สวัสดี บุคคลทั่วไป

ต้นตระกูล Huawei P Series

  • 0 ตอบ
  • 224 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ต้นตระกูล Huawei P Series
« เมื่อ: มีนาคม 06, 2019, 06:39:00 AM »
หากพูดถึง Huawei ประเภท P Series ตัวแรกที่นึกถึงเลย ก็น่าจะหลีกหนีไม่พ้น Huawei P9 เนื่องมาจากช่วงที่เปิดฉากรุ่นนี้ออกมาเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 นับว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ด้วยความเป็นกล้องถ่ายรูปคู่ที่ได้รับการผสมผสานของเทคโนโลยีที่ร่วมพัฒนากับ LEICA จึงเป็นเหตุให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างงดงาม และยังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน วันนี้ผมจะพาไปย้อนรอยเรื่องกล้องถ่ายรูปของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องถ่ายภาพข้างหลัง 2 กล้องถ่ายภาพที่ทาง Huawei ได้ร่วมแรงกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องถ่ายรูปดีกรีตำนานมาเข้าร่วมออกแบบกล้องถ่ายรูปให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องถ่ายภาพข้างหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งใต้ LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการชี้ให้เห็นช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขห้อยท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่พอเหมาะเลยทีเดียว
 
 โดยกล้องถ่ายภาพตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายรูปที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะกล้องถ่ายภาพตัวที่ 2 จะเป็นกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่ชัดกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปรกติ และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายถึงปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus อย่างเดียวกันเลย อีกอย่างถึงแม้จะแยกเป็นกล้องถ่ายภาพ RGB กับ กล้องถ่ายภาพ Monochrome แต่กล้องทั้งสองตัวจะทำงานด้วยกันอยู่แล้ว จึงทำให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดในส่วนสีขาว-ดำชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูปทั่วๆ ไป รวมถึงสามารถปรับโฟกัสหลังจากทำการถ่ายรูปได้ด้วยเหมือนกัน

 ด้านกล้องถ่ายรูปหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังถือได้ว่ายังทำออกมาได้ดีแม้จะมิใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องด้านหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างสว่าง ใบหน้าขาวใส ถ้าหากใครที่นิยมชมชอบถ่ายภาพตัวเอง ก็ไม่ควรพลาด ยิ่งกว่านั้นยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงไฟน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน ตัวอย่างเช่นคุณไปงานสังสรรค์ยามค่ำคืน แต่ว่าอยากเซลฟี่ คุณก็สามารถถ่ายได้ทุกทุกหนทุกแห่ง โดยไม่ต้องแลหาแสงจากที่ใด เพราะว่าหน้าจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างโดยทันทีที่คุณลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่ราวกับไฟแฟลชข้างหน้าเลยเชียว
 
 และถ้าล้วงลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงจะเริ่มที่โหมดออโต้ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานสบายที่สุด เนื่องจากแค่เพียงยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์แค่นั้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่หัดถ่ายรูป แต่ต้องการรูปถ่ายที่สวยงาม โหมดออโต้ก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายภาพอยู่บ้าง โดยท่านสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ โดยตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย หากใครต้องการนำไปแก้ไขในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็ไม่ได้มีอานุภาพในการแต่งเยอะมากมาย เนื่องด้วยข้อจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้องถ่ายภาพ Monochrome ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญเลยก็ว่าได้ เหตุเพราะเป็นแบรนด์เริ่มแรกที่มีกล้องสำหรับถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดปลีกย่อยความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่ชัด สวยงามมาก เหมือนยังกับมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการจำลองรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งอาจจะทำได้ไม่ดีเหมือนกล้องใหญ่อย่าง DSLR เหตุเพราะมีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนน่าอาย
 
 และโหมดสุดท้ายนี้ที่ไม่แนะนำมิได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าหากท่านมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่คุณจะได้นี่เสมอเหมือนกล้องถ่ายภาพใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะว่าถ้าหากปราศจากขาตั้งกล้อง อาจจะทำให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้ท่านสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยเชียว แต่ถ้าหากไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้อัตโนมัติได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีประเด็นสำคัญ สเปคการใช้งานต่างๆ ที่น่าสนใจอีกเป็นเบือ แต่อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ว่า Huawei สาย P Series นั้น มีข้อเด่นที่กล้องถ่ายรูปอยู่แล้ว ซึ่งหากว่าใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ และอยากได้ภาพถ่ายที่ค่อนข้างจะมีคุณภาพเทียบเท่ากล้องถ่ายรูปใหญ่ๆ อีกทั้งยังสามารถพกพาได้อย่างง่ายดายมากกว่าพกกล้องถ่ายรูปจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งทุกวันนี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง ซึ่งเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น โดยแต่ละเว็บไซต์ หรือห้างร้าน ราคาอาจจะแตกต่างกันออกไป ยังไงก็ลองสำรวจราคากันอีกครั้งนะขอรับกระผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีวิว Huawei P9

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9