สวัสดี บุคคลทั่วไป

สภาพอากาศในบ้านหมดจดง่ายๆ โดยใช้ที่กรองสภาพอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 261 อ่าน
            ปัจจุบันสภาพอากาศที่เราหายใจไปเกือบจะเหมือนเป็นอากาศที่มีแค่ฝุ่นผงพร้อมทั้งสิ่งสกปรกที่แปลกปลอมเข้าในนั้นเป็นไปได้ว่าทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยไม่ยาก หรือสูดไม่ค่อยง่ายได้ เช่นนั้นแล้วการที่เข้าอยู่ท่ามกลางมลพิษสารพิษคุณก็เลยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จำเป็นต้องหายใจอากาศเอาพวกนั้นเข้าไปภายในตัว
            อย่างไรก็ดีพอเรากลับบ้านคุณคงจะสมมติสภาพอากาศภายในบ้านใสสะอาดกว่าข้างนอกจริงอยู่แต่ว่าก็สามารถมีฝุ่นผงที่มาจากข้าวของภายในบ้านที่บางทีเราอาจมองว่าก็ล้างอยู่บ่อยๆ หรือที่ติดมาพร้อมกับเครื่องแต่งกายเราที่ไปด้านนอกมาตลอดวัน สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณแทบจะต้องอยู่กับมลภาวะทุกเมื่อ ดังนั้นเราเลยจำเป็นจะต้องมีตัวช่วยที่มีชื่อว่า ที่ฟอกสภาพอากาศ สำหรับภายในบ้านสำหรับช่วยให้ที่พักสะอาดสะอ้านและเราได้สภาพอากาศใสสะอาดมั่งในแต่ละวัน
            โดยที่ที่กรองสภาพอากาศที่ใช้งานในบ้านมีอยู่ 4 แบบด้วยกันยกตัวอย่างเช่น 1. ที่กรองสภาพอากาศแบบใช้แผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยที่ตามปกติแล้วคาร์บอนมีคุณลักษณะเพื่อดูดจับสารพิษรวมถึงกลิ่นตั้งแต่แรกแล้วจึงมีการนำมาจัดทำเป็นไส้กรองอากาศที่ทำจากคาร์บอนให้ทำงานบนขบวนการกรองสภาพอากาศ 2. ที่กรองสภาพอากาศรูปแบบใช้งานประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยเครื่องฟอกอากาศรูปแบบนี้มีการเลือกประจุไฟฟ้ามาใช้สำหรับดักละอองหลายชนิด เพราะว่าประจุไฟฟ้าสามารถล่อฝุ่นผงได้ดีถึงแม้จะมีฝุ่นเล็กก็ตาม เช่นผงทั่วไป ขนสัตว์ หรือแม้กระทั่งควันบุหรี่ เป็นเหตุให้เครื่องกรองอากาศเช่นนี้เหมาะกับผู้บริโภคที่มีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจ หรือไม่ก็เป็นภูมิแพ้ 3. เครื่องฟอกอากาศลักษณะสมรรถนะสำหรับสกัดดีมาก (High Efficiency Particle Arresting) หรือที่เรียกกันว่า HEPA นับเป็นเครื่องฟอกสภาพอากาศมีประสิทธิภาพในการกรองสภาพอากาศดีมากด้วยความที่ส่วนที่กรองทำเข้ามาจากใยแก้วละเอียด สามารถกรองสภาพอากาศให้สะอาดได้ถึง 99% อย่างไรก็ตามข้อบกพร่องก็คือไม่สามารถดูดซึมควันหรือว่าดูดกลิ่นได้ ถือเป็นที่ฟอกอากาศที่โดยมากใช้ในสถานพยาบาลหรือไม่ก็โรงงานบางอย่าง โดยที่ที่กรองมีอายุการทำงานยาวนานมากถึง 4 ปี  4. เครื่องกรองสภาพอากาศแบบผสาน เหมือนเป็นที่กรองสภาพอากาศที่ประเภทผสม 2 หน่วยด้วยกันคงเป็นการรวมกันใน Carbon พร้อมกับ Ionic หรือว่า HEPA กับ Ionic ก็ได้ตามใจว่าผู้ประกอบการอยากได้ให้เครื่องฟอกสภาพอากาศใช้งานออกบนรูปแบบใด
