สวัสดี บุคคลทั่วไป

ทำความรู้จัก Xiaomi มังกรหนุ่มแห่งวงการเทคโนโลยี

  • 0 ตอบ
  • 234 อ่าน
ปฎิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันนี้ สมาร์ทโฟนจากแบรนด์มือถือจีนมาแรงมากจริงๆ และเชื่อว่าในณ เวลานี้หลายๆ คนอาจคุ้นชื่อกับ Xiaomi (เสี่ยวมี่)หนึ่งในยี่ห้อโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับต้นๆ ของจีนที่ข้ามน้ำมาทำตลาดที่ไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยจุดเด่นในเรื่องสมรรถนะการใช้งาน ในมูลค่าไม่แพงมาก อีกทั้งยังมาในดีไซน์พรีเมี่ยมอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกมาเร็วๆ นี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จและที่สำคัญยังทำให้ดีขึ้นไปในผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอื่น ๆ ด้วย พวกเราไปทำความรู้จักกับ Xiaomi ให้เพิ่มขึ้นดีกว่า
 
 ย่างก้าวแรกเริ่มของ Xiaomi เปิดม่านในเดือน เมษายนปี 2010 โดย Lei Jun (เหลย จุน) อดีตซีอีโอของ Kingsoft ที่เป็นบริษัทที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นทางด้านเอกสารออฟฟิศกลุ่ม Word, Excel และ PowerPoint ระยะเริ่มแรก เสี่ยวหมี่ ยังไม่ได้ทำฮาร์ดแวร์ของตนเอง แต่เริ่มต้นจากเป็นทีมทำรอมแบบ After Market ให้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในนาม MIUI (อ่านว่า "Me You I")
 
 ปี 2011 Xiaomi เริ่มต้นพัฒนาตัวเองจากการทำรอม มาเป็นการผลิตฮาร์ดแวร์ของตนเองด้วยการเปิดตัวมือถือ Mi One ออกจำหน่ายในสาธารณรัฐประชาชนจีนและสร้างความฮือฮา เนื่องมาจากเป็นโทรศัพท์มือถือสเปกสูงในราคาไม่แพง จนกวาดยอดขายได้กว่า 7 ล้านเครื่อง เกินเป้าที่ตั้งไว้เพียงหลักแสนเครื่องเท่านั้น
 
 ในปีต่อมาก็ปล่อย Mi2 ก็พบกับยอดขายล็อตแรก 50,000 เครื่องในประเทศจีนหมดเกลี้ยงใน 3 นาที จนกระทั่งทำให้ทางบริษัทรับรู้ว่าสินค้าของตนเองนั้นโดนใจลูกค้าในวงกว้างแค่ไหน
 
 และในปี 2014 Xiaomi ก้าวข้ามหลักการว่าสมาร์ทโฟนประเทศจีนผลิตเพื่อคนจีนเท่านั้น โดยเริ่มออกไปทำตลาดโลก ซึ่งบุกเบิกจากประเทศสิงคโปร์ ด้วยการเปิดประวัติศาตร์ในการซื้อขายโทรศัพท์เคลื่อนที่บนระบบ E-commerce ที่สามารถขายหมดเกลี้ยงได้เพียงสองนาทีแรกของการเปิดขาย เมื่อได้รับปฏิกิริยามากเกินการคาดการณ์ Xiaomi ไม่เพียงย่างก้าวต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับแผนธุรกิจของหลายๆแบรนด์ในสมัยนี้ที่คาดหวังการครองตลาดเฉพาะภายในประเทศและประเทศใกล้เคียงเท่านั้น อย่างเช่น ดินแดนในโซนทวีปเอเชีย อินโดนีเซีย ประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ประเทศอินเดีย อย่างไรก็ดียังมุ่งหมายไปถึงการยึดครองตลาดโลกอย่าง ตุรกี รัสเซีย บราซิล พร้อมทั้ง ประเทศแม็กซิโก เพื่อที่จะตอกย้ำว่าผลิตภัณฑ์จากแดนมังกรก็มีคุณภาพที่ระดับโลกไว้ใจ
 
