พูดได้เลยว่า
หม้อหุงข้าวไฟฟ้าเป็นไอเท็มประจำเรือนของคนไทยเลยก็ว่าได้ เพราะว่าความพอใจในการกินอาหารที่มุ่งเน้นข้าวเป็นองค์ประกอบหลัก จากดั้งเดิมที่ใช้การหุงหาข้าวจากเตาถ่าน ก็ได้ปรับปรุงขึ้นมาเป็นหม้อหุงข้าวไฟฟ้าในสมัยนี้ โดยมีมากหลายประเภท หลายความจุ มากหลายแบรนด์ คุณภาพอีกทั้งคุณสมบัติในการใช้งานก็แตกต่างกันไป
ชนิดหม้อหุงข้าวไฟฟ้าในปัจจุบันนี้นั้นมีหลากหลายลักษณะ โดยสามารถแยกใหญ่ๆ ได้ 3 ชนิดด้วยกัน ดังต่อไปนี้
1.ประเภทหุงต้มอย่างเดียว
โดยมากคือหม้อหุงข้าวชนิดแยกหม้อแยกฝา ใช้หุงข้าวเป็นสำคัญ และหุงหาข้าวได้รวดเร็วทันใจประมาณ 20 นาทีราคาเริ่มต้นที่ 500 บาท
2.หุงต้มข้าวพร้อมด้วยอุ่นโดยอัตโนมัติ
ใช้หุงหาข้าวและอุ่นข้าวได้ ตัวหม้อพร้อมด้วยฝาติดกัน มีช่องถ่ายเทไอน้ำ ใช้เวลาในการหุงข้าวนานมากขึ้นมาราวๆ 25 นาทีมูลค่าเพิ่มขึ้นมา
3.ชนิดดิจิตอล (Digital)
สามารถหุงต้มข้าวได้ขึ้นหม้อกว่า มีโปรแกรมเมนูปรุงอาหารการกิน มีระบบตั้งเวลา ใช้ทำกับข้าวประเภทต่างๆ ได้ ตัวอย่างเช่น นึ่ง ตุ๋น ทำขนมเค้กพร้อมกับอื่นๆ บางรุ่นสามารถใช้นึ่งข้าวเหนียวพร้อมทั้งประกอบด้วยโปรแกรมหุงข้าวกล้องด้วย แม้กระนั้นจะใช้เวลาในการหุงต้มนานกว่า (โดยประมาณ 40 นาที) พร้อมกับมูลค่าแพงกว่า
มาดูวิธีเลือกหม้อหุงข้าวกันดีกว่า
1.จำนวนคนภายในบ้าน
อันดับแรกพวกเราควรสังเกตว่าคนในบ้านมีกี่คน ถ้าอยู่กันเพียง 2 คน ก็ไม่ต้องใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าขนาดใหญ่มากนักเพราะว่าเกินความจำเป็นและเปลืองไฟมากด้วย
เนื่องด้วยเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นต้องใช้บ่อย เพราะฉะนั้นอัตราการกินไฟจึงเป็นเรื่องใหญ่อย่างหนึ่ง พึงจะคัดหม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่ประหยัดไฟฟ้าโดยจะมีบรรยายในคู่มือการใช้ว่าแต่ละตัวใช้กำลังไฟฟ้าเท่าไรในการหุงข้าว
ในประเด็นนี้ควรดูว่าคุณมีความต้องการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ อาทิเช่นต้องการหุงข้าวเหนียว ทำโจ๊ก ทำข้าวต้ม หรือว่าทำไข่ตุ๋น ฯลฯ และที่สำคัญควรจะต้องตั้งนาฬิกาได้ เพื่อให้ประหยัดเวลาในกรณีที่ไม่อยู่เรือน
4. คัดเลือกหม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่มีวัสดุในการเคลือบผิวที่ดี
หม้อหุงข้าวไฟฟ้าในช่วงนี้ หากจักให้มีประสิทธิภาพพร้อมทั้งคงทนกับการใช้งานสูงสุดจักต้องมีวัสดุในการเคลือบผิวที่แน่นหนา ถ้าหากจะให้ดีควรเป็นแบบเทปล่อนสำหรับช่วยให้ข้าวไม่ติดก้นหม้อและทำให้ทำความสะอาดสบายกว่าหม้อหุงข้าวไฟฟ้าในรุ่นเก่าๆ
บางคนคงจะชอบเติมน้ำแล้วใช้นิ้วมือตรวจวัดระดับน้ำว่าเป๊ะแล้วหรือยัง แต่ทว่าหม้อหุงข้าวไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ จักมีขีดน้ำบอกระดับไว้ที่ตัวหม้อเลยอีกทั้งยังจำแนกอีกว่าถ้าเป็นข้าวพวกไหนต้องใช้ขีดใดอีกด้วย
6. แบรนด์ของหม้อหุงข้าวไฟฟ้า
ต้องคัดเลือกยี่ห้อดังๆ เพราะหม้อหุงข้าวไฟฟ้านั้นต้องใช้หลายปี เพราะฉะนั้นเน้นแบรนด์ที่รู้จักไว้ก่อน อย่าเห็นแก่หม้อหุงข้าวไฟฟ้าความถูกเกินไป เพราะว่าคือคุณภาพของสินค้าและสวัสดิภาพของผู้ใช้ด้วย
โดยทั่วไปยามจับจ่ายใช้สอยผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าควรมีการรับรองผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ดีการเลือกสรรซื้อหม้อหุงข้าวไฟฟ้าโดยมากต้องดูที่ประกัน 1 ปีขึ้น ที่สำคัญใบประกันห้ามทำฉีกหรือว่าทำหายไปโดยเด็ดขาด
พอได้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่ต้องการแล้ว การทะนุบำรุงก็เป็นสิ่งสำคัญพึงกระทำดังต่อไปนี้
ถูหม้อให้แห้งก่อนหุงหาอาหาร
ในการหุงข้าวแต่ละครั้ง ทันทีที่ล้างน้ำข้าวเสร็จแล้ว ก็ควรที่จะใช้ผ้าเช็ดที่ก้นหมอหุงข้าวให้แห้งเต็มที่ก่อนที่จะหยิบยกลงไปยังแท่นหุง มิฉะนั้นอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือทำให้ระบบชั้นในของหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเสียหายได้
2.ห้ามปิดช่องระบายไอน้ำ
ในเวลาที่หุงข้าวห้ามนำผ้าหรือวัตถุมาตั้งปิดหรือว่าบังช่องถ่ายเทไอน้ำ เพราะว่าอาจจะเป็นเหตุให้ไอน้ำไม่สามารถระบายออกมาได้ตอนที่ข้าวกำลังเดือดดาล และอาจจะทำให้น้ำขังอยู่ในช่องถ่ายเทไอน้ำกระทั่งหลากออกมาสร้างความเสื่อมเสียต่อตัวหม้อหุงข้าวหรือแผงวงจรข้างในได้
3. ใช้ทัพพีที่ให้มา
ควรใช้ทัพพีที่ให้มาพร้อมกับหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเพราะจักมีการออกแบบให้รองรับการใช้งานโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหม้อที่มีการเคลือบผิวเพราะถ้าหากใช้ทัพพีที่เป็นโลหะหรือว่าวัสดุที่มีความแหลมคม อาจจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนกับผิวเคลือบภายในหม้อได้ พร้อมทั้งถ้ามีการหลุดลอกของผิวเคลือบออกมา ก็อาจมีอะไรสิ่งใดสิ่งหนึ่งคละเคล้ากันออกมากับข้าว
และนี่คือเรื่องราวน่ารู้ของหม้อหุงข้าวไฟฟ้า คาดว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่ต้องการเลือกซื้อมาติดบ้านนะฮะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีTags : หม้อหุงข้าวไฟฟ้า,หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ราคา,หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี
