ปฎิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันนี้ โทรศัพท์เคลื่อนที่จากยี่ห้อมือถือเมืองจีนมาแรงมากจริงๆ และเชื่อว่าในตอนนี้หลายๆ คนคงชินหูชินตาชื่อกับ Xiaomi (เสี่ยวมี่)หนึ่งในยี่ห้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ลำดับต้นๆ ของประเทศจีนที่ข้ามน้ำมาทำตลาดที่ไทยอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะด้วยจุดแข็งในเรื่องสมรรถนะการใช้งาน ในราคาไม่แพง อีกทั้งยังมาในดีไซน์พรีเมี่ยมอีกต่างหาก แม้จะเปิดตัวมือถือรุ่นแรกมาเร็วๆ นี้ก็ถือว่าบรรลุผลและที่สำคัญยังต่อยอดไปในสินค้าเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่นกัน เราไปทำความรู้จักมักคุ้นกับ Xiaomi ให้เพิ่มมากขึ้นดีกว่า
 
 ย่างก้าวแต่ต้นของ Xiaomi เริ่มต้นในเดือน เมษายนปี 2010 โดย Lei Jun (เหลย จุน) อดีตซีอีโอของ Kingsoft ที่เป็นบริษัทที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นทางด้านเอกสารออฟฟิศจำพวก Word, Excel และ PowerPoint ตอนแรก เสี่ยวหมี่ ยังไม่ได้ทำฮาร์ดแวร์ของตัวเอง แต่เริ่มจากเป็นกลุ่มทำรอมแบบ After Market ให้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ในนาม MIUI (อ่านว่า "Me You I")
 
 ปี 2011 Xiaomi เริ่มขยายตนเองจากการทำรอม มาเป็นการผลิตฮาร์ดแวร์ของตนเองด้วยการเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ Mi One ออกจัดจำหน่ายในจีนและสร้างความฮือฮา เนื่องจากเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่สเปกสูงในราคาไม่แพง จนกวาดยอดขายได้กว่า 7 ล้านเครื่อง เกินเป้าที่ตั้งไว้เพียงหลักแสนเครื่องเท่านั้น
 
 ในปีต่อมาก็ปล่อย Mi2 ก็พบกับยอดขายล็อตแรก 50,000 เครื่องในเมืองจีนไม่เหลือใน 3 นาที จนทำให้ทางบริษัทรับรู้ว่าสินค้าของตนเองนั้นถูกอกถูกใจผู้บริโภคในวงกว้างเพียงใด
 
 และในปี 2014 Xiaomi ก้าวข้ามความเชื่อว่ามือถือเมืองจีนทำเพื่อคนจีนเท่านั้น โดยริเริ่มออกไปทำตลาดโลก โดยเริ่มจากสิงคโปร์ ด้วยการเปิดประวัติศาตร์ในการขายโทรศัพท์มือถือบนระบบ E-commerce ที่สามารถขายหมดได้เพียงสองนาทีแรกของการเปิดขาย เมื่อได้รับปฏิกิริยาเกินความคาดหมาย Xiaomi ไม่เพียงย่างก้าวต่อไปเรื่อยๆ เหมือนกับแผนธุรกิจของหลายๆแบรนด์ในสมัยนี้ที่คาดหวังการกุมตลาดเฉพาะภายในประเทศและประเทศใกล้เคียงเท่านั้น อย่างเช่น ดินแดนในพื้นที่เอเชีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ประเทศฟิลิปปินส์ ไต้หวัน อินเดีย แต่ทว่ายังอยากไปถึงการถือครองตลาดโลกอย่าง ตุรกี รัสเซีย ประเทศบราซิล และ ประเทศแม็กซิโก เพื่อย้ำว่าสินค้าจากแดนมังกรก็มีคุณภาพที่ระดับโลกวางใจ
 
