สวัสดี บุคคลทั่วไป

ไอโฟน 8 และ iPhone 8Plus อีกลู่ทางของความคุ้มราคา

  • 0 ตอบ
  • 240 อ่าน
แม้สมาร์ทโฟนเรือธงของค่าย Apple ในศก 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ซึ่งมาพร้อมกับออกแบบและคุณลักษณะแบบพรีเมี่ยมและแน่ๆว่าราคาก็แพงอีกด้วย แต่กระนั้นหลายคนคงหลงลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้านี้ iPhone X เริ่มเพียง 15 นาที iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักมักจี่กัน โดยถัดจากนั้นคงราวเป็นรุ่นที่ถูกลืมเนื่องมาจากกระแสของ iPhone X แต่รู้ไหมว่า iPhone 8 พร้อมทั้ง iPhone 8 Plus แม้นจะมีโครงสร้างหน้าตาไม่ต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นผู้ครอบครอง iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นผู้ครอบครองได้ ข้าจะนำทุกท่านไปทำความรู้จักมักจี่กับโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ให้ดีเพิ่มขึ้น
 
iPhone 8 พร้อมทั้ง iPhone 8 Plus เปิดวางขายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ที่อเมริกาและจำหน่ายที่ไทยวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสรรสองขนาด คือ iPhone 8 สัดส่วนจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus ขนาด 5.5 นิ้ว ซึ่งทั้งคู่รุ่น มีสัดส่วนตัวเครื่องทัดเทียมกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง ซึ่งเป็นการทำสีเฉดใหม่มีประสิทธิภาพในการกันน้ำ กันฝุ่นละออง เช่นกัน อย่างไรก็ดีมีข้อแตกต่างตรงที่ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีข้างหลังเป็นกระจก เป็นเหตุให้สามารถชาร์จแบบไม่มีสายได้
 
 ในด้านของขนาดนั้น Apple ก็มีมาให้เลือกเพียงแค่ 2 ขนาด ได้แก่ 64 GB และ 256 GB ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายสินค้าไปให้ผู้ซื้อได้อย่างครอบคลุมพร้อมด้วยรวดเร็วมากขึ้น จึงกระทำการลดรุ่นให้น้อยลง

 
 ถึงแม้ว่าความละเอียดจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มเติมการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสีหน้าจอให้ตรงกับสภาวะแสงในเวลานั้น ทำให้จอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
 
 ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core แยกเป็น 4-Core ที่สมรรถนะสูง และอีก 2-Core ใช้ระยะเวลาที่เครื่องไม่ได้ทำงานหนักอะไร โดยใช้การได้อย่างลื่นไหล ที่น่าศึกษาคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไปหรือเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย

 ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกระดับดีเลิศ ยกตัวอย่างเกมรถแข่งอย่าง Need for Speed ที่จำเป็นต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างเยอะ หรือไม่ก็ ROV ก็เล่นได้ไม่ติดขัด

 กล้องได้ปรับปรุงมาจาก iPhone 7 ทั้งคู่โมเดล ถึงแม้จะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม แต่กระนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้เยอะขึ้น ฉายรูปในสภาพแสงน้อยได้ดีขึ้น ฉายรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า "Portrait Lighting" เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด ภาพคน เดิม ที่ให้มนุษย์เราเลือกปรับแสงใบหน้าบุคคลได้มากถึง 5 แบบ กล้องถ่ายภาพข้างหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมกับไฟแฟลชจากหน้าจอ Retina HD

                 ในด้านการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพการเคลื่อนที่ในวิดีโอที่ออกมาก็จะดูอ่อนนุ่ม ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้านี้มีแค่ 30fps) แต่ณ เวลานี้เราเลือกได้อิสระมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดปกติ ส่วนการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps
 
 เทคโนโลยีชาร์จปราศจากสายที่เพิ่มเข้ามาให้กับ iPhone 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นครั้งแรกนั้นรองรับกับวัสดุอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายถึง ไม่จำเป็นจะต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple อย่างเดียว แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จไม่มีสายจาก Apple ออกมาจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้โดยทุกวันนี้สามารถใช้ยี่ห้ออื่นๆ ได้ แต่ทว่าแนะนำว่าพึงจะเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge

 ตกลงว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple แม้นจะคงดีไซน์ตัวเครื่องเดิมทีตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้องถ่ายรูป เป็นพิเศษในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนโปรดปรานฉายรูปน่าจะติดใจการรวมกันของคุณภาพของกล้องที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยแต่งแสงเงาในภาพได้มากหน้าหลายตารูปแบบตามความต้องการ ทำให้ในระหว่างที่ออก ขายใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องถ่ายภาพโทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุดในตลาดโทรศัพท์มือถือ
 
ส่วนหน้าจอที่ต้องตาต้องใจบวกกับความไหลลื่นและฟีเจอร์สำคัญ ๆ ที่มิเป็นรองสมาร์ทโฟนตัวตัวท็อปใด ๆ ในขณะนี้ก็ถือว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเปรียบกับ iPhone x แต่ถ้าหากใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะเขยื้อนขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่ชักชวนไปนั้น ก็แนะนำว่าเฝ้าคอยไปอีกสักหน่อย เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่น่าจะทวีคูณมากกว่านี้อีกในรุ่นต่อไป

Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8