จากเดิมที่พวกเราดูโทรทัศน์แบบหน้าจอตู้ ปัจจุบันนี้การพัฒนาที่พุ่งทะยานในเรื่องของเทคโนโลยีเป็นเหตุให้เรามีโทรทัศน์หน้าจอแบน ในระดับ HD จวบจนกระทั่ง Full HD จนถึงเดี๋ยวนี้เป็น Ultra HD (UHD) หรือ 4K เลยเทียว หลายท่านที่จะซื้อทีวีเครื่องใหม่ คงต้องสังเกตถึงหลายๆ สิ่ง ทั้ง สเปคโทรทัศน์ หรือ มูลค่าโทรทัศน์ รวมทั้งอื่นๆ อีกเป็นเบือ
ยิ่งณ เวลานี้ ทีวีหลากหลายรุ่นก็ออกมาจนเลือกไม่ได้
ราคาโทรทัศน์ ในทุกวันนี้ก็มี หลายระดับ เพราะเช่นนั้นมาพินิจข้อสำคัญก่อนที่จะเลือกซื้อทีวีกันดีกว่าว่าควรเน้นที่ส่วนใดกันบ้าง
1. สัดส่วนจอ
ในสมัยเก่าที่ชาวเรายังใช้ทีวีจอตู้ หรือว่า CRT TV ขนาด 25"- 29" ก็จัดว่าจอใหญ่โตแล้ว พอก้าวย่างไปสู่ทีวีหน้าจอแบนหรือว่า LCD TV ก็มักมีสัดส่วนประเดิมที่ 32" เป็นหลัก ด้วยเหตุที่ระดับมูลค่าทีวีจอแบนที่ไม่สูงนัก แต่หลายปีผ่านไปหลายคนคงจะคิดว่าทีวีหน้าจอ 32" นั้นมันค่อนข้างเล็กเกินไป ถ้าหากมีระยะห่างชมห่างซัก 1.5-2 เมตร สามารถเลือกซื้อทีวีขนาดใหญ่ซัก 40"- 50" ได้เลย หรือหากระยะรับชม 2 เมตรขึ้นไป ขนาดใหญ่มาตรฐานอย่าง 55" ก็เหมาะสม
2. HD หรือ 4K
หากจักเอ่ยถึงความต่างของ HD และ Ultra HD นั้นก็คงจะเป็นความละเอียดของจอ ที่แบบความละเอียดสูง HD ปกติจักเรียกแบบว่า ชุด 1080p เนื่องจากความละเอียดของหน้าจอคือ 1920x1080 นั่นหมายถึง มันมี 1,920 พิกเซลแนวนอนและ 1,080 พิกเซลในแนวตั้ง ฉะนั้นจึงมีประมาณ 2 ล้านพิกเซลในจอทีวีนั้น ๆ
โทรทัศน์ความละเอียดสูง (UHD) หรือที่เรียกว่าโทรทัศน์ 4K มีความละเอียดหน้าจอ 3840x2160 ดังนั้นจึงมีพิกเซล 8 ล้านพิกเซลหรือสี่เท่าของจำนวนพิกเซลแต่ละภาพเป็นชุด HD อาเรย์พิกเซลที่หนาแน่นเพิ่มขึ้นในชุด UHD ช่วยให้สามารถรับชมรายละเอียดปลีกย่อยของภาพได้เพิ่มขึ้น ผลดีของ UHD TV มีเพิ่มขึ้นในสัดส่วนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นอย่างเช่น 65" ขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม หากลักษณะการใช้งานคือการชมฟรีทีวี เคเบิ้ลทีวี หรือภาพยนตร์ HD และ DVD ทั่วๆ ไปเป็นหลัก โดยมีความละเอียดอยู่ในขั้น Full HD หรือว่า HD ทั่วๆ ไป ทีวีความละเอียด Full HD ก็เป็นตัวเลือกที่พอเพียงต่อการใช้งาน แต่กระนั้นหากต้องการรองรับอนาคต โทรทัศน์ความละเอียด 4K เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างน่าศึกษาโดยมูลค่าทีวีหน้าจอแบนก็จะต่างกันไปตามสเปคความชัดเหล่านี้
สนน
ราคาทีวีจะย่อมเยาหรือมีราคา Contrast Ratio นี้ก็เป็นสิ่งสำคัญ ค่านี้ยิ่งสูงยิ่งดีเพราะแปลความหมายว่าอัตราส่วนสีดำที่ดำที่สุดพร้อมกับสีขาวที่ขาวที่สุดที่ทีวีสามารถโชว์ได้ โทรทัศน์เครื่องใดมีค่าคอนทราสต์เรโชสูงๆจักโชว์ภาพได้แลดูลึกมีมิติเหมือนจริง สามารถเก็บรายละเอียดของภาพในฉากมืดๆ ได้ดี ไม่ผิดเพี้ยน สีสันความสว่างของภาพจะดี ภาพที่ได้จักมีมิติ มีรายละเอียดปลีกย่อยไม่คลุมเครือ
4. Response Time
ค่านี้ยิ่งต่ำมากๆ ยิ่งดี อย่างน้อยควรจะต่ำกว่า 4ms ซึ่งค่า Response Time นี้เป็นความเร็วในการตอบสนองของเม็ดพิกเซลครั้น ผันแปรจากการแสดงสีดำมาเป็นสีขาว แล้วก็แปรเปลี่ยนจากสีขาวมาเป็นสีดำอีกครั้งนึง โดยมีหน่วยเป็นมิลลิวินาที (ms) อย่างไรก็ดีลูกค้าทั่วไปค่อนข้างเห็นสเปคข้างกล่องที่พาดพิงจำนวนที่ค่อนข้างจะไม่น่าเชื่อ เหตุผลก็เป็นเพราะว่าผู้ประกอบการแต่ละยี่ห้อต่างมีวิธีการวัดค่า Response Time เป็นของตนเอง เพราะฉะนั้นผู้ซื้อจึงควรทดลองด้วยตาตัวเองมากกว่าหลงเชื่อสเปคที่เขียนไว้
มีช่องเชื่อมต่อที่ครอบคลุมหรือเปล่า
ถ้าหากเป็นขนาด 42" ขึ้นไปควรมีช่องเชื่อมต่อ HDMI version 1.4 (ถึงกระนั้นถ้าหากโทรทัศน์ที่เลือกซื้อเป็น UHD TV ควรเป็น HDMI version 2.0) อย่างน้อยๆ 3 ช่อง แต่ถ้าเป็นขนาดเล็กกว่านั้นส่วนใหญ่แต่ละยี่ห้อจะให้มาประมาณ 1-2 ช่องเท่านั้น
- ช่องเชื่อมต่อ Component ควรจะมีอย่างน้อย 1 ชุด
- ช่องเชื่อมต่อ Optical
- ช่องเชื่อมต่อ AV ก็ควรมีถึงแม้ว่าความโอนเอียงในวันข้างหน้าอาจจะมิได้ใช้แล้ว แต่ณ เวลานี้ยังคงมีเครื่องหรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้สาย AV กันอยู่ ด้วยเหตุนั้นก็ควรจะมีอย่างน้อยซัก 1 ชุดพอเหมาะ
- ส่วนช่องเชื่อมต่อ USB Port ในทุกวันนี้รุ่นราคาถูกขนาด 32" อย่างน้อยๆ ก็มีให้ 1 ช่องแล้ว เพราะเช่นนั้นรุ่นกลางขนาด 40" ขึ้นไปควรมีอย่างน้อย 2 ช่อง
การเลือกการออกแบบของทีวีให้เหมาะกับเฟอร์นิเจอร์นั้นนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญ เช่นนั้นควรเลือกให้เหมาะกับสไตล์ของบ้าน
ทั้งหมดนี้คือเรื่องน่าศึกษาของการเลือกซื้อโทรทัศน์ขั้นพื้นฐานในในเวลานี้ นะฮะ สิ่งที่สำคัญที่สุดหลงลืมไม่ได้เลยก็คือควรเลือกซื้อให้เหมาะสมกับพื้นที่บ้านและไลฟ์สไตล์จักดีที่สุด ไม่จำเป็นจะต้องซื้อจอใหญ่ ๆ ราคาแพงเรื่อยไปขอรับกระผม
Tags : ราคาทีวี,ราคาทีวีจอแบน,ราคาโทรทัศน์
