สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 218 อ่าน
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2019, 10:15:27 AM »
ย้อนกลับในศักราช 2001 โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เริ่มมีการจัดจำหน่ายในวงกว้างแต่ทว่าเหตุเพราะความเจริญของเทคโนโลยี อย่างเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเอาจริงเอาจังมากนัก ครั้นเมื่อบวกกับราคาที่สูงเป็นปกติของเครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ในตอนนั้น มีผลให้มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือไม่มากนักเมื่อเทียบเคียงกับท้องตลาดโทรศัพท์มือถือรวมทั้งหมด
 
 แม้กระนั้นเวลาก็เปลี่ยนแปลงพร้อมด้วยความเจริญของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ กระทั่งปัจจุบัน มือถือ กลายเป็นข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และขอบข่ายต่าง ๆ ส่งเสริมให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อสื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนสมาร์ทโฟนได้ราบรื่น
 
 ในปี 2017 ยอดรวมส่งออกโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์มือถือถูกจำหน่ายไปรวบยอดราว 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ราวๆ 5% โดย 3 ลำดับของแบรนด์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งการตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% เราไปเจาะใจสภาพการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย

 ปลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเปิดเผยสถิติผลกำไรมากเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งผลกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจวบจนถึงเดือนธันวาคมกระโดดไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูราวกับ ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากผ่านไปแค่ 3 เดือน ครั้นก้าวเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018ซึ่งสร้างรายรับโดยประมาณ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
โดยทั้งที่เงินรายได้รวบยอดในไตรมาสแรกของปี 2018 นั้นจะต่ำกว่า3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่ด้วยรายจ่ายหลายอย่าง นั้นต่ำกว่า เป็นเหตุให้ ซัมซุงสามารถสร้างเงินกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ กลายเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

ที่มาของเงินกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นผลงานของมือถือซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ศกนี้เลื่อนเวลามาขายรวดเร็วขึ้น บวกกับผลสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงมูลค่าไม่แพงที่จำหน่ายในหลายๆ รัฐ และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวทำเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถสร้างผลประโยชน์ได้สูงถึง 70% ของตลาด

 ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยรายรับรวมสร้างสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มปริมาณ 13% จากเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นเดียวกัน ส่วนเงินรายได้จากต่างประเทศนอกสหรัฐฯคิดเป็น 65% ของรายรับรวม

 ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม จัดจำหน่าย iPhone X ซึ่งประมาณการณ์กันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ทำเงิน แม้นจะมีข่าวโคมลอยออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลเผยจำนวนรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดน้อยลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 เงินรายได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายเป็นเทน้ำเทท่าที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกสัปดาห์ นับแต่เริ่มต้นส่งมอบครั้นเดือนพฤศจิกายน 2017 และขายได้ยิ่งกว่าที่แอปเปิลหวัง
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายรับที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นเงินกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท พอกพูน 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 โดยในปี 2017 หัวเว่ยได้ส่งมอบมือถือทั้งสิ้น 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นกรรมสิทธิ์เดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 ซึ่งครั้นปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า จุดมุ่งหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทมือถือใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แต่ทว่าในเวลานี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างมีปัญหาในการพยายามทะลวงตลาดแถบอเมริกาเหนือ เพราะฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone กำกับอยู่ ส่วนตลาดในฝั่งยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยทีเดียว เพราะโทรศัพท์เคลื่อนที่ขั้นไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมชมชอบเป็นอย่างดี

 แม้ว่ายอดสรุป3 เดือนล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็ใฝ่ไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ อย่างเช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาเครือข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลายแดนมี 4G และปี2018 คาดเดาว่าเป็นการเริ่มต้นแห่งยุค 5G โดยจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการทดสอบประสิทธิภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีภายภาคหน้า
 
 การแสดงตัวของขอบข่ายไร้สาย 5G เป็นเหตุให้มีการคาดหมายกันว่า สมาร์ทโฟนจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้นไปอีกซึ่งจำเป็นต้องรอจับตามองดูว่ายี่ห้อมือถือกลุ่มนี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากแค่ไหนในการเพิ่มยอดขายและแก่งแย่งความเป็นที่ 1 ต่อไป

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่