            โดยประเภทเครื่องฟอกสภาพอากาศทั้งหลายที่เอ่ยถึงอาจจะได้มีทุกคนงุนงงว่าแล้วจะที่มีแนวทางการคัดเลือกที่กรองอากาศเช่นใดเพื่อให้เหมาะสำหรับตนเองมากที่สุด เริ่มที่จำเป็นจะต้องคุ้นเคยอากาศด้านในบ้านตนเองว่าประเภทสภาพอากาศในตัวบ้านเป็นอย่างไร มีขี้ผงจำนวนมากหรือไม่ หรือมีกลิ่นเหม็นหรือเปล่าเลยค่อยซื้อที่กรองอากาศต่อมาที่การเลือกตัวที่กรองสภาพอากาศโดยที่ตัวที่ีมีประสิทธิภาพควรจะมี  2 หน่วยในเครื่องเดียวคือ  สกัดขี้ฝุ่น ดักขี้ผง รวมถึงดูดกลิ่นข้างในเครื่องเดียว รวมถึงมีพลังที่จะสามารถสูบอากาศโดยรอบ สำหรับที่จะนำไปกรองพร้อมทั้งปลดปล่อยสภาพอากาศสะอาดออกมา ตรวจสอบดูให้ดีว่าระบบกรองอากาศไปจนถึงแผ่นกรองเป็นรูปแบบที่เราหวังหรือเปล่าพร้อมทั้งสามารถนำไปทำความสะอาดได้ง่ายหรือเปล่ารวมถึงพวกสนนราคาที่กรองเป็นแบบไหนเพื่อที่จะเวลาที่กรองหมดอายุจะสามารถเลือกซื้อได้ง่าย สุดท้ายเป็นการวิเคราะห์ตัวเลขที่มีชื่อว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ค่านี้ก็คือค่าเอาไว้ตรวจวัดประสิทธิภาพเพื่อทำงานสำหรับเครื่องฟอกอากาศโดยตัวเลขนี้จะมีการเพิ่มสูงขึ้นสมมติว่ามีคนอยู่ที่ห้อง
            ส่วนจากการใช้งานและการบำรุงรักษาเป็น การทำงานสำหรับเครื่องฟอกสภาพอากาศควรจะปิดห้องเพื่อที่จะเครื่องฟอกอากาศใช้งานเอาไว้ก่อนที่จะเข้าไปภายในห้องเพื่อที่จะสภาพอากาศสะอาดก่อน ด้านการเอาใจใส่ชะล้างเป็นพึงเก็บกวาดแผ่นกรองขั้นต่ำเกือบทุก  3 เดือน  โดยการเอามาชะล้างแล้วไปตากให้แห้ง  เพื่อทำลายเชื้อโรค  หรือว่าชำระล้างจากที่เอกสารแนะนำบอกไว้ อย่างไรก็ดีในส่วนคนที่ไม่ต้องการทำความสะอาดเป็นประจำ ควรจะเลือกใช้ลักษณะประจุไฟฟ้า ก็เพราะว่าถึงแม้จะมูลค่ามากกว่าแบบอื่นแต่ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บกวาดประจำบวกกับดูแลรักษาง่ายกว่า
จะเห็นว่าที่กรองสภาพอากาศมีหลายแบบรวมทั้งวิธีการสำหรับเลือกซื้อให้เหมาะสำหรับการใช้งานก็ไม่ยากแบบที่คิดนอกจากนั้นแล้วการดูแลรักษาความสะอาดสะอ้านก็ยังง่ายมากอีกด้วย โดยเครื่องกรองอากาศมีเลือกสรรกันหลากหลายแบรนด์ด้วยกันตัวอย่างเช่น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ มีตั้งแต่ราคา 2-3พันบาทไปถึง 4-5 หมื่นเลยทีเดียว
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องฟอกอากาศ ราคา

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี