สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานแวดวง Rock 'n' Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 242 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ตำนานแวดวง Rock 'n' Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: มกราคม 22, 2019, 01:02:36 AM »
                ถ้าหากคุณเป็นคนที่ลุ่มหลงในเสียงเพลง หรือว่าเสียงเพลง เชื่อว่าท่านจักต้องรู้จักแบรนด์เครื่องเสียงยี่ห้อนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เหตุเพราะเป็นยี่ห้อที่ได้รับความชื่นชอบอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลำโพง หูฟัง เครื่องกระจายเสียง และต่างๆ อีกมากมาย โดยเรื่องราวเรื่องราวของยี่ห้อนี้ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของประวัติศาสตร์วงการดนตรีRock 'n' Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง ซึ่งความเป็นมาของ Marshall นั้น จะมีประวัติเช่นใดบ้าง พร้อมกับด้วยเหตุใดถึงได้มาเป็นยี่ห้อยิ่งใหญ่ปานฉะนี้ อีฉันจะมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ริเริ่มตั้งขึ้นโดย Jim Marshall ซึ่งจุดเริ่มแรกอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมือโปรมาก่อน ซึ่งเล่นในตำแหน่งมือกลอง จากนั้นก็ได้เปลี่ยนตนเองมาจัดการธุรกิจร้านค้าขายเครื่องดนตรี อีกทั้งเครื่องมือหลายอย่าง โดยริเริ่มจากการจำหน่ายกลองชุดพร้อมด้วยกีตาร์ในลอนดอนอาณาบริเวณ Hanwell โดยผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นนักดนตรีดนตรีRock 'n' Roll ที่มีความเด่นในคราวนั้น เช่น ริตชี แบล็กมอร์ ไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้ใช้มากขึ้น
                แล้วก็เริ่มมีนักดนตรีโด่งดัง หลายคนเรียกร้องแอมป์ หรือว่าเครื่องกระจายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งเสียงดังกว่าแต่ก่อน เพราะตัวปัญหาที่ประสบส่วนมากค่อนข้างเป็นเรื่องความเสียงดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอในการบรรเลงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจทดลองออกมาวางขาย และดันบรรลุผลขนานใหญ่ กลายเป็นการเล่าปากต่อปาก จนวงดนตรีหลายๆ วง ให้ความสนใจ Marshall จึงได้สร้างออกมาค้าขายอย่างจริงจัง อีกทั้งได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นแหล่งกำเนิดของยี่ห้อ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายพอใจ อีกทั้งยังเอื้อนเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่เสียงยอดเยี่ยมตามที่เคยมีมา (ในยุคนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดไปมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาสร้างแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความไว้ใจจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงชื่อดัง ระดับตำนานเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC เป็นต้น
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในช่วงเวลา 60 ของ Marshall แบบสรุป ถึงกระนั้นเมื่อเวลาได้ล่วงเลยก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล แบรนด์ Marshall ที่คร่ำหวอดในแวดวงเครื่องเสียงก็ได้พัฒนาและเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมมือในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อทันยุค ทันสมัย อีกทั้งแม่นยำตามความต้องการ หรือตอบโจทย์ลูกค้าเยอะขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์พวกหูฟัง เพื่อให้ผู้บริโภค หรือมนุษย์ทั่วไปให้ได้รับประสบการณ์การสดับตรับฟังเพลงในแบบของ Marshall รวมไปถึงผลิตภัณฑ์พวกลำโพงที่สามารถต่อบลูทูธได้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้ Marshall ได้รับความนิยมอย่างมากมายก่ายกองเหมือนกัน ด้วยสไตล์เสียงที่ไม่เหมือนใคร และการออกแบบที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิค สละสลวย ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าศึกษา อีกทั้งจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth และลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                คือหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิกอยู่ภายในตัว ดีไซน์สวยงาม เรียบร้อยมีสไตล์ ขนาดพอดีสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้ง่ายดาย มีการต่ออย่างรวดเร็วด้วย Bluetooth 4.0 แต่กระนั้นสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นเดียวกัน  สามารถใช้งานได้เป็นเวลายาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) และกินเวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งผ่าน Micro USB ส่วนของเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เหตุด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นส่วนเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเลิศ สมกับการเป็นสุดยอดตำนานยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกโดยแท้จริง ซึ่งหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ สนนราคาจักอยู่ที่ไม่เลย 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่ได้ออกจัดจำหน่ายนานแล้วเหมือนกัน เสียแต่ว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าแต่ก่อนเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้สุรเสียงที่ชัดครบบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ออกแบบด้วยไดร์ฟเวอร์ข้างในทั้งสิ้น 3 ตัว รวมไปถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือว่าแจ็คขนาด 3.5 มม. อีกทั้ง INPUT2 หรือ RCA นอกจากนี้ยังมีสมรรถภาพในการปรับเสียงทุ้มแหลมได้อีกด้วย ให้น้ำเสียงเสมือนคุณกำลังฟังเสียงดนตรีจากการเล่นดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีความถูกที่ไม่เลย 15,900 บาท หากเปรียบเทียบน้ำเสียงที่ได้ ถือได้ว่าคุ้มค่ามากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางกระผมได้นำฝากกันในวันนี้ โดยจักเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยเก่ากระทั่งสมัยปัจจุบันนั้น พวกเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall สัญชาติอังกฤษนี้เกือบจะทุกเวทีเลย รวมไปถึงหูฟัง และลำโพงที่มากมายก่ายกองหลากหลายรุ่นที่ไม่ว่าเวลาจักพ้นไปนานแค่ไหน แต่ Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิกตามแนวแบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยน

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall