ปัญหาอาการหลังเร็วที่เกิดขึ้นกับผู้ชายนั้น เป็นปัญหาใหญ่และแผ่ขยายขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทยและอาจจะเรียกได้ว่า เป็นปมปัญหาที่เกิดขึ้นกับชายทั่วโลกแล้วก็ได้ สาเหตุที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนใหญ่ก็เกิดเป็นเพราะว่า เกิดจากสถานะการใช้ชีวิต ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มีทั้งภาวะความเครียด ความบีบคั้นในการทำงานต่างๆ ซึ่งส่งผลให้กับร่างกายและจิตใจ ทำให้เกิด ปัญหาอาการหลังเร็ว ได้โดยที่คุณผู้ชายไม่รู้ตัวเลย จะเห็นได้ว่า ถ้าดูจากสถิติอาการของโรคนี้แล้ว เราจะรู้ได้เลยว่า ยิ่งนับวันแล้วจะมีผู้ชายทั่วทั้งโลก มีปัญหาอาการ นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ นี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา
ยุคปัจจุบันจากข้อมูลสถิติล่าสุด โอกาสผู้ชายที่จะมีปัญหานี้ มีมากถึงร้อยละ 30 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเลย ซึ่งมันแปลว่า ถ้าคุณเจอคนเดินมา 10 คน ที่เป็นผู้ชาย 3 คนใน 10 คนนั้นจะมีปมปัญหาอาการหลังเร็ว อย่างแน่นอน นี่นับว่าเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ และเป็นเรื่องที่เราต้องหันมาเอาใจใส่ แก้ไขปัญหา กันอย่างจริงจังแล้ว เหตุเพราะไม่อย่างนั้น นับวันจะมีแต่คนมีปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีลดน้อยลงเลย แต่ยังมีข่าวดีหรือเรื่องนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ อาการนกกระจอกไม่ทันกินน้ำนี้ สามารถแก้ปัญหาให้หายขาดได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งยา หรือพึ่งการผ่าตัดใดๆทั้งสิ้นเลย ก็ได้ขอเพียงแต่คุณเข้าใจวิธีการรักษาที่ถูกต้อง และมีความตั้งเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาเท่านั้น คุณก็จะสามารถหายขาด จากอาการต่างๆเหล่านี้ได้อย่างแน่แท้ นี่นับว่าเป็นเรื่องดีมาก เนื่องจากว่าถึงแม้ว่าเราจะพบเห็น อาการที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกันถ้าสามารถจัดการให้รักษาหายขาดได้ ก็จะเป็นทางออกของปัญหานี้ ที่จะยุติอาการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ หลังเร็ว หรือสำหรับใครที่ต้องการชะลอการหลัง ใดๆก็ตามสามารถแก้ไขได้หมดทั้งสิ้นเลยทีเดียว ในอดีตนั้น จะได้ยินวิธีการรักษา ที่เน้นไปลักษณะของการกินยาและการกินยานั้น เป็นการแก้ไขตัวปัญหาในลักษณะชั่วขณะเท่านั้น ไม่สามารถแก้ไขปัญหาระยะยาวได้ เป็นที่ทราบกันดีว่าการกินยานั้น เราไม่สามารถกินติดต่อกันได้ตลอดระยะเวลาเป็นปีๆ เหตุว่าจะส่งผลปัญหาให้เกิดกับตับ หรือไตต่างๆได้อย่างแน่นอน ทำให้ร่างกายทรุดโทรมลงในระยะยาว ซึ่งจะไม่เป็นผลดีโดยรวมแน่แท้
ช่วงเดียวกันการรักษาโดยการผ่าตัดก็เป็นวิธีการที่เคยนำมาใช้กันในสมัยก่อนซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่และเหมาะสำหรับคนที่มีอาการหนักมากๆอย่างเดียวเนื่องจากต้องใช้หมอที่มีฝีมือจริงๆแล้ว ยังต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้เป็นทางเลือกท้ายที่สุดจริงๆ ถ้าจะต้องทำการผ่าตัด ขณะนี้มีแนวทางการรักษาต่างๆ ที่สามารถแก้ไขอาการเหล่านี้ได้ โดยที่ไม่ต้องกินยาหรือผ่าตัดเลย
ด้วยเหตุนั้นหากคุณสนใจที่จะแก้ไขปัญหาอาการหลังเร็ว คุณกำลังมีปัญหานกกระจอกไม่ทันกินน้ำ เสร็จเรว เกิน หรือต้องการแก้ไขชะลอการหลัง ให้รีบเข้าไปทำความเข้าใจได้ที่เว็บไซต์นี้ทันทีเลยคุณจะพบคำตอบ ที่แก้ไขได้อย่างทันท่วงที และง่ายดายโดยที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายสูงมาก และหายขาดถาวรตลอดไปอย่างเป็นแน่
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เสร็จเรว ทำไง

เครดิต : http://www.mensolve.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%A7/

Tags : เสร็จเรว ทำไง

ในทุกๆวันผิวหน้าของเราต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆมากมายทั้งจากอากาศ มลพิษ สภาพแวดล้อม ที่ทำให้ผิวหน้าของเราดูอ่อนล้า ดำคล้ำและไม่กระจ่างใส เราควรบำรุงผิวหน้าของเราด้วยปัจจัยอื่นๆด้วย ตัวอย่างเช่น การเลือกบริโภคอาหารการกินที่มีประโยชน์และมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวที่นอกจากจะส่งผลให้ผิวสวยสุขภาพดีดูกระจ่างใสแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น อาทิเช่น แอปเปิ้ล มีวิตามินซี สารแอนติออกซิแดนท์ และคอลลาเจนทำให้ผิวขาวใสเปล่งปลั่ง ,ทับทิมอุดมไปด้วยวิตามิน A E Cสูงกับสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อต้านริ้วรอยและผิวสวย ขาวกระจ่างใส ,แตงกวามีส่วนประกอบของน้ำเป็นจำนวนมากและมีวิตามินซีทำให้ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง และไม่แห้งกร้าน นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว การมาร์คหน้าก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิวหน้าของเรา
การพอกหน้าคืออะไร
มาร์ค(Mask) คือ การเคลือบผิวด้วยสารบำรุงผิวเข้มข้น เพื่อทำความสะอาดและดูดซับสิ่งสกปรก กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพิ่มการบำรุงผิวหน้าอย่างลึกล้ำ ช่วยให้ผิวพรรณดูผ่องใส มีน้ำมีนวลโดยปกติแล้ว เราควรจะมาร์คหน้าสม่ำเสมอทุกสัปดาห์(แต่แค่สัปดาห์ละ 1 ครั้งนะคะเพราะการมาร์คหน้าบ่อยเกินไป อาจจะทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองได้)
มาร์คแบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้
-ครีมมาร์ค
-มาร์คปูน
-มาร์คแผ่น
ในบทความนี้เราจะพาสาวๆมาทำความรู้จักกับ "มาร์คแผ่น" กันนะคะ
มาร์คแผ่น Sheet type เป็นแผ่นเซลลูโลตัส ที่เป็นรูปใบหน้า มีดวงตา จมูก ปาก ชุบserumเข้มข้นจึงมีราคาสูง เปรียบเสมือนการทาserumปริมาณมาก แผ่นมาร์คหน้าจะเหมาะสมกับผิวเกือบทุกประเภทและผิวที่เริ่มแสดงริ้วรอยของอายุ ช่วยคืนความชุ่มชื้นสู่ผิว ช่วยซ่อมแซมผิว พร้อมปรับการทำงานของผิวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ส่วนระยะเวลาก็แล้วแต่สูตรของแต่ละยี่ห้อแต่ว่าไม่ควรเกิน 20 นาทีนะคะเพราะพอแผ่นมาร์คเริ่มแห้งก็จะเริ่มดูดซับความชุ่มชื้นกลับไป ข้อดีของแผ่นมาร์คหน้าคือหาซื้อหาได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป พกพาสะดวก ใช้ง่าย แต่ข้อเสียคือ ราคาจะแพงกว่ามาร์คประเภทอื่นๆ
มาร์คแบบแผ่นแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทได้แก่
1,one,หนึ่ง แผ่นมาร์คที่ใช้ทั่วใบหน้าแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
-แผ่นมาร์คแบบแผ่นเดียว ใช้แผ่นมาร์คทั่วใบหน้าเพื่อการดูแลผิวไปพร้อมพร้อมกันทั้งใบหน้า
-แผ่นมาส์กที่แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ แผ่นมาร์คสำหรับด้านบนของใบหน้าและแผ่นมาร์คสำหรับด้านล่างของใบหน้า เพราะบางครั้งในการใช้แผ่นมาร์คแบบแผ่นเดียวส่วนที่เราต้องการให้แนบสนิทไปกับผิว ได้แก่ ร่องแก้ม ร่องจมูก ไม่สามารถแนบสนิทไปกับผิวได้ เพราะฉะนั้น แผ่นมาร์คแบบที่แยกออกเป็นสองส่วนนี้จึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
2,two,สอง แผ่นมาร์คที่ใช้เฉพาะส่วนของใบหน้า
-แผ่นมาร์คใช้เฉพาะรอบดวงตา คุณสมบัติ คือ เพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยลด ริ้วรอยรอบดวงตา
-แผ่นมาร์คที่ใช้เฉพาะบริเวณจมูก คุณสมบัติ คือ ช่วยลอกสิวเสี้ยนและสิวอุดตันในรูขุมขนที่บริเวณจมูกให้หลุดลอกได้ง่ายขึ้น
-แผ่นมาร์คที่ใช้เฉพาะบริเวณรอบคาง สรรพคุณ คือ ช่วยลดการระคายเคือง ลดการอักเสบของผิว ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสิวบริเวณรอบคาง
ชนิดของแผ่นมาร์ค
- แผ่นมาร์ค cotton 100% แผ่นมาร์คชนิดนี้เหมาะสมกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายเหตุเพราะทำมาจากวัสดุธรรมชาติอีกทั้งตัว cotton เองก็ซึมซับครีมไว้กับแผ่นได้ดีจึงทำให้แผ่นมาร์คหน้ามีประสิทธิภาพเต็มที่เมื่อนำมาใช้
-แผ่นพอกหน้าชนิดเจล เป็นแผ่นมาร์คที่สกัดจากธรรมชาติและผสมวิตามินลงไป แผ่นมาร์คชนิดนี้จะช่วยให้ผิวผ่อนคลายเพิ่มมากขึ้นเพราะแผ่นเจลเย็นทำให้ผิวหน้าผ่อนคลาย
-แผ่นมาร์คหน้ากระดาษ แผ่นมาร์คชนิดนี้ผลิตมาจากเส้นใยสังเคราะห์ และผสมสาร serum ลงไปขณะใช้อาจมีน้ำ serum ไหลเปื้อนบ้างให้มาร์คหน้าไว้ 15 นาทีแล้วลอกออก
-แผ่นมาร์คหน้าจากแผ่นใยชีวภาพ (Biocellulose Mask) แผ่นมาร์คนิดนี้จะใช้หลังจากการทำ Laser, IPL , Dermabration และการเสริมความงามอื่นๆที่ทำให้หน้ามีการอักเสบหรือผลัดผิว เป็นการมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหลังถูกทำลาย คุณภาพของมาร์คสูงแต่ราคาก็แพงตาม เหมาะสมกับทุกสภาพผิวหน้า
-แผ่นพอกหน้าชนิดไฮโดรเจน (Hydrogel Mask) เป็นแผ่นมาร์คชนิดที่ละลายไปกับผิวได้เลย ช่วยลดการอักเสบหลักการทำ Laser, IPL, Dermabretion เช่นเดียวกับแผ่นมาร์คหน้าจากแผ่นใยชีวภาพแต่มีราคาแพงกว่ามาก
วิธีการใช้แผ่นมาร์คหน้า
๐ล้างทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกหรือสครับผิวหน้า เพื่อที่เวลาพอกหน้าสารบำรุงต่างๆในแผ่นมาร์คจะซึมซับได้ดีเพิ่มขึ้น
๐ วางแผ่นมาร์คหน้าไปบนใบหน้าใช้นิ้วเกลี่ยได้อากาศออกให้มากที่สุด เพื่อให้แผ่นมาร์คหน้าแนบสนิทไปกับทุกส่วนของใบหน้า หากมีครีมบำรุงหลงเหลืออยู่ในซองให้นำครีมที่เหลือมาทาบริเวณลำคอ หรือทาลงบนผิวหน้าก่อนใช้แผ่นมาร์คปิด
๐มาร์คทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนดของแต่ละผลิตภัณฑ์แล้วลอกออกและใช้ปลายนิ้วมือตบเบาเบาหรือนวดให้ทั่ว ละเว้น บริเวณรอบดวงตาเพื่อช่วยให้ครีมแทรกซึมได้เพิ่มมากขึ้น
๐ล้างหน้าให้สะอาดและทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
การมาร์คหน้าในแต่ละครั้งนั้น ถ้าหากอยากให้ได้ผลดีหรือเกิดประโยชน์สูงสุด ควรจะเลือก แผ่นมาร์คหน้า ให้เหมาะกับสภาพผิวของเรา และการมาร์คหน้าสัปดาห์ละครั้งจะเป็นการช่วยเปิดรูขุมขน ขับสิ่งสกปรกอุดตัน และได้ดูแลผิวหน้าอย่างลึกล้ำอีกด้วย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : แผ่นมาร์คเปล่า

ที่มา : http://www.สูตรมาร์คหน้า.com/แผ่นมาร์คหน้า/

Tags : แผ่นมาร์คหน้า

สาวๆทราบกันดีอยู่แล้วว่าการมาร์คหน้าคือการทาและเคลือบผิวด้วยเอสเซ้นส์เข้มข้น ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและบำรุงผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ผ่อนคลาย ผิวพรรณดูกระจ่างใส การมาร์คหน้านั้นมีหลายรูปแบบ เช่น ครีมมาร์ค, มาร์คปูน,มาร์คแผ่น,มาร์คหน้าแบบโคลน,มาร์คหน้าแบบร้อน หรือมาร์คดินเหนียว ในแต่ละแบบก็จะมีข้อดีและคุณสมบัติเฉพาะต่างกันออกไป "เม็ดมาร์คหน้า" เป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่จัดอยู่ในประเภทของมาร์คแผ่น ในบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับเม็ดมาร์คหน้ารวมไปถึงวิธีการใช้ ว่าใช้แบบไหนจะให้ประสิทธิภาพมากที่สุด
 เม็ดมาร์คหน้าคืออะไร
เม็ดมาร์คหน้า mask diyคือ แผ่นมาร์คอัดเม็ดนั่นเอง ซึ่งพอเรานำไปชุบในสูตรผสมของเหลวที่เราต้องการมาร์คหน้า ไม่ว่าจะเป็น โลชั่น โทนเนอร์เอสเซ้นหรือส่วนผสมจากธรรมชาติ เม็ดมาร์คก็จะพองตัวและขยายเป็นแผ่นมาร์คหน้า ที่เป็นรูปใบหน้า มีดวงตา จมูก ปาก ทำจาก cotton 100%
 วิธีใช้เม็ดมาร์คหน้า
นำเม็ดมาร์คหน้าแช่ลงในส่วนผสมของเหลวต่างๆที่เราต้องการมาร์ค เม็ดมาร์คจะค่อยๆซึมซับของเหลวและพองตัวขึ้น นำมาคลี่ให้เป็นรูปใบหน้าและนำไปแปะบนใบหน้า ใช้นิ้วเกลี่ยให้แผ่นมาร์คแนบสนิทกับใบหน้ามากที่สุด ทิ้งไว้ราวๆ 15 ถึง 20 นาทีพอครบเวลาแล้วนำแผ่นมาร์คออกและล้างหน้าให้สะอาด
 เพื่อให้การมาร์คหน้าได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพเราก็ควรทราบถึงสภาพผิวและปัญหาบนใบหน้าของเรา เพื่อที่เราจะได้เลือกสูตรมาร์คหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวของเราและได้ผลที่เราต้องการมากที่สุดค่ะ
๐ใบหน้ามีสิว สิวเสี้ยน ผิวมัน
-เลือกสูตรมาร์คที่มีส่วนผสมของโคลนเบส ซึ่งจะช่วยสร้างสมดุลให้ผิวได้ดี เน้นมาร์คที่มีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ มีองค์ประกอบของ AHA และ BHA หรือส่วนผสมของพืชธรรมชาติ เช่น ผงขมิ้นชันผสมน้ำมะนาว ,มะขามเปียกผสมนมสด ,มะเขือเทศผสมน้ำมะนาวหรือไข่ขาวฯลฯ
๐ผิวแพ้ง่าย
-ในกรณีที่เป็นคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือยังไม่แน่ใจว่าจะแพ้หรือเปล่า ให้ลองเทสต์กับต้นแขนก่อน แล้วทิ้งไว้30นาที ถ้ามีอาการแสบผิดปกติให้ล้างออกทันทีและไม่ควรใช้กับผิวหน้า และเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง เช่น สารชำระล้าง น้ำหอม สารกันเสีย และสารกันแดด
๐ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น
-ควรเลือกสูตรที่อ่อนโยนถนอมผิว เพิ่มความชุ่มชื้นและควรละเว้นส่วนผสมที่มีกรด เหตุเพราะจะทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น โยเกิร์ตผสมกับน้ำผึ้งและอะโวคาโด ,งาปั่นรวมกับน้ำผึ้งและกล้วยหอม หรือว่านหางจระเข้ผสมกับแตงกวาและน้ำผึ้ง
๐ผิวมีริ้วรอยจากอายุ
-เลือกสูตรมาร์คหน้าที่มีส่วนประกอบของ collagen , อีลาสติน หรือสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารบำรุงบริสุทธิ์จำพวกเปปไทด์ต่างๆ ทั้งนี้เพราะมีคุณสมบัติในการแทรกซึมเข้าสู่เซลล์ผิวลึกได้ดี ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการช่วยลดเลือนริ้วรอย เช่น ใบบัวบก ,มะเขือเทศ ,แครอท ,ดินสอพองผสมกับมะนาวฯลฯ
๐ผิวที่เป็นฝ้ากระจุดด่างดำ
-ควรเลือกสูตรมาร์คหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินซีหรือ AHA เพื่อให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสและฝ้ากระจุดด่างดำดูลดลง เช่น หัวไชเท้า ,ว่านหางจระเข้ ,มะขามเปียก ,ใบบัวบก หรือไข่ขาว
๐ผิวหน้ามัน
-สูตรมะนาวไข่ขาวแตงกวา แตงกวาประกอบด้วยเอนไซม์Cryssin ที่ช่วยย่อยโปรตีน จึงช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า น้ำมะนาวช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้เป็นกรดซึ่งไม่เหมาะกับการเติบโตของแบคทีเรีย และลดช่วยลดน้ำมันส่วนเกิน ไข่ขาวช่วยบีบรูขุมขนให้สิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินหลุดออกมาส่วนแตงกวาช่วยลดความระคายเคืองให้ผิวหน้าชุ่มชื้นไม่แห้งมากไป เพราะผิวหน้าที่แห้งจะกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากดังเดิม , สูตรมะขามเปียกผสมน้ำผึ้งช่วยลดความมัน ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมทั้งกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทำให้หน้าใสด้วย , สูตรมะเขือเทศ มะเขือเทศช่วยซึมซับความมันบนใบหน้าและไม่ทำให้ผิวแห้งมากเกินไป ในมะเขือเทศมีสารไลโคปีน ที่อยู่ในกลุ่มแคโรทีน ที่ช่วยป้องกันรังสี uv ที่เป็นตัวการทำลายคอลลาเจนในผิวทำให้ผิวอ่อนล้าและขาดน้ำ ไลโคปีนช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและรักษาน้ำในผิวไว้ได้
 เมื่อเราดูแลผิวหน้าของเราให้สวยกระจ่างใสแล้ว สาวๆก็อย่าลืมขั้นตอนการบำรุงผิวพื้นฐานประจำวัน เช่น การล้างหน้าให้สะอาดสะอ้าน การใช้ [url=http://www.สูตรมาร์คหน้า.com/เม็ดมาร์คหน้า/]เม็ดมาร์คหน้า[/url] หรือ การทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ พร้อมกับดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อที่จะได้สวยจากภายในสู่ภายนอกไงละคะ

ขอบคุณบทความจาก : http://www.สูตรมาร์คหน้า.com/เม็ดมาร์คหน้า/

Tags : เม็ดมาร์คหน้า,เม็ดมาร์คหน้าเปล่า,เม็ดมาร์กหน้า

ภารกิจหลังเลิกงาน หรืออาชีพที่สร้างรายได้เพิ่มขึ้น จากงานประจำ จะมีอะไรบ้างที่น่าสนใจหากได้ ลองศึกษาดูจากข้อมูลทั่วไป ในwebsiteหรือเว็บบอร์ดต่างๆ คุณก็จะแยกชนิดของอาชีพเสริม ด้วยหลักหลักก็คือการค้าขายทางonline หรือผ่านทางเว็บไซต์ และอีกอย่างหนึ่งก็คือ การซื้อขายแลกเปลี่ยนหรือทำอาชีพแบบออฟไลน์ offline ก็คือการไม่ยุ่งเกี่ยวกับwebเลย ยกตัวอย่างเช่นการนำของเสื้อผ้ามือสองที่มีอยู่ หรือไปรับสินค้าอันดับต่างๆมาขายตามตลาดนัด ตามแผงลอยต่างๆที่เปิดให้เช่าซื้อขายแลกเปลี่ยนช่วงเย็น หรือวันเสาร์อาทิตย์ กรณีอย่างนี้ก็มีคนนิยมทำกันเยอะ แล้วก็สามารถสร้างผลประโยชน์เสริมได้พอสมควร ซึ่งขึ้นอยู่กับความขยันและจุดหมาย แต่วิธีการอย่างนี้ต้องยอมรับว่า ค่อนข้างจะเหนื่อยพอตัว เพราะว่าหากคุณขายทุกวันตอนเย็นหลังเลิกงาน นั้นก็แปลว่าหลังจากเลิกงานเสร็จ คุณจะต้องรีบไปเตรียมร้านค้า หรือเตรียมแผงเพื่อขายสินค้า และอยู่ยาวไปจนกระทั่งช่วงดึก เป็นอย่างนี้ตลอดเวลาและก็วันเสาร์อาทิตย์ คุณก็ยังต้องไปขายอย่างนี้เหมือนกัน ซึ่งจะค่อนข้างเหนื่อย แต่ในปัจจุบันนี้ ยังมีช่องทางที่ดีกว่ามาก ก็คือการทำมาค้าขายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ หรือผ่านทาง social เช่น facebook หรือเว็บประกาศรวมสินค้า ขายฟรีก็มีเยอะแยะ พอประมาณ การค้าขายช่องทางนี้ ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก เพราะว่าไม่เหนื่อยเท่า และทางหรือโอกาสที่ลูกค้าจะเห็นสินค้าของเรา ยังมีกว้างกว่าการเปิดร้านขายจริงๆเสียด้วยซ้ำ โดยเหตุที่เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้ จากคนทั่วประเทศ ขอเพียงของคุณตอบโจทย์ ความต้องการผู้ซื้อได้ หรือนำเสนอถูกที่ถูกเวลา เขาก็จะสามารถหรือพร้อมที่จะสั่งซื้อสินค้าคุณ แม้อยู่กันคนละภาค หรือคนละจังหวัด ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะระบบการขนส่งปัจจุบันนี้ มีทั้งระบบขนส่งของไปรษณีย์ตามมาตรฐาน หรือว่าเป็นขนส่งเอกชนก็มี ที่สามารถจัดส่งผลิตภัณฑ์ได้ อย่างรวดเร็วใช้เวลาเพียงแค่ 1-2 วันก็สามารถรับสินค้า ได้ที่ปลายทางแล้ว เลยทำให้ผู้ใช้นิยมสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ กันมากขึ้นเรื่อยๆและยังสามารถเลือกเปรียบเทียบ ผลิตภัณฑ์สินค้า ได้ดีด้วย คุณสามารถเริ่มทำอาชีพเสริม หลังเลิกงานได้อย่างง่ายๆไม่ว่าจะเป็นการค้นดูเสื้อผ้าเก่า ที่ไม่ได้ใช้แล้ว ของเราที่ดูดีอยู่เอามาลงประกาศขาย อย่างนี้ก็ได้เพราะด้วยสินค้า หรือเสื้อผ้าสายที่เรารู้สึกว่าไม่ได้ใช้แล้ว และอาจจะมีคุณประโยชน์ หรือมีคุณค่าสำหรับคนอื่นถ้านำมาขายในราคาที่พอสมควร ก็จะมีความสนใจสั่งซื้อได้ การคิดค่าส่งของให้ลูกค้าที่ไม่แพงเกินไปนะก็จะทำให้ขายได้ง่าย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย หรือถ้าจะขยับหรือสร้างโอกาสมากขึ้น ก็ลองมองหาสินค้าที่มีความหวังของตลาดค่อยค่อย ดูคนอื่นที่ทำศึกษาไปเรื่อยๆ ว่าอะไรขายดีและมีสินค้าอะไรบ้าง ที่เราจะพอทำได้ไม่ควรจะเข้าไปแข่งสินค้า ที่เค้าขายกันอยู่มากมายมากมายจริงอยู่ที่สินค้านั้น อาจจะขายดีแต่ขณะเดียวกัน ก็มีคู่แข่งขันมากมายด้วยเช่นกัน ฉะนั้นการที่มีคู่แข่งมากมาย ก็แปลว่าช่องทางขายได้น้อยลง หรือไม่ก็จะถูกตัดราคาได้อย่างง่ายดายเพราะฉะนั้นยอมลงทุนเสียเวลา ตั้งใจค้นคว้าหาสินค้า ที่น่าสนใจและคู่แข่งน้อยจะได้ผลดีกว่าการดูสินค้าที่ขายดี แต่คู่แข่งน้อย จะทำให้ประสบความสำเร็จในการทำ อาชีพเสริมหลังเลิกงาน[/b]/]อาชีพเสริมหลังเลิกงาน และเป็นลู่ทาง ที่จะทำให้เป็นรายได้หลัก ในภายหน้าได้ระยะยาว
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : อาชีพเสริมทำเงิน

ขอบคุณบทความจาก : http://www.easydollarincome.com/อาชีพเสริมหลังเลิกงาน/

Tags : อาชีพเสริม,อาชีพเสริมทำเงิน

มีบุตรยากหรือภาวะมีบุตรยาก เป็นคำที่ใช้เรียกคู่สมรสที่ไม่สามารถตั้งท้องได้หรือมีบุตรยาก ในประเทศสหรัฐอเมริกา คาดว่าชาวอเมริกันประมาณ 7 ล้าน(หรือ 1 ใน 8 คู่สามีภรรยาในวัยเจริญพันธุ์)ประสบกับปัญหามีลูกยาก แต่ในประเทศไทยยังไม่มีการเก็บสถิติตัวเลขที่แน่นอน คู่รักบางคู่ที่เมื่อแต่งงานกันแล้วก็อยากที่จะมีบุตรเลยเพื่อต้องการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ บางคู่ก็ได้ลูกสมความตั้งใจ แต่บางคู่อาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะมีลูกอย่างที่ต้องการ
"ภาวะมีลูกยากคืออะไร แค่ไหนถึงเรียกว่า คู่สมรสคู่นั้นๆตกอยู่ในภาวะมีบุตรยาก"
คือการที่สามีภรรยาพยายามมีลูกกันมาประมาณ 1 ปีขึ้นไป โดยที่ไม่ได้ป้องกันแต่ก็ยังไม่มีบุตร โดยปกติแล้วจะดูอายุฝ่ายหญิงเป็นหลัก สำหรับผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปีที่มีเพศสัมพันธ์กับสามีอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 1 ปีขึ้นไป และไม่ได้ป้องกันแล้วยังไม่มีบุตรจัดอยู่ในกลุ่มที่ควรเข้ามารับคำปรึกษาจากสูติแพทย์ที่ชำนาญในเรื่องของการมีบุตรยากแล้ว แต่หากเป็นผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไปนั้น ถ้า 6 เดือนแล้วยังไม่อุ้มท้องก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มมีบุตรยากแล้ว
"มีลูกยากสาเหตุเกิดจากฝ่ายหญิงใช่มั้ย"
โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อมีลูกยากก็มักจะคิดว่าเป็น"ปัญหาของผู้หญิง"แต่ข้อเท็จจริงแล้ว ภาวะการมีลูกยากมีสาเหตุมาจากฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเท่าเท่ากัน คาดว่าปัญหาภาวะมีบุตรยาก มีสาเหตุมาจากฝ่ายหญิง 35% และจากฝ่ายชาย 35 เปอร์เซ็นต์ และสาเหตุอื่นๆที่ไม่สามารถบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนหรือเป็นผลมาจากปัญหาทั้งฝ่ายชายและหญิงอีก 30 เปอร์เซ็นต์
ปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อการมีภาวะมีบุตรยาก
จะแบ่งเป็นปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายในของฝ่ายหญิง ได้แก่ เรื่องของไข่ ,โพรงมดลูก, ความผิดปกติของปากมดลูกและท่อนำไข่ ส่วนฝ่ายชาย ยกตัวอย่างเช่น อสุจิ ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิดของอวัยวะเพศและความผิดปกติของต่อมไร้ท่ออื่นๆ ส่วนปัจจัยภายนอก คือ สิ่งแวดล้อมและการดำเนินชีวิต
มาดูเรื่องของฝ่ายผู้หญิงก่อน สิ่งแรกคือไข่ ยิ่งอายุมากขึ้นๆไข่ก็เริ่มเสื่อมลง และ ยังมีเรื่องของยาที่ใช้คือ ยาคุมกำเนิด ซึ่งอาจไปกดการทำงานของรังไข่ทำให้เมื่อเลิกกินยาแล้ว โอกาสที่จะกลับมามีบุตรบางครั้งช้ากว่าปกติ ตลอดจน เรื่องของโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งจะทำอันตรายต่อโพรงมดลูกและท่อนำไข่ให้ตีบตัน
ส่วนฝ่ายชายนั้น ความผิดปกติแต่กำเนิดของอวัยวะเพศ เช่น ลูกอัณฑะไม่ลงในถุงหรือเซลสร้างอสุจิไม่เจริญ
ยิ่งไปกว่านี้ ความตึงเครียด โรคประจำตัวเรื้อรัง การทำงานหนักหรือพักผ่อนน้อย ก็ยังส่งผลโดยตรงต่อการหลั่งฮอร์โมนร่างกายทั้งชายและหญิง ถ้าฮอร์โมนไม่ดีจะมีผลต่อการเจริญพันธุ์ บางรายไข่ไม่ตก บางรายไข่ตกแต่ไข่ไม่สมบูรณ์ บางคนไข่ไม่สามารถฝังตัวที่มดลูกได้ก็ทำให้ไม่เกิดการตั้งครรภ์
"อาการอื่นๆที่บอกได้ว่าเราอาจจะอยู่ในกลุ่มของผู้มีลูกยาก"
- คนที่มีน้ำหนักตัวมากๆ โดยเฉพาะฝ่ายหญิงโดยวิธีการการคำณวณง่ายๆคือ เอาความสูงตั้งลบด้วย 110 ถ้ามากกว่านั้นก็จัดว่ามีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ
-ลองสังเกตรอบเดือนว่ามาสม่ำเสมอหรือไม่ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการปวดประจำเดือน ถ้าปวดรุนแรงจนถึงขั้นต้องฉีดยาอาจจะสังเกตได้ว่าเราอาจจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มมีบุตรยากได้
นอกจากนั้นยังมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆที่ส่งผลให้มีภาวะมีบุตรยาก หรือสาเหตุ มีลูกยากเกิดจากอะไร เช่น ความดันโลหิตสูงหรือเบาหวาน
พอจะทราบสาเหตุการมีลูกยากกันไปบ้างแล้วนะคะ ในบทความหน้าเราจะมาพูดถึง"วิธีแก้ไข{ภาวะการมีบุตรยาก|ภาวะการมีลูกยาก|การมีลูกยาก|การมีบุตรยาก"และขอให้คู่สมรสทุกคู่ได้ลูกน้อยสมความตั้งใจ

เครดิตบทความจาก : http://www.babyinorder.com/tag/ทําไมถึงมีลูกยาก/

Tags : มีลูกยากเกิดจากอะไร,มีลูกยาก,มีลูกยากทำไงดี

หลายๆท่านทราบกันดีอยู่แล้วว่าการพอกหน้าคือการทาและเคลือบผิวด้วยเซรั่มเข้มข้น ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและบำรุงผิว ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้น ผ่อนคลาย ผิวดูกระจ่างใส การมาร์คหน้านั้นมีหลายประเภท เช่น ครีมมาร์ค, มาร์คปูน,มาร์คแผ่น,มาร์คหน้าแบบโคลน,มาร์คหน้าแบบร้อน หรือมาร์คดินเหนียว ในแต่ละแบบก็จะมีข้อดีและคุณสมบัติเฉพาะต่างกันออกไป "เม็ดมาร์คหน้า" เป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มของมาร์คแผ่น ในบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับเม็ดมาร์คหน้ารวมไปถึงวิธีการใช้ ว่าใช้ยังไงจะให้ประสิทธิภาพมากที่สุด
 เม็ดมาร์คหน้าคืออะไร
เม็ดมาร์คหน้า mask diyคือ แผ่นมาร์คอัดเม็ดนั่นเอง ซึ่งพอเรานำไปชุบในสูตรผสมของเหลวที่เราต้องการมาร์คหน้า ไม่ว่าจะเป็น โลชั่น โทนเนอร์เซรั่มหรือส่วนผสมจากธรรมชาติ เม็ดมาร์คก็จะพองตัวและขยายเป็นแผ่นมาร์คหน้า ที่เป็นรูปใบหน้า มีดวงตา จมูก ปาก ผลิตจาก cotton 100%
 วิธีใช้เม็ดมาร์คหน้า
นำเม็ดมาร์คหน้าจุ่มลงในส่วนผสมของเหลวต่างๆที่เราต้องการมาร์ค เม็ดมาร์คจะค่อยๆดูดซึมของเหลวและพองตัวขึ้น นำมาแผ่ออกให้เป็นรูปใบหน้าและนำไปแปะบนใบหน้า ใช้นิ้วเกลี่ยให้แผ่นมาร์คแนบสนิทกับหน้ามากที่สุด ทิ้งไว้ราวๆ 15 ถึง 20 นาทีเมื่อครบเวลาแล้วนำแผ่นมาร์คออกและล้างหน้าให้สะอาด
 เพื่อให้การมาร์คหน้าได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพเราก็พึงจะทราบถึงสภาพผิวและปัญหาบนใบหน้าของเรา เพื่อที่เราจะได้เลือกสูตรมาร์คหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของเราและได้ผลลัพธ์ที่เราต้องการมากที่สุดค่ะ
๐ใบหน้ามีสิว สิวเสี้ยน ผิวมัน
-เลือกสูตรมาร์คที่มีส่วนประกอบของโคลนเบส ซึ่งจะช่วยสร้างสมดุลให้ผิวได้ดี เน้นมาร์คที่มีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ มีองค์ประกอบของ AHA และ BHA หรือส่วนผสมของพืชธรรมชาติ เช่น ผงขมิ้นชันผสมน้ำมะนาว ,มะขามเปียกผสมกับนมสด ,มะเขือเทศผสมน้ำมะนาวหรือไข่ขาวฯลฯ
๐ผิวแพ้ง่าย
-ในกรณีที่เป็นคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือยังไม่มั่นใจว่าจะแพ้หรือเปล่า ให้ลองทดสอบกับต้นแขนก่อน แล้วทิ้งไว้30นาที ถ้ามีอาการแสบผิดปกติให้ล้างออกทันทีและไม่ควรใช้กับผิวหน้า และหลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง ยกตัวอย่างเช่น สารชำระล้าง น้ำหอม สารกันเสีย และสารกันแดด
๐ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น
-ควรเลือกสูตรที่อ่อนโยนถนอมผิว เพิ่มความชุ่มชื้นและควรงดส่วนผสมที่มีกรด เหตุเพราะจะทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น โยเกิร์ตผสมกับน้ำผึ้งและอะโวคาโด ,งาปั่นรวมกับน้ำผึ้งและกล้วยหอม หรือว่านหางจระเข้ผสมกับแตงกวาและน้ำผึ้ง
๐ผิวมีริ้วรอย
-เลือกสูตรมาร์คหน้าที่มีส่วนผสมของ collagen , อีลาสติน หรือสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารบำรุงบริสุทธิ์จำพวกเปปไทด์ต่างๆ เพราะว่ามีคุณสมบัติในการแทรกซึมเข้าสู่เซลล์ผิวลึกได้ดี ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการช่วยลดเลือนริ้วรอย เช่น ใบบัวบก ,มะเขือเทศ ,แครอท ,ดินสอพองผสมกับมะนาวฯลฯ
๐ผิวที่เป็นฝ้ากระจุดด่างดำ
-ควรเลือกสูตรมาร์คหน้าที่มีส่วนประกอบของวิตามินซีหรือ AHA เพื่อให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใสและฝ้ากระจุดด่างดำดูจางลง เช่น หัวไชเท้า ,ว่านหางจระเข้ ,มะขามเปียก ,ใบบัวบก หรือไข่ขาว
๐ผิวหน้ามัน
-สูตรมะนาวไข่ขาวแตงกวา แตงกวามีเอนไซม์Cryssin ที่ช่วยย่อยโปรตีน จึงช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า น้ำมะนาวช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้เป็นกรดซึ่งไม่เหมาะกับการเติบโตของแบคทีเรีย และลดช่วยลดน้ำมันส่วนเกิน ไข่ขาวช่วยบีบรูขุมขนให้สิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินหลุดออกมาส่วนแตงกวาช่วยลดความระคายเคืองให้ผิวหน้าชุ่มชื้นไม่แห้งมากไป เพราะผิวหน้าที่แห้งจะกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมากเช่นเดิม , สูตรมะขามเปียกผสมน้ำผึ้งช่วยลดความมัน ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมกับกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ทำให้หน้าใสอีกด้วย , สูตรมะเขือเทศ มะเขือเทศช่วยซึมซับความมันบนใบหน้าและไม่ทำให้ผิวแห้งมากเกินไป ในมะเขือเทศมีสารไลโคปีน ที่อยู่ในกลุ่มแคโรทีน ที่ช่วยป้องกันรังสี uv ที่เป็นตัวการทำลายคอลลาเจนในผิวทำให้ผิวล้าและขาดน้ำ ไลโคปีนจะทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและรักษาน้ำในผิวไว้ได้
 เมื่อเราดูแลพื้นผิวหน้าของเราให้สวยกระจ่างใสแล้ว สาวๆก็ไม่ควรลืมขั้นตอนการบำรุงผิวพื้นฐานประจำวัน เช่น การล้างหน้าให้สะอาด การใช้ เม็ดมาร์คหน้า หรือ การทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการกินอาหารที่มีประโยชน์และมีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ พร้อมกับดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อจะได้สวยจากภายในสู่ภายนอกยังไงล่ะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เม็ดมาร์กหน้า

เครดิตบทความจาก : http://www.สูตรมาร์คหน้า.com/เม็ดมาร์คหน้า/

Tags : เม็ดมาร์คหน้า

ในปัจจุบันนี้ ต้องยอมรับเลยว่าค่านิยมของคุณสาวๆในเมืองไทยส่วนใหญ่มักจะนิยมผิวขาว ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆไม่ว่าจะ ครีม โลชั่น อาหารเสริม ที่ผลิตออกมาแล้วโฆษณาชวนเชื่อว่าช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสมียอดจำหน่ายดีมาก นอกจากผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมาแล้วนั้นก็ยังมีวิธีอื่นๆอีกที่โฆษณาชวนเชื่อว่าจะทำให้ผิวขาวได้ในเวลารวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการกินหรือการฉีดกลูต้าไธโอน และที่เป็นอันตรายมากๆเลยก็คือ ครีมที่ใส่สารปรอทหรือสเตียรอยด์ ซึ่งเมื่อนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปใช้แล้วมักจะเกิดปัญหาเรื่องของการแพ้ ไม่ก็มีผลข้างเคียงต่อร่างกายและผิวพรรณ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและจิตใจ ฉะนั้นแล้ว คุณสาวๆก็ควรจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาหรือ อย. หรือ เลือกวิธีที่จะมีผิวขาวขึ้นอย่างไม่เป็นอันตรายเช่น การขัดผิวหรือการมาร์คผิวที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ที่รับประกันได้ว่าปลอดภัยแน่นอนค่ะ
วันนี้เราได้รวบรวมสูตรมาร์คหน้าจากธรรมชาติที่ใช้กับมาร์คชีทเปล่า เพื่อผิวขาวกระจ่างใสอมชมพูมาฝากค่ะ
 1 สูตรน้ำมะนาว
บีบน้ำมะนาวใส่ถ้วยเล็กๆไว้ และนำมาร์คชีทเปล่าจุ่มลงไปให้น้ำมะนาวซึมทั่วมาร์คและนำมาแปะทิ้งไว้ที่หน้าทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด แต่ถ้าสาวๆคนไหนพบว่าผิวหน้าแสบระคายเคืองจากกรดน้ำมะนาวที่มีมากเกินไป ก็อาจจะผสมน้ำเปล่าลงไปได้นิดหน่อย เพื่อให้กรดจากน้ำมะนาวเจือจางลง หรืออาจจะผสมกับน้ำผึ้งหรือโยเกิร์ตลงไปก็ได้ ทั้งนี้เพราะน้ำผึ้งและโยเกิร์ตมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นขึ้นอีกด้วย
 คุณสมบัติของน้ำมะนาว ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกทำให้หน้าขาวเนียนใส ยิ่งไปกว่านั้นมะนาวเป็นพืชสมุนไพรที่มีค่าความเป็นกรดจากธรรมชาติที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี
 2สูตรมะขามเปียกและนมสด
นำน้ำมะขามเปียกเข้มข้นผสมเข้ากับนมสด 2-3 ช้อนโต๊ะ คนให้กลายเป็นเนื้อครีม นำมาร์คชีทเปล่าจุ่มลงไป ให้น้ำมะขามเปียกดูดซึมทั่วมาร์ค นำมาแปะที่หน้าและทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
 คุณสมบัติของน้ำมะขามเปียก มะขามเปียกมีสาร AHA ที่ทำหน้าที่เข้าผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดลอกก่อนที่มันจะแปรสภาพไปเป็นขี้ไคลและยังมีวิตามินที่เสมือนอาหารผิวอย่างวิตามินA B2 C โปรตีน ฟอสฟอรัส ไขมัน กรดทาทาริค กรดซิตริก และแคลเซียมอีกด้วย
 3สูตรมะละกอและโยเกิร์ต
ล้างมะละกอให้สะอาด ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้น และนำไปปั่นรวมกับโยเกิร์ตจนส่วนผสมกลายเป็นเนื้อครีมข้น นำไปแช่เย็นประมาณ 10 นาทีแล้วจึงนำออกมามาร์คหน้า
 คุณสมบัติของมะละกอ มะละกอมีวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดความหยาบกร้านของผิว และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและช่วยให้สีผิวสม่ำเสมอ ส่วนวิตามินซีในมะละกอ ช่วยในการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง และเสริมความกระชับและเต่งตึงของเซลล์ผิว วิตามินซีช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะต่างๆและช่วยต้านอนุมูลอิสระด้วย
 4 สูตรกากกาแฟและน้ำผึ้งและนมสด
นำกากกาแฟมาผสมกับน้ำผึ้ง 2 ช้อนชาและนมสด 2 ช้อนชา คนให้ส่วนผสมเปลี่ยนเป็นเนื้อครีม นำมาร์คชีทเปล่าจุ่มลงไปให้ซึมซับทั่วทั้งแผ่นและนำมาปิดที่ใบหน้าทิ้งไว้ 15 ถึง 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
 สรรพคุณของกากกาแฟ กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวขจัดพิษให้กับผิวชั้นนอก และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวชั้นในและยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวเปล่งปลั่งอีกด้วย
 5 สูตรน้ำนมจมูกข้าว
นำมาร์คชีทเปล่าจุ่มลงไปในน้ำนมจมูกข้าวให้ซึมทั่วแผ่น และนำมามาร์คหน้าทิ้งไว้ราว 15-20 นาที แล้วจึงล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด
คุณค่าของน้ำนมจมูกข้าว ในน้ำนมจมูกข้าวมีวิตามินอีธรรมชาติในปริมาณที่มาก ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอย มีสารแกมม่าออไรซานอล ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UBAและUVB และยังมีสารออไรซาเซรามายล์ ที่ช่วยเติมความลดหย่อนและความชุ่มชื้นใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเต่งตึงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งช่วยลดการเกิดสิว ฝ้า กระ ได้อีกด้วย
 เป็นไงกันบ้างคะ กับสูตรมาร์คหน้า โดยใช้ มาร์คชีทเปล่า เพื่อผิวขาวอมชมพู ที่เราแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกันแล้ว ซึ่งส่วนผสมต่างๆก็หาได้ง่ายแสนง่าย ราคาไม่แพงแถมยังปลอดภัยด้วย แต่สาวๆก็อย่าลืมที่จะบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำบ่อยๆอย่างน้อยวันละ 8 ลิตรนะคะ เพื่อที่จะได้สวยจากข้างในสู่ภายนอก และก่อนที่จะออกจากบ้านก็ควรจะทาครีมกันแดดทุกครั้งนะคะ

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.สูตรมาร์คหน้า.com/มาร์คชีทเปล่า/

