สวัสดี บุคคลทั่วไป

ต้นตระกูล Huawei P Series

  • 0 ตอบ
  • 199 อ่าน
ต้นตระกูล Huawei P Series
« เมื่อ: มกราคม 21, 2019, 12:59:39 AM »
ถ้าหากเอ่ยถึง Huawei พวก P Series ตัวแรกที่นึกถึงเลย ก็น่าจะหลบหนีไม่พ้น Huawei P9 เนื่องด้วยช่วงที่เปิดฉากรุ่นนี้ออกมาครั้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 จัดว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยความเป็นกล้องคู่ที่ได้รับการผสมผสานของเทคโนโลยีที่เข้าร่วมพัฒนากับ LEICA จึงเป็นเหตุให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างสวยงาม และยังได้รับความนิยมชมชอบอยู่ในทุกวันนี้ วันนี้กระผมจะนำทางย้อนรอยเรื่องกล้องถ่ายภาพของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องถ่ายภาพข้างหลัง 2 กล้องที่ทาง Huawei ได้ร่วมแรงร่วมใจกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องขั้นตำนานมาเข้าร่วมดีไซน์กล้องให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องถ่ายภาพหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งใต้ LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการบ่งชี้ช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขต่อท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งถือเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่เหมาะเลยเชียว
 
 โดยกล้องตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะกล้องถ่ายรูปตัวที่ 2 จะเป็นกล้องถ่ายรูปที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่คมชัดกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปรกติ และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายถึงปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus อย่างเดียวกันเลย อีกอย่างถึงแม้จะแบ่งแยกเป็นกล้องถ่ายภาพ RGB กับ กล้องถ่ายภาพ Monochrome แต่ว่ากล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวจะทำงานร่วมกันอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดในส่วนสีขาว-ดำคมชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูปทั่วๆ ไป รวมถึงสามารถปรับจุดโฟกัสหลังจากทำการถ่ายภาพได้ด้วยเหมือนกัน

 ด้านกล้องถ่ายภาพหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังถือได้ว่ายังทำออกมาได้ดีทั้งที่จะไม่ใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องด้านหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างจะสว่าง หน้าขาวใส ถ้าใครที่นิยมชมชอบเซลฟี่ ก็ไม่ควรพลาด ยิ่งกว่านั้นยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงสว่างน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นท่านไปงานฉลองยามค่ำคืน แต่อยากเซลฟี่ คุณก็สามารถถ่ายได้ทุกแห่ง โดยไม่ต้องมองหาแสงจากที่ใด เพราะว่าหน้าจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างทันทีที่คุณลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำงานเหมือนกับแฟลชหน้าเลยเทียว
 
 และถ้าเจาะลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงเริ่มที่โหมดออโต้ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานสะดวกที่สุด ก็เพราะว่าแค่เพียงยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์เท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่ฝึกถ่ายรูป แต่อยากได้รูปที่สวยงาม โหมดออโต้ก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายรูปอยู่บ้าง โดยคุณสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ โดยตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย ถ้าหากใครอยากนำไปแต่งในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็มิได้มีอานุภาพในการแต่งเยอะมากมาย เนื่องด้วยขีดจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้อง Monochrome ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นแบรนด์เริ่มแรกที่มีกล้องถ่ายภาพเพื่อถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่คมชัด สวยงามมาก เหมือนยังกับมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการเลียนแบบรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งคงจะทำได้ไม่ดีราวกับกล้องถ่ายภาพใหญ่อย่าง DSLR เนื่องด้วยมีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนขี้ริ้วขี้เหร่
 
 และโหมดสุดท้ายนี้ที่ไม่แนะนำมิได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าหากคุณมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่คุณจะได้นี่เทียบเท่ากล้องถ่ายรูปใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะถ้าไร้ขาตั้งกล้อง อาจจะทำให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้คุณสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยเชียว แต่หากไม่ต้องการปรับเปลี่ยนอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้อัตโนมัติได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีจุดสำคัญ สเปคการใช้งานอื่นๆ ที่น่าศึกษาอีกมาก แต่อย่างที่เสนอไปในข้างต้น ว่า Huawei สายสกุล P Series นั้น มีข้อเด่นที่กล้องอยู่แล้ว ซึ่งหากว่าใครที่ชอบการถ่ายภาพ และต้องการภาพถ่ายที่ค่อนข้างจะมีคุณภาพเทียบเท่ากล้องถ่ายรูปใหญ่ๆ แถมสามารถติดตัวได้อย่างสะดวกมากกว่าพกกล้องถ่ายภาพจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งเวลานี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง โดยเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ หรือร้านค้า ราคาอาจจะแตกต่างกันออกไป ยังไงก็ลองตรวจสอบราคากันอีกครั้งนะฮะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : Huawei p9 ราคา

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9