สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานวงการ Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 222 อ่าน
ตำนานวงการ Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: มกราคม 15, 2019, 04:53:18 PM »
                ถ้าหากท่านคือผู้ที่หลงรักในเสียงเพลง หรือเสียงเพลง มั่นใจว่าท่านจะต้องรู้จักแบรนด์เครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมชมชอบอย่างยิ่ง อย่างเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และต่างๆ อีกนานาประการ โดยเรื่องราวภูมิหลังของยี่ห้อนี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์สังคมดนตรีRock and Rollเลยก็ว่าได้ และแบรนด์ที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง ซึ่งภูมิหลังของ Marshall นั้น จะมีภูมิหลังอะไรบ้าง พร้อมด้วยด้วยเหตุใดถึงได้มาเป็นยี่ห้อยิ่งใหญ่ปานฉะนี้ อีฉันจักมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้จัดตั้งขึ้นโดย Jim Marshall ซึ่งจุดเริ่มต้นอยู่ที่การเป็นนักดนตรีผู้ช่ำชองมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง ต่อมาก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาปฏิบัติงานกิจการร้านขายของขายเครื่องดนตรี อีกทั้งอุปกรณ์อื่นๆ โดยริเริ่มจากการค้าขายกลองชุดและกีตาร์ในลอนดอนบริเวณ Hanwell โดยผู้ซื้อเป็นส่วนใหญ่จักเป็นนักดนตรีเพลงร็อกแอนด์โรล ที่มีความโด่งดังในคราวนั้น ดังเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น
                ต่อจากนั้นก็เริ่มมีนักดนตรีมีชื่อเสียง หลายคนอยากได้แอมป์ หรือว่าเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งดังกว่าเดิม เนื่องจากปัญหาที่เจอส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นเรื่องความดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอในการบรรเลงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจลองทำออกมาจำหน่าย และดันสำเร็จเหลือเกิน กลายเป็นการเล่าปากต่อปาก จนคณะดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงได้ทำออกมาจำหน่ายอย่างตั้งใจ พร้อมทั้งได้จัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดแรกเริ่มของแบรนด์ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายพอใจ รวมถึงยังพูดคือความเห็นเดียวกันว่าคือแอมป์กีตาร์ที่เสียงเยี่ยมเท่าที่เคยมีมา (ในยุคนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และหลังจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาสร้างแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมกับตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความเชื่อมั่นจากมือกีตาร์แนวบลูส์ สายร็อก จากวงโด่งดัง ระดับประวัติศาสตร์เช่นว่า The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมถึง AC/DC เป็นอาทิ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในสมัย 60 ของ Marshall แบบสังเขป อย่างไรก็ดีครั้นเมื่อเวลาได้ล่วงเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่เชี่ยวชาญในวงการเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมมือในการสร้างสินค้าเพื่อทันยุค ทันสมัย พร้อมทั้งถูกต้องตามความอยาก หรือตอบโจทย์ผู้ซื้อเยอะขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พวกหูฟัง เพื่อให้ผู้ใช้ หรือว่ามนุษย์ทั่วๆ ไปให้ได้รับประสบการณ์การสดับตรับฟังเสียงเพลงในสไตล์ของ Marshall รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ประเภทลำโพงที่สามารถเชื่อมบลูทูธได้ ที่นั่นเป็นเหตุให้ Marshall ฮิตอย่างล้นหลามด้วย ด้วยแบบเสียงที่ไม่เหมือนใคร และการออกแบบที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิค สวยงาม โดยรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่ารู้ พร้อมกับจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้
 
หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิกอยู่ข้างในตัว ออกแบบสวยงาม งามตามีสไตล์ ขนาดกะทัดรัดสามารถพับได้ ทำให้พกติดตัวไปไหนต่อไหนได้ง่ายดาย มีการเชื่อมต่อฉับพลันด้วย Bluetooth 4.0 แต่ว่าสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเหมือนกัน  สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ Li-ion Polymer (680mAh) และกินเวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งผ่าน Micro USB ด้านของน้ำเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกส่วนรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเลิศ เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดตำนานยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกจริงๆ ซึ่งหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ ราคาจักอยู่ที่ไม่มากเกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ที่ได้ออกจัดจำหน่ายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นกัน เสียแต่ว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ต่ำไปกว่าแต่เดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้เสียงที่กระจ่างครบถ้วน ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ด้านในทั้งสิ้น 3 ตัว อีกทั้งยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. พร้อมกับ INPUT2 หรือ RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีฝีไม้ลายมือในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้อีกด้วย ให้เสียงเสมือนท่านกำลังฟังเสียงดนตรีจากการแสดงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ โดยลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จักมีราคาถูกที่ไม่เกิน 15,900 บาท หากว่าเปรียบเทียบสุรเสียงที่ได้รับ นับว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางพวกเราได้หยิบยกฝากกันในวันนี้ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่อดีตกระทั่งยุคปัจจุบันนั้น ชาวเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Marshall สัญชาติอังกฤษนี้แทบทุกเวทีเลย รวมไปถึงหูฟัง และลำโพงที่มากมายก่ายกองมากหลายรุ่นที่ไม่ว่าระยะเวลาจักล่วงเลยยาวนานเท่าใด แต่ว่า Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิคตามแนวแบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall