สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานวงการ Rock 'n' Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 218 อ่าน
ตำนานวงการ Rock 'n' Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2019, 11:41:39 PM »
                ถ้าคุณคือผู้ที่หลงเสน่ห์ในเสียงดนตรี หรือว่าเสียงดนตรี เชื่อว่าท่านจักต้องรู้จักแบรนด์เครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเป็นยี่ห้อที่ได้รับความชื่นชมเป็นการใหญ่ อาทิเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องกระจายเสียง และต่างๆ อีกเยอะแยะ ซึ่งเรื่องราวประวัติของแบรนด์นี้ ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แวดวงเพลงRock and Rollเลยก็ว่าได้ และยี่ห้อที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง ซึ่งประวัติของ Marshall นั้น จะมีความเป็นมาประการใดบ้าง พร้อมกับทำไมถึงได้มาเป็นแบรนด์ระดับโลกปานนี้ ข้าพเจ้าจักมาหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ริเริ่มตั้งขึ้นโดย Jim Marshall ซึ่งจุดเริ่มแรกอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมือโปรมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง จากนั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาจัดการธุรกิจร้านรวงขายเครื่องดนตรี พร้อมทั้งอุปกรณ์หลายอย่าง ซึ่งเริ่มต้นจากการจัดจำหน่ายกลองชุดอีกทั้งกีตาร์ในลอนดอนย่าน Hanwell โดยผู้ซื้อโดยมากจักเป็นนักดนตรีดนตรีRock 'n' Roll ที่มีชื่อเสียงในช่วงเวลานั้น ตัวอย่างเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้ซื้อมากขึ้น
                ภายหลังก็เริ่มมีนักดนตรีดัง หลายคนต้องการแอมป์ หรือว่าเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมกับเสียงดังกว่าแต่ก่อน เนื่องจากปัญหาที่พบส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นเรื่องความดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอดีในการบรรเลงโชว์สดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจลองทำออกมาขาย และดันประสบผลอย่างมาก กลายเป็นการบอกปากต่อปาก กระทั่งวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาสร้างออกมาจัดจำหน่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย และได้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดเริ่มของยี่ห้อ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่เป็นเหตุให้นักดนตรีทั้งหลายชอบ ยิ่งกว่านั้นยังเอื้อนเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงเยี่ยมเท่าที่เคยมีมา (ในยุคนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดไปมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาสร้างแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความเชื่อใจจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงมีชื่อเสียง ระดับประวัติศาสตร์เช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC เป็นอาทิ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในช่วงเวลา 60 ของ Marshall แบบรวบรัด แต่ครั้นเวลาได้ล่วงก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่เชี่ยวชาญในสังคมเครื่องเสียงก็ได้พัฒนาและเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมมือในการผลิตสินค้าเพื่อให้ทันยุค ทันสมัย อีกทั้งแม่นยำตามความหวัง หรือตอบโจทย์ผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทหูฟัง เพื่อให้ลูกค้า หรือว่าคนทั่วไปให้ได้รับประสบการณ์การฟังเพลงในแบบของ Marshall รวมไปถึงสินค้าเหล่าลำโพงที่สามารถต่อบลูทูธได้ โดยนั่นเป็นเหตุให้ Marshall ฮิตอย่างล้นหลามเช่นกัน ด้วยแบบเสียงที่ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งดีไซน์ที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิก สละสลวย ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าสนใจ และจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังปราศจากสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth และลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจักมีรายละเอียดดังนี้
 
หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไร้สายที่มีความคลาสสิคอยู่ภายในตัว ดีไซน์สวยงาม เรียบร้อยมีสไตล์ ขนาดเล็กสามารถพับได้ ทำให้พกติดตัวไปไหนต่อไหนได้ง่ายดาย มีการต่ออย่างรวดเร็วด้วย Bluetooth 4.0 แต่สามารถใช้ร่วมกับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นเดียวกัน  สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ Li-ion Polymer (680mAh) และกินเวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ส่วนของเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะเบสแน่นๆ เสียงร้องคมชัด มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นส่วนเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม เหมาะสมกับการเป็นสุดยอดประวัติศาสตร์แบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกจริงๆ โดยหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ ราคาจักอยู่ที่ไม่มากเกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                เป็นลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ที่ได้ออกค้าขายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นเดียวกัน แต่ทว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าแต่แรกเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้สุรเสียงที่ชัดครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ภายในทั้งสิ้น 3 ตัว อีกทั้งยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือว่าแจ็คขนาด 3.5 มม. และ INPUT2 หรือว่า RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีฝีไม้ลายมือในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้พร้อมด้วย ให้เสียงเหมือนท่านกำลังฟังบทเพลงจากการแสดงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีราคาถูกที่ไม่เลย 15,900 บาท หากว่าเปรียบเทียบสุรเสียงที่ได้มา ถือว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางอีฉันได้ยกมาฝากกันในวันนี้ ซึ่งจักเห็นได้ว่าตั้งแต่อดีตกระทั่งสมัยนี้นั้น ชาวเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้แทบทุกเวทีเลย รวมไปถึงหูฟัง และลำโพงที่มากมายก่ายกองหลายรุ่นที่ไม่ว่ากาลเวลาจักพ้นไปยาวนานเพียงใด แต่ทว่า Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิคตามสไตล์แบบ Marshall มิเคยเปลี่ยนแปลง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : marshall ราคา

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall