สวัสดี บุคคลทั่วไป

กล้องถ่ายรูป VS กล้องถ่ายรูปสมาร์ทโฟน หากหนักห่างกันไม่กี่ขีด...แล้วคุณจะเลือกอะไร?

  • 0 ตอบ
  • 172 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ครั้นสิ่งที่อยู่ข้างหน้า มันน่าจำขึ้นใจจนต้องเก็บบันทึกออกมาเป็นรูปถ่าย และมันจักพิเศษขึ้นไปอีก เมื่อข้างในภาพมีคนพิเศษอยู่ด้วย ซึ่งมั่นใจว่าสิ่งที่จะช่วยให้คุณได้เก็บภาพความทรงจำดีๆเหล่านั้น นอกจากสมอง และหัวใจของเราแล้ว ก็ต้องเป็น "กล้องถ่ายรูป" นั่นเอง โดยในสมัยนี้ ใครก็ตาม ต่างก็มีโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องถ่ายภาพพร้อมมาด้วย เพื่อง่ายต่อการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องสะพายกระเป๋ากล้องใบโต อีกทั้งยังมีความชัดมิได้แตกต่างไปจากกล้องถ่ายรูป DSLR หรือ Mirrorless ซะทีเดียว ถึงกระนั้นที่แท้นั้นมันยังมีอะไรอีกมากหลายที่แตกต่างกันอยู่อย่างยิ่งเลยเชียว
 
อย่างเช่นเรื่องเซนเซอร์ เนื่องด้วยกล้องถ่ายรูปจะมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าเซนเซอร์ของกล้องถ่ายภาพจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยิ่งขนาดเซนเซอร์ใหญ่เท่าไหร่ ก็จะเก็บแสงได้เหนือกว่า ได้รายละเอียดภาพที่มากกว่า มีมิติเหนือกว่า รวมถึงทำให้ปรับความตื้นลึกของภาพได้อย่างหลากหลายมากกว่า สำหรับโทรศัพท์มือถืออาจทำได้ไม่ดีเท่ากล้องถ่ายภาพเท่าไหร่นัก พร้อมทั้งสิ่งเหล่านี้ยังมีผลกระทบต่อคุณภาพของภาพที่ได้ด้วย ยิ่งกว่านั้นยังช่วยลด Noise หรือเม็ดสีที่แตกในภาพ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปมาดูภาพจากกล้องถ่ายภาพสมาร์ทโฟนก็จะเจอ Noise มากกว่าภาพจากกล้องทั่วๆ ไป นั่นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเซนเซอร์จาก กล้องถ่ายภาพโทรศัพท์เคลื่อนที่เล็กกว่ากล้องถ่ายภาพทั่วๆ ไป
 
ถัดจากนั้นก็จะเป็น Optical zoom ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้กล้องถ่ายภาพดีกว่ากล้องถ่ายภาพจากสมาร์ทโฟน ถ้าหากเป็นการขยายของกล้องถ่ายภาพ เจ้าสามารถปรับได้ตามความต้องการได้เลย โดยน้อยรายในหมู่ยี่ห้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่จะมีสรรพคุณนี้ เพราะว่าภาพบางภาพ ก็จำเป็นจะต้องใช้การขยายแบบ Optical เพื่อให้ได้ความเกี่ยวพันของสิ่งของบนภาพที่ดียิ่ง รวมไปถึงหน่วยความจำก็ยังสำคัญ เนื่องด้วยในโทรศัพท์มือถือของเจ้าอาจมีทั้งรูปถ่าย เพลง หนัง หรือไฟล์วิดีโอ ซึ่งนั้นเป็นปัญหาชัวร์ ถ้าท่านคิดว่าจะใช้กล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ถ่ายรูปท่านตลอดทริปที่กินซ่าหรือไม่พาคนรักเที่ยวตะลอน Universal Studios เพราะว่าเจ้าคงจะมิต้องการมานั่งลบภาพถ่าย ลบเพลงโปรด หรือลิสภาพยนตร์โด่งดังของเธอหรอก แต่หากว่ายอมสะพายกล้องถ่ายภาพสักตัว พร้อมทั้งเมมรี่การ์ดสำรองสัก 2-3 อัน มั่นใจว่าเธอได้ทั้งภาพถ่ายที่มากมาย และไฟล์วิดีโอตลอดทั้งทริปของเธอแน่นอน
 
นั่นเป็นข้อมูลขั้นแรกว่าเพราะเหตุใดเราถึงต้องยอมสะพายกล้องถ่ายภาพตัวหนัก แล้วต้องยอมพักกล้องถ่ายภาพโทรศัพท์มือถือไว้ก่อน และอาจพักยาวๆ เลย หากได้รู้จักกับกล้องถ่ายรูปตัวนี้ นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 III ซึ่งกล้อง Olympus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรี่ส์ OM-D โดยก่อนหน้าจะมีรุ่นพี่เป็น E-M5 และ E-M1 นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าตัวล่าสุด มันจะต้องดีกว่าตัวก่อนๆ แน่นอน เรามาดูจุดหลัก ๆ ของกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III ดีกว่าว่าคุ้มค่าต่อการพกพา ยิ่งกว่ากล้องถ่ายภาพโทรศัพท์มือถือไหม
 
กล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III เป็นกล้องถ่ายรูปเปลี่ยนเลนส์ได้ระบบ Micro Four Thirds ใช้เซนเซอร์ 4/3 Live MOS Sensor ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล และให้ภาพที่ขนาดใหญ่สุดๆที่ 4608 x 3456 และ Ratio ที่เหมาะสมของภาพคือ 4:3 ซึ่งเซนเซอร์ที่ว่ามานี่อาจจะมิใหญ่มาก แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นเป็นอันดี ประเด็นสำคัญของกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ ในความคิดส่วนตัวน่าจะเป็นเรื่องของการระบบกันสั่นของเขา เนื่องจากว่ากล้อง Olympus รุ่นนี้ เป็นระบบกันสั่น 5 แกน สามารถลดการสั่นไหวได้ถึง 4 Stop โดยถ้าถ่ายด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/10 วินาที แล้วถือถ่ายก็ยังทำได้ดีเลย
 
และด้วยความที่ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้ ที่ทำให้ระบบกันสั่น 5 แกนทำงานได้ดี นั่นก็คือ เลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ และโปรเซสเซอร์ประมวลภาพ ซึ่งกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลภาพ TruePic VIII จึงให้รูปที่มีคุณภาพสูงงดงามแม้ในที่แสงน้อย โดยที่เธอมิจำเป็นต้องตั้งค่า ISO สูงๆ ด้วย อีกทั้งยังป้องกันการเกิด Noise ด้วย และด้วยระบบกันสั่น 5 แกนนี้ ยังเป็นเหตุให้การบันทึกภาพยนตร์ของเจ้ามิเป็นอุปสรรคอีกด้วย โดยกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III สามารถบันทึกภาพยนต์คุณภาพสูงถึง 4K เลยเชียว ที่ถึงแม้ว่าจะถือด้วยมือ และมิได้มีเครื่องมือเสริมใดๆ ก็ยังให้ภาพที่ได้ออกมาสะดวก ถ้าเกิดสั่นไหว ก็เกิดได้น้อยที่สุด ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถแยกเฟรมเพื่อบันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ที่บันทึกไว้อีกด้วย

 จะเห็นว่านี่แค่สาระสำคัญเรื่องเดียวของกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III ก็เอาชนะกล้องมือถือขาดลอยแล้ว ยิ่งไปกว่านี้ยังมีคุณลักษณะหลากหลาย อีกเยอะแยะเลยที่ยังมิได้กล่าวถึง อย่างเช่น โหมดถ่ายรูป Auto ที่ให้เจ้าปรับตั้งค่าตามที่เธอต้องการ หรือโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป Scene อีกทั้งโหมดถ่ายภาพขั้นสูง Advanced Photo ที่มีให้เลือกหลากหลาย ตัวอย่างเช่น Live Composite, Live Time และ ถ่ายภาพซ้อน เป็นต้น และโหมด Art Filter ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายอยู่เช่นกัน เพื่อให้ภาพมีความน่าสนใจมากเพิ่มขึ้น และจุดดีอีกอย่างของกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ คือมีขนาดที่เล็ก และพกพาสะดวกมาก ซึ่งมีน้ำหนักเฉพาะแค่บอดี้แค่ 362 กรัม เท่านั้นเอง ตัวนี้จึงสามารถลบคำสบประมาทที่ว่า "กล้องมันหนัก" ไปได้เลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กล้อง olympus

Tags : Olympus,กล้อง olympus,olympus ราคา