 จุดเด่นของโทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของทาง เสี่ยวหมี่ จะอยู่ที่สเปกของฮาร์ดแวร์ทันทีที่เปรียบเทียบกับราคาแล้วคุ้มมาก ตัวอย่างเช่นมือถือ Mi8 ตัวตัวหลักช่วงนี้ คุณจะได้โทรศัพท์เคลื่อนที่ ชิป Snapdragon Snapdragon845, RAM 6/8 GB, ROM 64/128/256 GB กล้องด้านหลังคู่ความละเอียด 12 + 12 MP พร้อมระบบถ่ายด้วย AI ด้านกล้องถ่ายรูปหน้า 20 MP รองรับสแกนลายนิ้วมือและ 3D Face Unlock รวมไปถึงมี Dual GPS เพื่อความถูกต้อง และทันใจ ด้านแบตเตอรี่ความจุ 3400mAh ในราคาประมาณหมื่นบาทกลาง ๆ เท่านั้น
 
 ในส่วนฮาร์ดแวร์ Xiaomi คิดค้นไปไกลกว่าโทรศัพท์มือถือหรือTabletมาก บริษัททยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ อีกหลายตัว ตัวอย่างเช่น
 
 Mi TV 2 เป็นสมาร์ททีวี 4K ขนาด 49 นิ้ว มูลค่า 3,999 หยวน (ราวๆ 21,000 บาท) พร้อมทั้งชิปประมวลผลและกราฟิกในตัว เพื่อใช้เล่นเกม เชื่อมต่อบริการคอนเทนต์สนุกสนานหลากหลาย
 
อุปกรณ์สุขภาพ Xiaomi ก็ขอติดสอยห้อยตามเทรนด์ Wearable Device ด้วย Mi Band ที่เป็นเครื่องมือตรวจวัดค่าสุขภาพอนามัยแบบใส่ติดตัว เพื่อทดสอบวัตถุประสงค์การดำรงชีวิตในแต่ละวันในราคาไม่ถึงพันบาท
 
 และอื่นๆ อีกมากโข ไม่ว่าจะเป็น วัสดุอุปกรณ์อย่างหูฟัง, เครื่องชั่งน้ำหนัก, กล้องแอ๊กชั่นแคม (Yi), แบตเตอรี่สำรอง, เครื่องฟอกอากาศ เป็นต้น
 
 ปี 2017 ที่ผ่านมา นับได้ว่าเป็นปีที่ดีของ เสี่ยวหมี่ เนื่องด้วยในช่วง3 เดือนหลังสุดของปี แม้ว่ายอดขาย เบาบางลงทั่วโลก 6.3% แต่ทว่าถ้าเปรียบเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น Xiaomi มียอดขายเพิ่มถึง 96.9% เลยทีเดียว โดยมียอดขายมือถือเพิ่มขึ้นถึง 75% และขยายตลาดสู่ระดับสากลด้วยการผลักก้าวเข้าสู่ตลาดสเปน และสร้างยอดจำหน่ายมหาศาลในตลาดประเทศอินเดีย อินโดนีเซีย และรัสเซีย โดยในปี 2017 นี้ Xiaomi คือผู้ประกอบการลำดับ 5 ของโลกที่ผลิตมือถือมากที่สุด และเป็นอันดับ 4 ของโลกในด้านยอดขาย ด้วยการทำผลรวมมากกว่า 1แสนล้านหยวน เลยทีเดียว
 
 โดย Lei Jun ผู้สร้าง และ CEO ของ Xiaomi ป่าวร้องว่าหน้าที่สำหรับปี 2018 นี้ จะเป็นผู้ก่อกำเนิดในตลาดโลกและดำรงฐานะอันดับ 1 ในบ้านเกิดอย่างแดนมังกรใน 30 เดือน
 
 จะเห็นได้ว่าโมเดลการทำธุรกิจของ Xiaomi นั้น ไม่เคยที่จะอยู่กับที่และติดอกติดใจกับชัยชนะในปัจจุบัน แต่ว่ายังคงเดินหน้าเพื่อจะปฏิรูปผลิตผลใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่ไลน์ของสมาร์ทโฟน แต่ยังรวมไปถึงสมาร์ทแก็ดเจ็ตอื่น ๆ ด้วย หวังว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งแบบแผนให้ท่านผู้อ่านที่กำลังประกอบธุรกิจการค้าชี้ทางเป็นแรงบันดาลใจและปรับใช้กันนะขอรับกระผม

Tags : Xiaomi,ราคา Xiaomi,เสี่ยวหมี่