สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานวงการ Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 203 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ตำนานวงการ Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: มกราคม 25, 2019, 05:18:16 PM »
                หากคุณเป็นคนที่ติดใจในเสียงเพลง หรือเสียงดนตรี มั่นใจว่าคุณจะต้องรู้จักมักจี่แบรนด์เครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมชมชอบอย่างหนัก อาทิ ลำโพง หูฟัง เครื่องกระจายเสียง และอื่นๆ อีกนานัปการ โดยประวัติความเป็นมาของยี่ห้อนี้ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของตำนานกลุ่มดนตรีRock 'n' Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง ซึ่งเรื่องราวของ Marshall นั้น จะมีภูมิหลังเช่นใดบ้าง อีกทั้งทำไมถึงได้มาเป็นแบรนด์ระดับโลกขนาดนี้ ฉันจะมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้จัดตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดเริ่มต้นอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมืออาชีพมาก่อน ซึ่งเล่นในตำแหน่งมือกลอง แล้วก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาบริหารกิจการร้านรวงขายเครื่องดนตรี พร้อมด้วยวัสดุอุปกรณ์หลากหลาย โดยเริ่มต้นจากการขายกลองชุดพร้อมทั้งกีตาร์ในลอนดอนอาณาบริเวณ Hanwell ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่จักเป็นนักดนตรีเพลงร็อกแอนด์โรล ที่มีความโด่งดังในเวลานั้น เช่น ริตชี แบล็กมอร์ ไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น
                สืบมาก็เริ่มมีนักดนตรีมีชื่อเสียง หลายท่านอยากได้แอมป์ หรือเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ และดังกว่าแต่ก่อน เพราะว่าปัญหาที่เจอโดยมากค่อนข้างเป็นเรื่องความดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอในการบรรเลงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจทดลองออกมาจัดจำหน่าย และดันสำเร็จอย่างหนัก กลายเป็นการบอกเล่าปากต่อปาก จนวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาสร้างออกมาจัดจำหน่ายอย่างเอาจริงเอาจัง และได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นในปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดแรกเริ่มของยี่ห้อ Marshall อย่างถ่องแท้
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่เป็นเหตุให้นักดนตรีทั้งหลายโปรดปราน ยิ่งกว่านั้นยังเอื้อนคือความเห็นเดียวกันว่าคือแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงดีเลิศเท่าที่เคยมีมา (ในยุคนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และต่อจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความไว้วางใจจากมือกีตาร์แนวบลูส์ สายร็อก จากวงดังๆ ระดับประวัติศาสตร์ตัวอย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC ฯลฯ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในสมัย 60 ของ Marshall ฉบับรวบรัด ถึงกระนั้นครั้นเมื่อสมัยได้ผ่านพ้นก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล แบรนด์ Marshall ที่เชี่ยวชาญในแวดวงเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าร่วมในการสร้างสินค้าเพื่อทันยุค ทันสมัย อีกทั้งถูกต้องตามความปรารถนา หรือตอบโจทย์ผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone โดยเป็นสินค้าจำพวกหูฟัง เพื่อให้ลูกค้า หรือว่าสามัญชนทั่วๆ ไปให้ได้รับประสบการณ์การฟังเสียงดนตรีในแบบของ Marshall รวมถึงผลิตภัณฑ์ชนิดลำโพงที่สามารถเชื่อมบลูทูธได้ โดยนั่นทำให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างล้นหลามเหมือนกัน ด้วยสไตล์เสียงที่ไม่เหมือนใคร และการออกแบบที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิค สละสลวย ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าดึงดูด และจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังปราศจากสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth และลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจักมีรายละเอียดปลีกย่อยดังนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิคอยู่ในตัว ดีไซน์สวยงาม เรียบร้อยมีสไตล์ ขนาดกะทัดรัดสามารถพับได้ ทำให้พกติดตัวไปไหนต่อไหนได้สะดวก มีการต่อฉับพลันด้วย Bluetooth 4.0 แม้กระนั้นสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเหมือนกัน  สามารถใช้งานได้เป็นเวลายาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) และกินเวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งผ่าน Micro USB ส่วนของสุรเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall ด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกแยะรายละเอียดของชิ้นเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเลิศ เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดตำนานแบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกโดยแท้จริง ซึ่งหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ มูลค่าจักอยู่ที่ไม่เลย 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดออกจะใหญ่ที่ได้ออกขายนานแล้วเช่นกัน ทว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าเดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้น้ำเสียงที่กระจ่างครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ข้างในทั้งสิ้น 3 ตัว รวมไปถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือว่าแจ็คขนาด 3.5 มม. และ INPUT2 หรือ RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีความสามารถในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้เช่นกัน ให้น้ำเสียงเหมือนคุณกำลังฟังดนตรีจากการแสดงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีราคาถูกที่ไม่เลย 15,900 บาท ถ้าหากเปรียบเทียบสุรเสียงที่ได้มา นับว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางฉันได้นำฝากกันในวันนี้ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่อดีตจวบจนถึงตอนนี้นั้น ชาวเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้เกือบจะทุกเวทีเลย รวมไปถึงหูฟัง และลำโพงที่จำนวนมากหลากหลายรุ่นที่ไม่ว่าระยะเวลาจักล่วงเลยนานเท่าใด แต่ว่า Marshall ก็ยังคงความคลาสสิกตามแนวแบบ Marshall มิเคยเปลี่ยน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : marshall ราคา

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall