สวัสดี บุคคลทั่วไป

iPhone 8 และ iPhone 8Plus อีกหนทางของความคุ้มราคา

  • 0 ตอบ
  • 260 อ่าน
แม้กระนั้นสมาร์ทโฟนตัวท็อปของค่าย Apple ในศก 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ที่มาพร้อมกับออกแบบและคุณลักษณะแบบพรีเมี่ยมและแน่ๆว่าราคาก็แพงเหมือนกัน ถึงกระนั้นหลายคนคงหลงลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้านี้ iPhone X เปิดฉากเพียง 15 นาที iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำตัวให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักมักจี่กัน โดยจากนั้นอาจจะเหมือนกับคือรุ่นที่ถูกลืมเลือนเนื่องมาจากกระแสของ iPhone X แต่รู้ไหมว่า ไอโฟน 8 กับ iPhone 8 Plus ถึงแม้ว่าจะมีเค้าโครงหน้าตามิต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นเจ้าของ iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นผู้ครอบครองได้ อิฉันจะพาทุกคนไปทำความรู้จักมักจี่กับโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นนี้ให้ดียิ่งขึ้น
 
iPhone 8 กับ iPhone 8 Plus เปิดวางขายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ในสหรัฐอเมริกาและจัดจำหน่ายที่ประเทศไทยวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสรรสองขนาด คือ iPhone 8 ขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus สัดส่วน 5.5 นิ้ว ซึ่งทั้งสองรุ่น มีสัดส่วนตัวเครื่องเท่ากัน iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง โดยเป็นการทำสีเฉดใหม่เอี่ยมมีประสิทธิภาพในการกันน้ำ กันฝุ่นละออง เช่นกัน อย่างไรก็ตามมีข้อแตกต่างตรงที่ ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus มีข้างหลังเป็นกระจก ทำให้สามารถชาร์จแบบไร้สายได้
 
 ในด้านของขนาดนั้น Apple ก็มีมาให้คัดแค่เพียง 2 ขนาด ได้แก่ 64 GB และ 256 GB ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายสินค้าไปให้ลูกค้าได้อย่างทั่วถึงพร้อมกับเร็วเพิ่มมากขึ้น จึงกระทำการลดรุ่นให้น้อยลง

 
 ถึงแม้ว่าความละเอียดจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิสีจอให้ตรงกับสภาวะแสงตอนนั้น ทำให้จอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
 
 ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core จำแนกเป็น 4-Core ที่ความสามารถสูง และอีก 2-Core ใช้ระยะเวลาที่เครื่องไม่ได้ทำงานหนักอึ้งอะไร ซึ่งใช้การได้อย่างลื่นไหล ที่น่าดึงดูดคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบทั้งการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วไปและเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย

 ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกอันดับชั้นเยี่ยม ยกตัวอย่างเกมรถแข่งเช่น Need for Speed ที่ต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างเยอะ หรือ ROV ก็เล่นได้ไม่ติดขัด

 กล้องได้ปรับปรุงมาจาก iPhone 7 ทั้งสองโมเดล แม้จะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม แม้กระนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดได้เยอะขึ้น ถ่ายภาพในภาวะแสงน้อยได้ดีขึ้น ถ่ายรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า "Portrait Lighting" เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด Portrait เดิม ที่ให้คุณเลือกปรับแสงใบหน้าบุคคลได้มากถึง 5 แบบ กล้องด้านหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมทั้งแฟลชจากจอ Retina HD

                 ในส่วนการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพความเคลื่อนไหวในวิดีโอที่ออกมาก็จะดูละมุน ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้ามีแค่ 30fps) แต่ประเดี๋ยวนี้เราเลือกได้เสรีมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดปรกติ ส่วนการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps
 
 เทคโนโลยีชาร์จไร้สายที่เพิ่มเติมเข้ามาให้กับ ไอโฟน 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นครั้งแรกนั้นรองรับกับอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายถึง ไม่จำเป็นต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple เท่านั้น แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จไร้สายจาก Apple ออกมาจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้โดยตอนนี้สามารถใช้แบรนด์อื่นๆ ได้ อย่างไรก็ดีแนะนำว่าจำต้องเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge

 ตกลงว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple ถึงแม้ว่าจะคงไว้ดีไซน์ตัวเครื่องแรกเริ่มตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้องถ่ายรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนชื่นชอบถ่ายรูปน่าจะพอใจการรวมกันของคุณภาพของกล้องถ่ายรูปที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยแต่งเติมแสงเงาในภาพได้ต่างๆ นาๆแบบตามความอยาก ทำให้ในระหว่างที่ออก วางตลาดใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ดีที่สุดในท้องตลาดโทรศัพท์มือถือ
 
ส่วนจอที่น่าพึงพอใจผนวกกับความไหลลื่นและฟีเจอร์สำคัญ ๆ ที่ไม่เป็นรองมือถือตัวตัวหลักใด ๆ ในระยะนี้ก็นับว่า iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเทียบกับ iPhone x แต่หากใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะเขยิบขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่แนะไปนั้น ก็แนะนำว่าเฝ้าคอยไปอีกนิดหน่อย เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้อีกในรุ่นต่อไป

Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8