ่ายรูปใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะหากไร้ขาตั้งกล้อง อาจจะเป็นเหตุให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้คุณสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยทีเดียว แต่หากไม่อยากปรับเปลี่ยนอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้ออโต้ได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีสาระสำคัญ สเปคการใช้งานต่างๆ ที่น่าสนใจอีกจำนวนมาก แต่อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ว่า Huawei กลุ่ม P Series นั้น มีจุดเด่นที่กล้องถ่ายรูปอยู่แล้ว ซึ่งถ้าหากใครที่นิยมชมชอบการถ่ายรูป และต้องการรูปที่ค่อนข้างมีคุณภาพเท่าเทียมกล้องใหญ่ๆ อีกทั้งยังสามารถติดตัวได้อย่างราบรื่นมากกว่าพกกล้องถ่ายรูปจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งเดี๋ยวนี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง ซึ่งเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ หรือร้านค้า ราคาอาจแตกต่างกันออกไป ยังไงก็ลองสำรวจราคากันอีกครั้งนะครับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : Huawei p9 ราคา

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9