สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานกลุ่ม Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 238 อ่าน
ตำนานกลุ่ม Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2019, 08:17:04 PM »
                หากคุณเป็นผู้ที่ตกหลุมรักในเสียงเพลง หรือเสียงดนตรี มั่นใจว่าคุณจะต้องรู้จักมักคุ้นยี่ห้อเครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องมาจากเป็นยี่ห้อที่ได้รับความชื่นชมอย่างมาก อย่างเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องกระจายเสียง และอื่นๆ อีกจำนวนมาก โดยเรื่องราวภูมิหลังของยี่ห้อนี้ จัดว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของประวัติศาสตร์แวดวงเพลงRock and Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยี่ห้อที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยประวัติของ Marshall นั้น จักมีประวัติประการใดบ้าง พร้อมกับทำไมถึงได้มาเป็นยี่ห้อระดับโลกปานนี้ เราจะมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดเริ่มต้นอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมือโปรมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง แล้วก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาจัดการธุรกิจร้านค้าขายเครื่องดนตรี พร้อมทั้งวัสดุอุปกรณ์หลายชนิด ซึ่งเริ่มจากการจัดจำหน่ายกลองชุดกับกีตาร์ในลอนดอนบริเวณ Hanwell โดยลูกค้าส่วนมากจะเป็นนักดนตรีเพลงร็อกแอนด์โรล ที่มีความโด่งดังในยุคนั้น เช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นเหตุที่ทำให้มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น
                สืบมาก็เริ่มมีนักดนตรีดังๆ หลายคนอยากได้แอมป์ หรือเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งดังกว่าเดิม เพราะตัวปัญหาที่พบส่วนมากค่อนข้างเป็นเรื่องความเสียงดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอในการเล่นโชว์สดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจทดลองออกมาจัดจำหน่าย และดันสำเร็จเหลือเกิน กลายเป็นการเล่าปากต่อปาก กระทั่งวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาสร้างออกมาค้าขายอย่างเอาเป็นเอาตาย และได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดเริ่มของแบรนด์ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่เป็นเหตุให้นักดนตรีทั้งหลายโปรดปราน รวมถึงยังพูดคือความเห็นเดียวกันว่าคือแอมป์กีตาร์ที่เสียงดีเลิศตามที่เคยมีมา (ในช่วงเวลานั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และต่อจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาสร้างแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมด้วยตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความเชื่อใจจากมือกีตาร์สายบลูส์ แนวร็อก จากวงชื่อดัง ระดับตำนานอย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมถึง AC/DC เป็นอาทิ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในสมัย 60 ของ Marshall แบบสรุป แม้กระนั้นครั้นเวลาได้ล่วงก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล แบรนด์ Marshall ที่เชี่ยวชาญในสังคมเครื่องเสียงก็ได้พัฒนาและหยิบยกเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทันยุค ทันสมัย อีกทั้งถูกต้องตามความหวัง หรือตอบโจทย์ผู้ซื้อเพิ่มมากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ที่เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทหูฟัง เพื่อให้ผู้ซื้อ หรือบุคคลทั่วๆ ไปให้ได้รับประสบการณ์การสดับตรับฟังเสียงดนตรีในสไตล์ของ Marshall รวมถึงสินค้าพวกลำโพงที่สามารถต่อบลูทูธได้ โดยนั่นทำให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างมากมายเหมือนกัน ด้วยสไตล์เสียงที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งการออกแบบที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิก สละสลวย โดยรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าศึกษา และจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังปราศจากสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจักมีรายละเอียดปลีกย่อยดังต่อไปนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไร้สายที่มีความคลาสสิกอยู่ในตัว ดีไซน์สวยงาม ดูดีมีสไตล์ ขนาดกะทัดรัดสามารถพับได้ ทำให้พกติดตัวไปไหนต่อไหนได้สบาย มีการเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วด้วย Bluetooth 4.0 แม้กระนั้นสามารถใช้ร่วมกับเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเหมือนกัน  สามารถใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ Li-ion Polymer (680mAh) และกินเวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ด้านของน้ำเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เหตุด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องคมชัด มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีมาก สมกับการเป็นสุดยอดตำนานยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกแน่แท้ ซึ่งหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ ราคาจะอยู่ที่ไม่มากเกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่ได้ออกขายนานแล้วเหมือนกัน แต่ทว่าเรื่องของคุณภาพนั้นมิได้ยิ่งหย่อนไปกว่าเดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้สุรเสียงที่คมชัดครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ข้างในทั้งหมด 3 ตัว ยิ่งกว่านั้นยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. อีกทั้ง INPUT2 หรือ RCA นอกจากนี้ยังมีความสามารถเฉพาะในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้ด้วย ให้น้ำเสียงเหมือนกับคุณกำลังฟังเพลงจากการแสดงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีราคาถูกที่ไม่เลย 15,900 บาท ถ้าเทียบกับสุรเสียงที่ได้รับ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางเราได้หยิบยกฝากกันในวันนี้ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยเก่ายันสมัยปัจจุบันนั้น หมู่เรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Marshall สัญชาติอังกฤษนี้เกือบจะทุกเวทีเลย รวมทั้งหูฟัง และลำโพงที่มากมายก่ายกองหลากหลายรุ่นที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปยาวนานเพียงใด แต่ Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิกตามสไตล์แบบ Marshall มิเคยเปลี่ยน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : marshall ราคา

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall