สวัสดี บุคคลทั่วไป

เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series

  • 0 ตอบ
  • 219 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2019, 03:28:48 PM »
ถ้าเอ่ยถึง Huawei ประเภท P Series ตัวแรกที่คำนึงถึงเลย ก็น่าจะหลบไม่พ้น Huawei P9 เนื่องจากช่วงที่เปิดตัวรุ่นนี้ออกมาครั้นวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 นับว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะด้วยความเป็นกล้องถ่ายภาพคู่ที่ได้รับการผสมผสานของเทคโนโลยีที่ร่วมพัฒนากับ LEICA จึงทำให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างสวยงาม และยังได้รับความชื่นชอบอยู่ในปัจจุบันนี้ วันนี้เราจะพาไปย้อนรอยเรื่องกล้องถ่ายภาพของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องถ่ายภาพหลัง 2 กล้องถ่ายรูปที่ทาง Huawei ได้ร่วมแรงร่วมใจกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องถ่ายภาพดีกรีตำนานมาร่วมมือออกแบบกล้องถ่ายภาพให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งใต้ LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการชี้ช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขห้อยท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งถือเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่พอดีเลยเทียว
 
 โดยกล้องถ่ายรูปตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายภาพที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะกล้องตัวที่ 2 จะเป็นกล้องถ่ายภาพที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่คมชัดกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปรกติ และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายถึงปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus อย่างเดียวกันเลย อีกอย่างถึงจะแยกเป็นกล้องถ่ายรูป RGB กับ กล้องถ่ายภาพ Monochrome แต่กล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวจะทำงานร่วมกันอยู่แล้ว จึงทำให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนสีขาว-ดำคมชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูปทั่วไป รวมไปถึงสามารถปรับโฟกัสหลังจากทำการถ่ายภาพได้ด้วยเช่นเดียวกัน

 ด้านกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังจัดว่ายังทำออกมาได้ดีแม้ว่าจะไม่ใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องถ่ายภาพด้านหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างสว่าง หน้าขาวใส ถ้าหากใครที่ชอบเซลฟี่ ก็ไม่ควรพลาด ยิ่งกว่านั้นยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงไฟน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน ตัวอย่างเช่นท่านไปงานฉลองกลางคืน แต่อยากเซลฟี่ คุณก็สามารถถ่ายได้ทุกสถานที่ โดยไม่ต้องมองหาแสงจากที่ใด เพราะว่าจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างทันทีที่ท่านลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่ยังกะไฟแฟลชหน้าเลยเทียว
 
 และถ้าหากล้วงลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงเริ่มที่โหมดออโต้ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานสะดวกที่สุด เพราะแค่เพียงยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์แค่นั้น เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่หัดถ่ายรูป แต่ต้องการรูปถ่ายที่สวยงาม โหมดอัตโนมัติก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายภาพอยู่บ้าง โดยคุณสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ ซึ่งตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย หากใครต้องการนำไปแก้ไขในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็มิได้มีฤทธิ์เดชในการแต่งเยอะมากมาย เนื่องด้วยขีดจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้อง Monochrome ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีเลยก็ว่าได้ เพราะว่าเป็นยี่ห้อแรกที่มีกล้องถ่ายภาพเพื่อถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดปลีกย่อยความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่ชัด สวยงามมาก เหมือนราวกับมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการจำลองรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งอาจจะทำได้ไม่ดีราวกับกล้องถ่ายรูปใหญ่อย่าง DSLR เพราะมีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนน่าอาย
 
 และโหมดสุดท้ายนี้ที่ไม่แนะนำไม่ได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าท่านมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่ท่านจะได้นี่เทียบเท่ากล้องถ่ายรูปใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะว่าถ้าหากปราศจากขาตั้งกล้อง อาจทำให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้ท่านสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยเชียว แต่หากว่าไม่อยากเปลี่ยนอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้อัตโนมัติได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีสาระสำคัญ สเปคการใช้งานต่างๆ ที่น่าศึกษาอีกเพียบ แต่อย่างที่เสนอไปในข้างต้น ว่า Huawei กลุ่ม P Series นั้น มีข้อดีที่กล้องถ่ายภาพอยู่แล้ว ซึ่งถ้าหากว่าใครที่นิยมชมชอบการถ่ายภาพ และอยากได้รูปถ่ายที่ค่อนข้างจะมีคุณภาพเท่าเทียมกล้องถ่ายภาพใหญ่ๆ อีกทั้งยังสามารถติดตัวได้อย่างฉลุยมากกว่าพกกล้องถ่ายรูปจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งเวลานี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง โดยเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น โดยแต่ละเว็บไซต์ หรือร้านค้า ราคาอาจต่างกันออกไป อย่างไรก็ลองตรวจสอบราคากันอีกครั้งนะขอรับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีวิว Huawei P9

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9