สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 238 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: มกราคม 31, 2019, 11:41:21 PM »
ย้อนกลับไปในศก 2001 สมาร์ทโฟนได้เริ่มมีการขายในวงกว้างแต่ทว่าเพราะพัฒนาการของเทคโนโลยี อย่างเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเคร่งครัดมากนัก ครั้นเมื่อผนวกและมูลค่าที่สูงเป็นปกติของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่ๆ ขณะนั้น ส่งผลให้มีผู้ซื้อสมาร์ทโฟนไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดสมาร์ทโฟนรวมทั้งหมด
 
 อย่างไรก็ตามกาลเวลาก็ผันแปรพร้อมทั้งการขยายตัวของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จวบจนถึงทุกวันนี้ สมาร์ทโฟน กลายเป็นข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และขอบข่ายต่าง ๆ เอื้ออำนวยให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างง่ายดาย
 
 ในปี 2017 ยอดส่งออกโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องโดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์เคลื่อนที่ถูกจำหน่ายไปรวมเบ็ดเสร็จราว 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 โดยประมาณ 5% โดย 3 อันดับของยี่ห้อที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งการตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% พวกเราไปเจาะลึกสถานการณ์ของแต่ละยี่ห้อกันเลย

 ท้ายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเผยสถิติผลกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งเงินกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนธันวาคมกระโดดไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูราวกับ ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากล่วงเลยแค่ 3 เดือน ครั้นเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018ซึ่งสร้างรายได้ประมาณ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
โดยแม้กระนั้นเงินได้รวบยอดใน3 เดือนแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่า3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่กระนั้นด้วยค่าใช้จ่ายหลายอย่าง นั้นน้อยกว่า เป็นเหตุให้ ซัมซุงสามารถทำเงินกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ เปลี่ยนเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

ที่มาของกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นชิ้นงานของสมาร์ทโฟนซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่พ.ศ.นี้เลื่อนเวลามาวางขายเร็วขึ้น บวกกับผลสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงสนนราคาไม่แพงที่ขายในหลายๆ ประเทศ และจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นเป็นชิป DRAM ที่สามารถทำการผลประโยชน์ได้สูงถึง 70% ของตลาด

 ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยรายรับรวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากคราวเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเหมือนกัน ส่วนเงินรายได้จากต่างประเทศนอกอเมริกาคิดเป็น 65% ของเงินได้รวม

 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม ขาย iPhone X โดยประมาณการณ์กันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทำเงิน แม้นจะมีข่าวแต้มสีออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลบอกตัวเลขรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 รายรับจาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มปริมาณ 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกสัปดาห์ นับจากเริ่มต้นส่งมอบครั้นพฤศจิกายน 2017 และขายได้มากกว่าที่แอปเปิลหวัง
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีเงินรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นผลกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่ม 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 โดยในปี 2017 หัวเว่ยได้ให้มือถือทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นผู้ครอบครองเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 ซึ่งครั้นปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า เป้าหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทโทรศัพท์มือถือใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี อย่างไรก็ดีตอนนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างมีปัญหาในการพยายามเจาะตลาดแถบอเมริกาเหนือ เนื่องมาจากฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ควบคุมอยู่ ส่วนตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยทีเดียว เนื่องจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ระดับไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความชื่นชมเป็นอย่างดี

 ทั้งๆ ที่ยอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็มุ่งไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ อาทิ Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาโครงข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลายประเทศชาติมี 4G และปี2018 เดาว่าเป็นการเปิดฉากแห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่เกาหลีใต้ เป็นการทดลองความสามารถก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีภายภาคหน้า
 
 การแสดงตัวของขอบข่ายไร้สาย 5G ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า โทรศัพท์มือถือจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีกซึ่งต้องคอยจับตาดูว่าแบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่เหล่านี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากแค่ไหนในการเพิ่มยอดขายและช่วงชิงความเป็นที่ 1 ต่อไป

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่