สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 262 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2019, 02:00:03 PM »
ย้อนกลับไปในปี 2001 โทรศัพท์มือถือได้เริ่มมีการขายในวงกว้างแต่ทว่าเพราะพัฒนาการของเทคโนโลยี อาทิฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเอาจริงเอาจังมากนัก เมื่อบวกกับมูลค่าที่สูงเป็นปกติของวัสดุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ขณะนั้น มีผลกระทบให้มีผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบเคียงกับตลาดสมาร์ทโฟนรวมทั้งหมด
 
 แต่กระนั้นเวลาก็ผันแปรพร้อมทั้งความเจริญของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จวบจนถึงปัจจุบันนี้ โทรศัพท์มือถือ กลับเป็นสาระสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และขอบข่ายต่าง ๆ ส่งเสริมให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้สื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนโทรศัพท์มือถือได้ราบรื่น
 
 ในปี 2017 ยอดส่งออกสมาร์ทโฟนทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์มือถือถูกขายไปรวมเบ็ดเสร็จประมาณ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มปริมาณจากปี 2016 โดยประมาณ 5% ซึ่ง 3 อันดับของแบรนด์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% เราไปล้วงลึกสภาพการณ์ของแต่ละยี่ห้อกันเลย

 สิ้นปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเผยสถิติผลกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งผลกำไรสุทธิตั้งแต่ตุลาคมจนถึงเดือนธันวาคมกระโจนไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูราวกับ ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากผ่านไปเพียง 3 เดือน เมื่อเข้าสู่มีนาคม 2018โดยทำรายได้โดยประมาณ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
ซึ่งแม้เงินรายได้รวบยอดในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แม้กระนั้นด้วยรายจ่ายหลายอย่าง นั้นน้อยกว่า ทำให้ ซัมซุงสามารถสร้างเงินกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ เปลี่ยนเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

แหล่งกำเนิดของผลกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นงานของมือถือซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ศกนี้เลื่อนมาจำหน่ายรวดเร็วขึ้น บวกกับผลสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นสมาร์ทโฟนซัมซุงราคาไม่แพงที่จัดจำหน่ายในหลายๆ บ้านเมือง และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวทำรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นเป็นชิป DRAM ที่สามารถทำผลกำไรได้สูงถึง 70% ของท้องตลาด

 ด้านแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยเงินรายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่ม 13% จากคราวเดียวกันในปีก่อน และมีเงินกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นกัน ส่วนรายรับจากต่างแดนนอกสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 65% ของรายรับรวม

 ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม จัดจำหน่าย iPhone X ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะเป็นสินค้าหลักที่ทำเงิน แม้จะมีข่าวโคมลอยออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลเปรยจำนวนรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 เงินรายได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มปริมาณ 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดิบขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกสัปดาห์ นับจากเริ่มต้นส่งมอบเมื่อพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้มากกว่าที่แอปเปิลหวัง
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท พอกพูน 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 โดยในศก 2017 หัวเว่ยได้ส่งมอบโทรศัพท์มือถือทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมแบรนด์ Honor ที่เป็นเจ้าตำรับเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 ซึ่งครั้นเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยประกาศเอาไว้ว่า จุดมุ่งหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทมือถือยิ่งใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แม้กระนั้นปัจจุบันนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างจะมีปัญหาในการพยายามทะลวงตลาดแถบอเมริกาเหนือ เนื่องด้วยฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone กำกับอยู่ ส่วนตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเทียว เนื่องมาจากโทรศัพท์มือถือเกรดไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี

 แม้ว่ายอดสรุป3 เดือนล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็วางเป้าหมายไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ อย่างเช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาข่ายงานไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายเมืองมี 4G และปี2018 คาดคะเนว่าเป็นปฐมฤกษ์แห่งยุค 5G โดยจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่เกาหลีใต้ เป็นการทดสอบประสิทธิภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีข้างหน้า
 
 การแสดงตัวของขอบข่ายไร้สาย 5G เป็นเหตุให้มีการประมาณกันว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่จะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้นไปอีกซึ่งจำเป็นจะต้องรอคอยเฝ้ามองดูว่ายี่ห้อโทรศัพท์เคลื่อนที่เหล่านี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเท่าใดในการเพิ่มยอดขายและแก่งแย่งความเป็นที่ 1 ต่อไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่