Tags : มาร์คชีทเปล่า,มาร์กชีทเปล่า,แผ่นมาร์คชีท

ในแต่ละวันผิวหน้าของเราต้องประสบกับมลภาวะต่างๆมากมายทั้งจากอากาศ มลพิษ สิ่งแวดล้อม ที่ทำให้ใบหน้าของเราดูอ่อนล้า หมองคล้ำและไม่กระจ่างใส เราควรบำรุงผิวหน้าของเราด้วยปัจจัยอื่นๆด้วย ตัวอย่างเช่น การเลือกกินอาหารการกินที่มีประโยชน์และมีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวที่นอกจากจะส่งผลให้ผิวสวยสุขภาพดีดูขาวใสแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น อย่างเช่น แอปเปิ้ล มีวิตามินซี สารแอนติออกซิแดนท์ และคอลลาเจนทำให้ผิวขาวใสเปล่งปลั่ง ,ทับทิมอุดมไปด้วยวิตามิน A E Cสูงกับสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต่อต้านริ้วรอยและผิวสวย ขาวกระจ่างใส ,แตงกวามีส่วนประกอบของน้ำเป็นส่วนใหญ่และมีวิตามินซีทำให้ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง และไม่แห้งกร้าน นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้ว การมาร์คหน้าก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและบำรุงผิวหน้าของเรา
การพอกหน้าคืออะไร
มาร์ค(Mask) คือ การเคลือบผิวด้วยสารบำรุงผิวเข้มข้น เพื่อทำความสะอาดและดูดซับสิ่งสกปรก กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพิ่มการบำรุงผิวหน้าอย่างลึกล้ำ ช่วยให้ผิวพรรณดูผ่องใส มีน้ำมีนวลโดยปกติแล้ว เราควรมาร์คหน้าเป็นประจำทุกสัปดาห์(แต่แค่สัปดาห์ละ 1 ครั้งนะคะเพราะการพอกหน้าบ่อยเกินไป อาจจะทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองได้)
มาร์คแบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้
-ครีมมาร์ค
-มาร์คปูน
-มาร์คแผ่น
ในบทความนี้เราจะพาคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ "มาร์คแผ่น" กันนะคะ
มาร์คแผ่น Sheet type เป็นแผ่นเซลลูโลตัส ที่เป็นรูปใบหน้า มีดวงตา จมูก ปาก ชุบเอสเซ้นส์เข้มข้นจึงมีราคาสูง เปรียบเสมือนการทาserumปริมาณมาก แผ่นมาร์คหน้าจะเหมาะกับผิวเกือบทุกประเภทและผิวที่เริ่มแสดงริ้วรอยของวัย ช่วยคืนความชุ่มชื้นสู่ผิว ช่วยซ่อมแซมผิว พร้อมปรับการทำงานของผิวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้ใบหน้าดูเยาว์วัย ส่วนระยะเวลาก็แล้วแต่สูตรของแต่ละยี่ห้อแต่ไม่ควรเกิน 20 นาทีนะคะเพราะพอแผ่นมาร์คเริ่มแห้งก็จะเริ่มดูดซึมความชุ่มชื้นกลับไป ข้อดีของแผ่นมาร์คหน้าคือหาซื้อหาได้ง่ายตามห้างหรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป พกพาสะดวก ใช้ง่าย แต่ข้อเสียคือ ราคาจะแพงกว่ามาร์คประเภทอื่นๆ
มาร์คแบบแผ่นแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทดังต่อไปนี้
1,one,หนึ่ง แผ่นมาร์คที่ใช้ทั่วใบหน้าแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
-แผ่นมาร์คแบบแผ่นเดียว ใช้แผ่นมาร์คทั่วใบหน้าเพื่อการดูแลผิวไปพร้อมพร้อมกันทั้งหน้า
-แผ่นมาส์กที่แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ แผ่นมาร์คสำหรับส่วนบนของใบหน้าและแผ่นมาร์คสำหรับด้านล่างของใบหน้า เพราะบางครั้งในการใช้แผ่นมาร์คแบบแผ่นเดียวส่วนที่เราต้องการให้แนบสนิทไปกับผิว ได้แก่ ร่องแก้ม ร่องจมูก ไม่สามารถแนบสนิทไปกับผิวได้ ดังนั้น แผ่นมาร์คแบบที่แยกออกเป็นสองส่วนนี้จึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
2,two,สอง แผ่นมาร์คที่ใช้เฉพาะส่วนของใบหน้า
-แผ่นมาร์คใช้เฉพาะรอบดวงตา คุณสมบัติ คือ เพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยลด ริ้วรอยรอบดวงตา
-แผ่นมาร์คที่ใช้เฉพาะบริเวณจมูก คุณสมบัติ คือ ช่วยลอกสิวเสี้ยนและสิวอุดตันในรูขุมขนที่บริเวณจมูกให้หลุดลอกได้ง่ายขึ้น
-แผ่นมาร์คที่ใช้เฉพาะบริเวณรอบคาง คุณสมบัติ คือ ช่วยลดการระคายเคือง ลดการอักเสบของผิว ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสิวบริเวณรอบคาง
ชนิดของแผ่นมาร์ค
- แผ่นมาร์ค cotton 100% แผ่นมาร์คชนิดนี้เหมาะสมกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายเพราะทำมาจากวัสดุธรรมชาติอีกทั้งตัว cotton เองก็ซึมซับครีมไว้กับแผ่นได้ดีจึงทำให้แผ่นมาร์คหน้ามีประสิทธิภาพเต็มที่เมื่อนำมาใช้
-แผ่นพอกหน้าชนิดเจล เป็นแผ่นมาร์คที่สกัดจากธรรมชาติและผสมวิตามินลงไป แผ่นมาร์คชนิดนี้จะช่วยให้ผิวผ่อนคลายเพิ่มมากขึ้นเพราะแผ่นเจลเย็นทำให้ผิวหน้าผ่อนคลาย
-แผ่นมาร์คหน้ากระดาษ แผ่นมาร์คชนิดนี้ผลิตมาจากเส้นใยสังเคราะห์ และผสมสาร essence ลงไปขณะใช้อาจมีน้ำ essence ไหลเปื้อนบ้างให้มาร์คหน้าไว้ 15 นาทีแล้วลอกออก
-แผ่นมาร์คหน้าจากแผ่นใยชีวภาพ (Biocellulose Mask) แผ่นมาร์คนิดนี้จะใช้หลังจากการทำ Laser, IPL , Dermabration และการเสริมความงามอื่นๆที่ทำให้หน้ามีการอักเสบหรือผลัดผิว เป็นการมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหลังถูกทำลาย คุณภาพของมาร์คสูงแต่ราคาก็สูงตาม เหมาะสมกับทุกสภาพผิวหน้า
-แผ่นมาร์คหน้าชนิดไฮโดรเจน (Hydrogel Mask) เป็นแผ่นมาร์คชนิดที่ละลายไปกับผิวได้เลย ช่วยลดการอักเสบหลักการทำ Laser, IPL, Dermabretion เช่นเดียวกับแผ่นมาร์คหน้าจากแผ่นใยชีวภาพแต่มีราคาแพงกว่ามาก
วิธีการใช้แผ่นมาร์คหน้า
๐ล้างทำความสะอาดใบหน้า เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกหรือสครับผิวหน้า เพื่อที่เวลาพอกหน้าสารบำรุงต่างๆในแผ่นมาร์คจะซึมซับได้ดีมากขึ้น
๐ วางแผ่นมาร์คหน้าไปบนใบหน้าใช้นิ้วเกลี่ยได้อากาศออกให้มากที่สุด เพื่อที่จะให้แผ่นมาร์คหน้าแนบสนิทไปกับทุกส่วนของใบหน้า แต่ถ้ามีครีมบำรุงหลงเหลืออยู่ในซองให้นำครีมที่เหลือมาทาบริเวณลำคอ หรือทาลงบนผิวหน้าก่อนใช้แผ่นมาร์คปิด
๐มาร์คทิ้งไว้ตามเวลาที่ระบุของแต่ละผลิตภัณฑ์แล้วลอกออกและใช้ปลายนิ้วตบเบาเบาหรือนวดให้ทั่ว ละเว้น บริเวณรอบดวงตาเพื่อช่วยให้ครีมแทรกซึมได้มากขึ้น
๐ล้างหน้าให้สะอาดและทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
การพอกหน้าในแต่ละครั้งนั้น ถ้าอยากให้ได้ผลดีหรือเกิดประโยชน์สูงสุด ควรจะเลือก แผ่นมาร์คหน้า ให้เหมาะกับสภาพผิวของเรา และการมาร์คหน้าสัปดาห์ละ 1 ครั้งจะเป็นการช่วยเปิดรูขุมขน ขับสิ่งสกปรกอุดตัน และได้ดูแลผิวหน้าอย่างล้ำลึกด้วย

ที่มา : http://www.สูตรมาร์คหน้า.com/แผ่นมาร์คหน้า/

Tags : แผ่นมาร์คหน้า,แผ่นมาร์คหน้าเปล่า,แผ่นมาร์คเปล่า