 จุดแข็งของโทรศัพท์เคลื่อนที่ Tablet และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของทาง เสี่ยวหมี่ จะอยู่ที่สเปกของฮาร์ดแวร์เมื่อเปรียบเทียบกับราคาแล้วคุ้มมาก ตัวอย่างเช่นสมาร์ทโฟน Mi8 ตัวตัวท็อปช่วงนี้ คุณจะได้โทรศัพท์มือถือ ชิป Snapdragon Snapdragon845, RAM 6/8 GB, ROM 64/128/256 GB กล้องถ่ายรูปด้านหลังคู่ความละเอียด 12 + 12 MP พร้อมด้วยระบบถ่ายด้วย AI ส่วนกล้องข้างหน้า 20 MP รองรับสแกนลายพิมพ์นิ้วมือและ 3D Face Unlock รวมถึงมี Dual GPS เพื่อความเที่ยงตรง และทันใจ ส่วนแบตเตอรี่ความจุ 3400mAh ในราคาราวหมื่นบาทกลาง ๆ เท่านั้น
 
 ในด้านฮาร์ดแวร์ Xiaomi ประดิษฐ์ไปไกลกว่ามือถือหรือTabletมาก บริษัททยอยเปิดตัวสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อีกหลายตัว อาทิเช่น
 
 Mi TV 2 เป็นสมาร์ททีวี 4K ขนาด 49 นิ้ว มูลค่า 3,999 หยวน (ราว 21,000 บาท) พร้อมทั้งชิปประมวลผลและกราฟิกในตัว สำหรับใช้เล่นเกม เชื่อมต่อบริการคอนเทนต์สนุกสนานมากมาย
 
อุปกรณ์สุขภาพ Xiaomi ก็ขอตามสมัยนิยม Wearable Device ด้วย Mi Band ที่เป็นอุปกรณ์วัดค่าสุขภาพชนิดสวมใส่ติดตัว สำหรับสังเกตวัตถุประสงค์การใช้ชีวิตในแต่ละวันในราคาไม่ถึงพันบาท
 
 และอื่นๆ อีกมากมาย เช่น วัสดุอุปกรณ์อย่างหูฟัง, เครื่องชั่งน้ำหนัก, กล้องแอ๊กชั่นแคม (Yi), แบตเตอรี่สำรอง, เครื่องฟอกอากาศ ฯลฯ
 
 ปี 2017 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีที่ดีของ เสี่ยวหมี่ ก็เพราะว่าในช่วงไตรมาสหลังสุดของปี แม้ยอดจำหน่าย ลดน้อยลงทั่วโลก 6.3% แต่ทว่าถ้าเปรียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น Xiaomi มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นถึง 96.9% เลยทีเดียว โดยมียอดจำหน่ายมือถือมากขึ้นถึง 75% และขยายตลาดสู่ระดับสากลด้วยการส่งเสริมไปสู่ตลาดสเปน และสร้างยอดขายมหาศาลในตลาดประเทศอินเดีย ประเทศอินโดนีเซีย และสหภาพโซเวียต โดยในปี 2017 นี้ Xiaomi คือผู้ผลิตลำดับ 5 ของโลกที่ผลิตมือถือมากที่สุด และเป็นลำดับ 4 ของโลกในด้านยอดจำหน่าย ด้วยการทำยอดรวมมากกว่า 1แสนล้านหยวน เลยทีเดียว
 
 โดย Lei Jun ผู้สร้าง และ CEO ของ Xiaomi ประกาศว่าหน้าที่สำหรับปี 2018 นี้ จะเป็นผู้ก่อกำเนิดในตลาดโลกและเป็นอันดับ 1 ในถิ่นฐานอย่างสาธารณรัฐประชาชนจีนใน 30 เดือน
 
 จะเห็นได้ว่าโมเดลการทำธุรกิจการค้าของ Xiaomi นั้น ไม่เคยที่จะหยุดนิ่งและสุขใจกับผลสำเร็จในปัจจุบัน แต่ยังคงรุดหน้าเพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ไม่ใช่เพียงไลน์ของสมาร์ทโฟน แต่ยังรวมถึงสมาร์ทแก็ดเจ็ตอื่น ๆ ด้วย หวังว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งหนทางให้ท่านผู้อ่านที่กำลังประกอบธุรกิจชี้ทางเป็นแรงบันดาลใจและปรับใช้กันนะครับผม

Tags : Xiaomi,ราคา Xiaomi,เสี่ยวหมี่