ตู้แช่เย็น เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทหนึ่งที่มีในทุกบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวไหนที่มักจะทำของกินล่ะก็ ยิ่งควรมีเลย เพราะว่าสะดวกในแช่อาหารสดหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ แต่ตู้เย็นก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พวกเราต้อองทิ่มปลั๊กไฟอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นเครื่องใช้ไม้สอยที่สิ้นเปลืองไฟพอสมควร ด้วยเหตุนั้นอกจากเราจะเลือกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมแล้ว ดังเช่น ตู้เย็น sharp หรือ Panasonic อื่นๆอีกมากมาย แล้ว พวกเราก็ควรจะมีหลักสำหรับในการเลือกซื้อตู้เย็นกันด้วย เพื่อช่วยให้คุณนั้นใช้ไฟฟ้าน้อยลงได้มากขึ้น
วิธีเลือกตู้เย็น Sharp ให้เหมาะกับการใช้งาน





หลักสำหรับในการเลือกซื้อตู้เย็นให้ใช้ไฟฟ้าน้อยลง มีดังนี้

1. เลือกที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

เนื่องจากว่าตู้แช่เย็นที่มีฉลากมัธยัสถ์เบอร์ 5 นั้นเป็นฉลากใช้ไฟฟ้าน้อยลงที่รับประทานไฟต่ำที่สุด โดยจะกินไฟแค่ 220 หน่วยต่อปีเท่านั้นค่าไฟฟ้าไม่ถึง 600 บาทแต่ว่าหากเป็นฉลากเบอร์อื่นก็จะเสียค่าไฟฟ้ามากยิ่งกว่านี้ไปตามปริมาณหน่วยไฟที่กินไปนั่นแหละ

2. เนื้อหาข้อมูลของตู้เย็นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย

ได้แก่ ตู้เย็นSharp ที่มีตราชื่อผู้สร้างแล้วก็เครื่องหมายการค้าที่ชัดเจน และบ่งบอกเพราะว่าเป็นรุ่นอะไร มีปริมาตรด้านในเท่าไร บอกถึงวงจรไฟฟ้าที่ใช้ด้วย และถ้าเกิดคุณนั้นอยากใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องศึกษาเนื้อหาของตู้เย็น วิธีการใช้การติดตั้ง อุปกรณ์ที่ใช้ในลัษณะของการควบคุมดูแล แล้วก็อย่าลืมจำต้องมองเรื่องกระบวนการทำความสะอาดรวมทั้งการบำรุงรักษาด้วย เนื่องจากไม่ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์อะไร เราก็ต้องดูแลทำความสะอาดแล้วก็ซ่อมแซมอยู่แล้ว เพื่อให้มีความปลอดภัยสำหรับการใช้งานนั่นเอง

3. ประหยัดไฟได้ง่าย เพราะเหตุว่าเลือกปริมาตรที่เหมาะสมต่อการใช้งาน

ขนาดปริมาตรของตู้แช่เย็น พวกเราเรียกว่า คิว โดยพวกเราบางทีอาจวัดจากการที่เราแช่ของแข็งมากกว่าของสดก็ใช้ช่องสำหรับเพื่อแช่แข็งกว้างหน่อย หรือจะวัดจากขนาดครอบครัวก็ได้ ดังเช่นว่า ถ้าหากอยู่กันเพียงแค่ 2 สาวใช้ตู้เย็นแค่ 2.5 คิวขึ้นไปก็เพียงพอ แต่ถ้าอยู่เกิน 5 คนใช้งานตู้แช่เย็น 15 คิวขึ้นไปรวมทั้งที่สำคัญถ้าต้องการให้เก็บกักความเย็นเจริญ ก็ควรเลือกตู้แช่เย็นที่มีฉนวนกันความร้อนเป็นแบบโฟมอัด และให้เลือกใช้ระบบไฟ 220-330 โวลต์ เพราะว่าเข้ากับระบบไฟด้านในภายของเรา

4. แนวทางในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ จำต้องนึกถึงเรื่องจำพวกรวมทั้งราคาด้วย สำหรับคนไหนกันแน่ที่มีพื้นที่ในบ้านน้อย หรืออาจะเอาไปใช้ในห้องต่างๆ ราคาราว 4,000-6,000 ก็ได้ ตู้แช่เย็นที่เป็น 1 ประตูจะมีช่องแช่งแข็งรวมทั้งแช่ธรรมดาในตัว จะแพง 5,000-7,000 บาทขึ้นไป หรือจะเป็นตู้แช่เย็นแบบ 2 ประตูที่มีความจุเสมอกันสองด้าน จะราคาแพงหลัดหมื่นขึ้นไป เราจะเห็นว่ายิ่งตู้เย็นมีหลายประตูหรือมีปริมาณคิวมากก็ยิ่งแพงมากนั่นเอง ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงต้องมองงบประมาณและก็มองความจำเป็นสำหรับการใช้ของตัวเองด้วย เพื่อให้ตรงตามสิ่งที่ต้องการและก็ใช้พลังงานน้อยลงได้อย่างแท้จริง

5. ใคร่ครวญจากส่วนประกอบของตู้เย็น ได้แก่ ด้านนอกของ ตู้เย็นSharp นั้นควรมีดีไซน์ สวยล้ำสมัย มีระบบระเบียบต่างๆที่ดี นอกเหนือจากนี้ ข้างในตู้เย็นนั้นก็จำเป็นต้องดูให้ดีด้วย เพื่อให้การใช้งานทำได้ดีขึ้น ได้แก่ ชั้นวาง จำต้องถอดเข้าออกได้ ทำให้สามารถปรับขนาดของช่องแช่ได้ รวมทั้งทำความสะอาดง่าย ลิ้นชักช่องแช่ จะมีช่องแยกข้างในเพื่อปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับของกินที่แช่ ผักผลไม้จำเป็นจะต้องสามารถควบคุมความเย็นและก็เปียกชื้นได้เหมาะสมด้วย นี่เป็นส่วนประกอบเบื้องต้นในตู้เย็นที่คุณจะต้องพิจารณาให้ครบสมบูรณ์

ตู้เย็นมีหลายรุ่นแล้วก็หลายแบรนด์ จึงมีความเด่นที่ไม่เหมือนกันไป ซึ่งพวกเราอาจจะใช้สำหรับเพื่อการไตร่ตรองเพิ่มอีกได้ ตัวอย่างเช่น ระบบกรองอากาศ ระบบลดการใช้พลังงาน หรือจะเป็นแผงควบคุมการทำงาน สุดแล้วแต่ว่าพวกเรานั้นจะเลือกฟีพบร์เสริมแบบไหนที่เหมาะสมกับตัวเราหรือว่าครอบครัวของเรา แต่สิ่งที่จำเป็นไม่แพ้กันคือวิธีสำหรับการเลือกซื้อตู้เย็นsharp กับร้านรวงที่มีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อได้ตู้แช่เย็นที่มีคุณภาพใช้งานได้นาน แม้เกิดการชำรุดเสียหายสามารถส่งซ่อมได้ในทันทีไม่ต้องลังเล ยิ่งอยู่ในระยะรับรองยิ่งดีเลย เนื่องจากทางร้านจะซ่อมแซมให้ฟรีหรือส่งเคลมได้ไม่ต้องกลัวเสียเงิน หรือบางร้านค้าอาจมีบริการข้างหลังการขาย อาทิเช่น การตรวจสอบระบบต่างๆในตู้เย็นให้พร้อมใช้งาน ฯลฯ ซึ่งถ้าคุณเลือกร้านค้าที่จะซื้อได้ดี คุณก็สุขใจ ปลอดภัยหายห่วงไปเลย แม้กระนั้นถ้าเกิดคุณเลือกตู้เย็นรุ่นที่ไม่ดี หรือเลือกซื้อกับร้านค้าที่ไม่มีคุณภาพ คุณอาจจำเป็นที่จะต้องเสียเงินเสียทองบ่อยๆก็ได้