ถ้าหากพูดถึงโน๊ตบุ๊คคงจะไม่พูดถึง Macbook Pro ไม่ได้เพราะถือเป็นโน๊ตบุ๊คประกอบด้วยประสิทธิภาพดีแล้วยังมีการปรับปรุงฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อที่จะเหมาะสมกับการทำงานของผู้ใช้มากขึ้น โดยที่รุ่นล่าสุดที่ออกขายนั้นที่มีหลากหลายฟีเจอร์ที่น่าซื้อตลอดจนทำให้ใช้ แมคบุ๊ค โปร ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเช่นกัน ซึ่งลูกเล่นโดดเด่นที่เพิ่มขึ้นเข้ามาประกอบด้วย ดังนี้
            เริ่มที่ คือเรื่องของการดีไซน์รอบๆตัวเครื่องล่าสุด ซึ่งโดยทั่วไปหลายๆคนแทบจะคุ้นกับการที่ Macbook Pro มีไซต์เครื่องที่ตัวใหญ่รวมถึงน้ำหนักมากแต่ว่าไม่ใช่กับรุ่นล่าสุดที่เห็นได้ชัดว่าตัวเครื่องมีการออกแบบให้บาง พร้อมกับมีน้ำหนักเบาลงกว่ารุ่นเก่า มากทำให้สามารถติดตัวได้สะดวกกว่าเดิม โดยที่ Macbook Pro ยังคงมีให้เลือก 2 ขนาดเหมือนเคย ประกอบด้วย ประเภทหน้าจอ 13 นิ้ว เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนบางลงกว่าแต่ก่อนถึง 17% มีความหนาเพียง 14.9 มม. โดยที่รวมสัดส่วนเล็กว่าเดิมถึง 23%  ในด้านรุ่นหน้าจอ 15 นิ้ว พอเปรียบกับรุ่นก่อนบางลงกว่าเดิมถึง 14% มีความหนาแค่เพียง 15.5 มม. โดยที่รวมมีสัดส่วนที่เล็กลงถึง 20% เลยทีเดียว จะเห็นว่าเท่าเรื่องของการออกแบบรอบตัวเครื่องมีความแตกต่างแล้ว
            ถัดมา เป็นการปรับเปลี่ยนรูเสียบพอร์ตมีลักษณะเป็นแบบ Thunderbolt 3 ให้มาทั้งหมด 4 พอร์ต สำหรับแบบของ USB type C ช่วยให้ใช้งานหน้าจอเกรด 4K ได้มากถึงปริมาณครั้งละ 2 จอภาพ  จอแสดงผล 5K จำนวนครั้งละ 1 จอภาพ แล้วยังทำให้ชาร์จหรือเรียกว่าจ่ายไฟฟ้าผ่านพอร์ตไหนก็ได้ โดยจุดเด่นของ USB-C ก็คือแบบพอร์ต Lightning ของ Apple ที่ช่วยให้ใช้งานสายได้ไม่ว่าจะเป็นสองด้าน รวมไปถึงช่วยส่งข้อมูลภาพ , เสียง ตลอดจนส่งกระแสไฟไปด้วยกันได้เหมือนกัน ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้แบบรวดเร็วกว่าเดิม แล้วยังชาร์จไฟ MacBook Pro ที่ใช้งานไฟ 87W ได้ด้วย
            อย่างที่สาม ก็คือเรื่องของ Touch bar และ Touch ID ที่นับว่าเป็นฟีเจอร์เด่นที่สุดสำหรับ แมคบุ๊ค โปร แบบใหม่เลยก็ว่าได้ เพราะ Touch bar เป็นแถบปุ่มเครื่องมือออกมาในรูปแบบของระบบแตะในจอ Retina Display และยังรองรับระบบ Multi Touch เช่นกัน ด้วยการเพิ่ม Touch bar ไม่ได้เป็นแค่การมาชดเชยปุ่มแบบเก่าแต่ส่วนฟังก์ชันที่โดดเด่นสำหรับ Touch Bar ก็คือสามารถทำงานร่วมกับโปรแกรมที่ใช้อยู่ ใน ตอนนั้น อย่างเช่น การขึ้นแถบเครื่องมือหลายประเภท สำหรับโปรแกรมตบแต่งรูปที่คุณอยู่ในช่วงใช้อยู่ เป็นต้น ซึ่งนับว่าช่วยเอื้ออำนวยความง่ายดายต่อการใช้งานโปรแกรมบางโปรแกรมได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วยังพร้อมทั้ง Touch bar ก็คือ Touch ID ที่เป็นฟีเจอร์ดูแลความเป็นส่วนตัวโดยการ ตรวจจับลายนิ้วมือที่ใช้ประเภทการทำงานเหมือนกันกับ iPhone, iPad โดยที่ Touch ID นี้สามารถใช้ได้รวมถึงการปลดล็อค MacBook Pro รวมถึงการซื้อหาผลิตภัณฑ์ได้จากใน Apple Pay  เพราะการมี Touch bar รวมทั้ง Touch ID ช่วยให้การทำงานหลายชนิด กลายเป็นสิ่งที่ไม่ยากมากขึ้น
            อย่างที่สี่ ก็คือเรื่องของ TrackPad รวมถึง คีย์บอร์ด โดย Track Pad ยังใช้งานระบบ Force Touch ตามเดิม อย่างไรก็ตามมีสัดส่วนใหญ่ขึ้น โดยมีการหยิบระบบไฟฟ้าสถิตเข้ามาเพื่อเหมือนการกดปุ่มจริงๆ โดยที่การปรับไซต์ให้ใหญ่มากกว่าเดิม 2 เท่าตัวก็ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายมากกว่าเดิม ด้านของแป้นพิมพ์ ได้มีการใช้งานคีย์บอร์ดลักษณะปีกผีเสื้อ รุ่น 2 ที่ทำให้พิมพ์งานได้ง่ายขึ้น รองรับน้ำหนักสำหรับการพิมพ์ได้ดีมากกว่ารุ่นก่อน พร้อมทั้งช่วยให้แรงส่งคืนมาลดน้อยลงจากเดิมส่งผลให้สามารถพิมพ์ได้ยาวนานกว่าเดิมโดยไม่เมื่อยมือ
            เรื่องสุดท้ายคือ ประเด็นของการระบายความร้อนรูปแบบล่าสุด ไปจนถึงศักยภาพของ CPU ที่ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ในด้านของการถ่ายเทความร้อนที่ว่า ได้เอาการระบายความร้อนแบบเพิ่มอัตราการไหลเวียนสำหรับอากาศ อีกทั้งมีการดีไซน์ใบพัดแบบอยู่เหลื่อมกัน ช่วยให้สามารถถ่ายเทอุณหภูมิได้อย่างมีคุณภาพบวกกับตัดทอนเสียงรบกวนช่วงระหว่างการใช้งานของเครื่อง ส่วน CPU ใหม่ที่มาจากระบบของ Intel Generation ล่าสุด พร้อมทั้งเลือกใช้การ์ดจอภาพ Radeon Pro ที่ช่วยให้การประเมินผลไวขึ้นโดยเฉพาะการทำงานกราฟิคที่รวดเร็วมากขึ้นถึง 130% ส่วนแบตเตอรี่ถ้าชาร์จออกมาเต็มที่จะทำให้ใช้ได้ยาวนานมากถึง 10 ชั่วโมง
            จะเห็นว่า แมคบุ๊ค โปร รุ่นล่าสุดนั้นทางด้าน Apple ได้เพิ่มลูกเล่นกับเทคโนโลยีใหม่ เข้าไปกับหลากหลายส่วนโดยที่ไปสนับสนุนการทำงานสำหรับ แมคบุ๊ค โปร ให้ทำหน้าที่ได้แบบมีคุณภาพมากกว่ารุ่นก่อน โดยที่ Macbook Pro ใหม่มีมาให้เลือกสองสีด้วยกันเป็น สี Space Gray กับ สี Silver โดย รุ่นจอแสดงผล 13 นิ้วราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท ส่วน แบบจอภาพ 15 นิ้ว มูลค่าเริ่มต้นที่ 85,900 บาท
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : Macbook pro

Tags : Macbook pro,macbook pro ราคา,แมคบุ๊ค โปร