สวัสดี บุคคลทั่วไป

อากาศในบ้านบริสุทธิ์ไม่ยาก ด้วยเครื่องกรองสภาพอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 247 อ่าน
            ปัจจุบันสภาพอากาศที่เราหายใจเข้าไปเกือบเป็นอากาศที่มีเฉพาะฝุ่นผงกับสิ่งโสโครกที่ปนเข้ามาในนั้นอาจจะทำให้ไม่สบายง่าย หรือว่าสูดไม่ค่อยสบายได้ เพราะฉะนั้นแล้วการที่เข้าอยู่ท่ามกลางมลภาวะสิ่งโสโครกเราก็เลยหนีไม่ได้ที่จำต้องสูดอากาศนำสิ่งเหล่านั้นไปภายในตัว
            อย่างไรก็ตามพอเรากลับมาที่พักคุณเป็นไปได้ว่าคิดว่าอากาศด้านในที่พักสะอาดกว่าข้างนอกจริงอยู่แต่ว่าและยังมีละอองที่มาจากข้าวของในบ้านที่บางทีคุณคงคิดว่าก็ชะล้างอยู่บ่อย หรือว่าที่ติดมากับเครื่องแต่งตัวเราที่ออกไปด้านนอกมาทั้งวัน ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เราต้องอยู่กับมลพิษเป็นประจำ อย่างนั้นแล้วเราจึงจำเป็นต้องมีทางเลือกที่เรียกว่า เครื่องกรองอากาศ เอาไว้ในบ้านเพื่อจะทำให้ที่อาศัยใสสะอาดพร้อมกับคุณได้รับสภาพอากาศใสสะอาดมั่งสำหรับทุกวัน
            โดยที่ที่กรองอากาศที่ใช้ภายในบ้านมีอยู่ 4 แบบด้วยกันคือ 1. เครื่องฟอกอากาศแบบใช้งานแผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยโดยทั่วไปแล้วล่ะก็คาร์บอนมีคุณลักษณะสำหรับดูดจับสารพิษพร้อมทั้งกลิ่นอยู่แล้วเลยเกิดการเอามาจัดทำเป็นที่กรองอากาศที่ทำมาจากคาร์บอนเพื่อใช้ในขบวนการสกัดสภาพอากาศ 2. ที่ฟอกอากาศลักษณะใช้ประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยที่ที่กรองสภาพอากาศประเภทนี้มีการกรองประจุไฟฟ้ามาใช้งานในการดักอนุภาคฝุ่นหลายชนิด ก็เพราะว่าประจุไฟฟ้าช่วยให้ล่อชิ้นเล็กๆดีแม้ว่าจะมีชิ้นเล็กๆเล็กมากก็ตาม ตัวอย่างเช่นอนุภาคฝุ่นธรรมดา ขนสัตว์ แม้แต่ควันไฟบุหรี่ ส่งผลให้เครื่องกรองอากาศอย่างนี้เหมาะสมกับผู้ที่มีเรื่องมีราวเรื่องทางเดินหายใจ หรือมีอาการภูมิแพ้ 3. ที่ฟอกอากาศลักษณะสมรรถนะในการสกัดดีมาก (High Efficiency Particle Arresting) หรือว่า HEPA ถือเป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีสมรรถนะในการกรองสภาพอากาศสูงมากก็เพราะว่าส่วนที่กรองผลิตที่มาจากใยแก้วละเอียด สามารถสกัดอากาศให้บริสุทธิ์มากที่สุด 99% แต่ข้อบกพร่องคือไม่สามารถซึมซับควันหรือว่าซับกลิ่นได้ คือเครื่องฟอกอากาศที่ค่อนข้างใช้ในโรงพยาบาลหรือโรงงานบางที่ โดยที่ที่กรองมีอายุการทำงานนานมากถึง 4 ปี  4. ที่ฟอกอากาศลักษณะผสาน ถือเป็นที่กรองสภาพอากาศที่ประเภทผสมผสาน 2 ระบบไปด้วยกันอาจคือผสานระหว่าง Carbon พร้อม Ionic หรือ HEPA กับ Ionic ก็ได้แล้วแต่ว่าผู้ประดิษฐ์ต้องการให้ที่ฟอกสภาพอากาศทำงานออกบนประเภทไหน
            โดยแบบเครื่องกรองอากาศเท่าที่มีที่เอ่ยถึงอาจจะได้มีหลายๆคนงงงวยว่าแล้วจะประกอบด้วยรูปแบบการคัดเลือกที่ฟอกอากาศยังไงเพื่อที่จะเหมาะกับตนเองที่สุด ข้อแรกควรจะรู้จักสภาพอากาศในที่พักตัวเองว่ารูปแบบอากาศในตัวบ้านเป็นอย่างไร มีขี้ผงมากหรือเปล่า หรือว่ามีกลิ่นไม่ดีหรือเปล่าเลยค่อยซื้อที่ฟอกสภาพอากาศถัดมาที่การคัดเลือกตัวที่กรองอากาศโดยตัวที่ดีควรจะมี  2 ระบบในเครื่องเดียวก็คือ  กรองฝุ่น ดักจับขี้ผง พร้อมด้วยดูดซับกลิ่นภายในเครื่องเดียว รวมไปถึงมีแรงที่จะสามารถดูดอากาศรอบๆ เพื่อให้ไปกรองรวมทั้งปล่อยอากาศใสสะอาดออก เช็คดูก่อนว่าหน่วยสกัดสภาพอากาศกับแผ่นกรองมีกลักษณะประเภทที่เรามุ่งหวังหรือเปล่ารวมทั้งสามารถนำไปชะล้างง่ายหรือเปล่ารวมถึงพวกสนนราคาที่กรองเป็นแบบไหนเพื่อที่ตอนที่ที่กรองหมดอายุจะสามารถซื้อหาได้ง่าย หลังสุดคือการคิดทบทวนตัวเลขที่มีชื่อว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ค่านี้ก็เป็นตัวเลขเอาไว้เปรียบเทียบศักยภาพเพื่อทำงานของเครื่องฟอกสภาพอากาศซึ่งตัวเลขนี้จะมีการเพิ่มสูงขึ้นหากมีคนอยู่ที่ห้อง
            เรื่องจากการทำงานพร้อมด้วยการบำรุงรักษาคือ การใช้งานในส่วนเครื่องกรองสภาพอากาศควรปิดห้องเพื่อที่จะเครื่องฟอกอากาศใช้งานทิ้งไว้ก่อนที่เข้าในห้องเพื่อให้สภาพอากาศสะอาดสะอ้านก่อน ส่วนการดูแลทำความสะอาดเป็นพึงทำความสะอาดที่กรองขั้นต่ำทุก  3 เดือน  ด้วยการนำมาล้างแล้วก็แล้วก็ตากให้แห้ง  สำหรับฆ่าเชื้อไวรัส  หรือว่าล้างตามที่เอกสารแนะนำชี้ตัวไว้ แต่ส่วนคนที่ไม่อยากทำความสะอาดบ่อยๆ ก็ควรจะเลือกใช้ประเภทประจุไฟฟ้า เนื่องจากแม้กระนั้นจะมูลค่าแพงกว่าประเภทอื่นๆแต่ไม่ได้ไม่ต้องชะล้างบ่อยอีกทั้งดูแลรักษาง่าย
จะเห็นว่าที่ฟอกอากาศประกอบด้วยหลายอย่างอีกทั้งรูปแบบสำหรับซื้อให้เหมาะสำหรับการใช้งานก็ไม่ได้ยากเหมือนที่คิดไว้นอกจากนั้นแล้วการบำรุงรักษาความสะอาดก็สะดวกมากอีกเช่นกัน โดยที่ที่ฟอกอากาศมีซื้อกันมากมายด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ เริ่มตั้งแต่สนนราคา 2-3พันบาทรวมถึง 4-5 หมื่นเลยทีเดียว
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี