สิ่งที่ผู้ทำเว็บไซต์ต้องจัดแจงก่อนที่จะมีการดีไซน์จริง


กระบวนการทำเว็บไซต์
การทำเว็บไซต์ให้มีข้อมูลรวมทั้งรายละเอียดที่ครบบริบรูณ์แล้วก็ครอบคลุมกับสิ่งที่ต้องการ เว็บมีความสวยงาม อีกทั้งง่ายต่อการดูและปรับเปลี่ยนข้อมูลในวันหลังนั้น ควรมีการวางเป้าหมายในการออกแบบเว็บไซต์ที่ดี ซึ่งพอสรุปขั้นตอนได้ดังต่อไปนี้เป็น

1. กำหนดจุดมุ่งหมายของเว็บไซต์ การทำเว็บไซต์ ควรจะเริ่มจากการกำหนดจุดหมายให้เห็นภาพกระจ่างแจ้งว่าอยากได้พรีเซนเทชั่นหรือต้องการให้เป็นผลอะไร เมื่อรู้เป้าหมายรวมทั้งจะสามารถระบุข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องได้ ยกตัวอย่างเช่นลักษณะเค้าหน้าและก็สีสันของเว็บเพจ


2. กำหนดกลุ่มผู้ชมจุดมุ่งหมาย เมื่อทราบวัตถุประสงค์ของการพัฒนาเว็บไซต์แล้ว ขั้นตอนถัดมาจะเป็นการกำหนดกรุ๊ปผู้ชมเป้าหมายที่จะเข้าชมและก็ใช้บริการเว็บนี้เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ให้ตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้สูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกรายละเอียด โทนสี กราฟิก แล้วก็เทคโนโลยีที่นำมาช่วยเหลือการผลิตเว็บ


3. จัดเตรียมแหล่งข้อมูล เนื้อหาหรือข้อมูลนับเป็นสาระสำคัญของการสร้างเว็บไซต์ ด้วยเหตุดังกล่าวผู้พัฒนาเว็บไซต์ก็เลยควรต้องทราบดีว่าจำเป็นต้องนำข้อมูลที่ได้รับมาจากแหล่งใดบ้าง เพื่อข้อมูลบนเว็บสมบูรณ์ที่สุด

เนื้อหาที่ต้องมีในเว็บ
การเรียนรู้แบบอย่างจากเว็บทั่วไป จะช่วยทำให้เรามองเห็นว่าในเว็บของพวกเราควรจะมีรายละเอียดอะไรบ้างแต่เนื้อหาต่างๆบนเว็บไซต์นั้นไม่มีกฎระเบียบที่เป็นมาตรฐานตายตัว แม้กระนั้นขึ้นกับสิ่งที่จะพรีเซ็นท์แล้วก็จุดแข็งที่พวกเราอยากให้มี ซึ่งจะทำให้รายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละเว็บไซต์ต่างกันออกไป แต่ว่าสำคัญๆสำคัญแล้ว เพียงพอสรุปได้ว่าข้อมูลพื้นฐานที่ควรมีในเว็บไซต์ควรจะประกอบด้วย

1. เนื้อหาเกี่ยวกับบริษัท องค์กร หรือผู้จัดทำ (About Us) เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับเจ้าของเว็บไซต์ เพื่อบอกให้ผู้ชมรู้ว่าเราเป็นใครกันแน่ มาจากไหน แล้วก็อยากได้พรีเซนเทชั่นอะไรอาทิเช่น เป้าหมายของเว็บไซต์ ประวัติความเป็นมา สถานที่ตั้งของหน่วยงาน เป็นต้น


2. รายละเอียดของสินค้าหรือบริการ(Product/Service Information) เป็นข้อมูลหลักที่พวกเราเสนอในเว็บ ซึ่งถ้าเป็นเว็บทางธุรกิจ ผู้เข้าชมบางทีอาจต้องการรู้รายละเอียดของสินค้าหรือบริการในเว็บไซต์ของเรา เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อสินค้าหรือบริการ แต่ว่าถ้าเป็นเว็บไซต์ที่ให้ความรู้ความเข้าใจ ส่วนนี้ก็อาจจะประกอบด้วยบทความ ภาพกราฟิกมัลติมีเดีย รวมทั้งการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นเพื่อให้ได้ข้อมูลอื่นๆ


3. ข่าวสาร (News / Press Release) บางทีอาจเป็นข่าวสารที่ต้องการส่งถึงบุคคลทั่วไปหรือสมาชิก เพื่อให้รับทราบการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบริษัทหรือเว็บของเรา อาทิเช่นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์บริการใหม่ๆโปรโมชั่นผลิตภัณฑ์เมนส์ หรือกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น


4. ปัญหาคำตอบ (Frequently Asked Question)ปริศนาคำตอบมีความสำคัญ เพราะว่าผู้เข้าชมเล็กน้อยอาจไม่รู้เรื่องข้อมูลหรือมีปัญหาที่อยากได้ถามไถ่การติดต่อทางอีเมล์หรือหนทางอื่น ถึงแม้ว่าจะทำเป็นแม้กระนั้นเสียเวลาโดยเหตุนั้นเราควรจะเดาหรือเก็บรวบรวมปริศนาที่เคยตอบไปแล้วใส่ไว้ในเว็บเพจ ซึ่งผู้เข้าชมที่สงสัยจะสามารถเปิดดุได้ในทันที นอกเหนือจากนี้ อาจมีกระดานข่าวสำหรับให้ผู้ดูแลเว็บรอตอบปัญหา และก็อาจเปิดให้ผู้เข้าชมร่วมกันก็ได้


5. ข้อมูลในการติดต่อ (Contact Information) เพื่อให้ผู้เข้าชมเว็บของพวกเราที่เกิดเรื่องที่น่าสงสัย หรืออยากถามไถ่ข้อมูลอื่นๆสามารถติดต่อกับเราได้ ควรจะกำหนดอีเมล์แอดเดรส (E-mail Address) ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่ติดต่อได้ไว้ ด้วย แล้วก็อาจมีแผนที่สำหรับลูกค้าที่จะต้องการติดต่อโดยตรง
องค์ประกอบของหน้าเว็บเพจ

โดยธรรมดา หน้าเว็บเพจจะแบ่งได้เป็นส่วนหลักๆดังนี้คือ

1. ท่อนหัว (Page Header) อยู่ตอนบนสุดของหน้าเว็บเพจ เป็นบริเวณที่สำคัญที่สุด ด้วยเหตุว่าผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บจะมองเห็นก่อนบริเวณอื่น ส่วนใหญ่นิยมใช้วางโลโก้ ชื่อเว็บไซต์ ป้ายโฆษณา ลิงค์สำหรับการติดต่อ หรือลิงค์ที่สำคัญและระบบนำทาง

2. ส่วนรายละเอียด (Page Body) อยู่ตอนกลางหน้า ใช้แสดงรายละเอียดภายในเว็บเพจซึ่งอาจประกอบไปด้วยใจความ ภาพกราฟิก ตารางข้อมูล และอื่นๆบางครั้งบางคราวเมนูหลักหรือรายการอาหารเฉพาะกลุ่ม บางทีอาจอยู่ในส่วนนี้ก็ได้ โดยมักวางไว้ทางซ้ายมือสุด เนื่องจากผู้เข้าชมจะแลเห็นได้ง่าย


3. ส่วนท้าย (Page Footer) อยู่ข้างล่างสุดของหน้าเว็บเพจจำนวนมากจะนิยมใช้วางระบบนำทางด้านในเว็บแบบที่เป็นลิงค์ข้อความง่ายๆนอกจากนั้นก็อาจจะมีชื่อของเจ้าของเว็บไซต์ ข้อความแสดงลิขสิทธิ์ รวมทั้งอีเมล์แอดเดรส (E-mail Address) ของผู้ดูแลเว็บ


4. แถบข้าง (Side Bar) เดี๋ยวนี้จะนิยมวางแบบด้านข้างของหน้าเว็บเพจให้น่าสนใจ เพื่อใช้วางป้ายแบนเนอร์ หรือลิงค์เสนอแนะเกี่ยวกับบริการของเว็บ เป็น

Tags : รับทำเว็บ,รับออกแบบเว็บ,รับทำเว็บโรงแรม

ความสวยงามเด่นของเว็บไซต์ คือสิ่งที่จะช่วยให้ลูกค้าพึงพอใจ แล้วก็ใคร่รู้จะแบรนด์หรือตัวผลิตภัณฑ์ของเราได้ ซึ่งสิ่งกลุ่มนี้จะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเพิ่มยอดขายการสร้างการจดจำของแบรนด์ รวมทั้งจะต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตได้ การออกแบบเว็บไซต์ก็เลยมีความจำเป็นสำหรับลำดับแรกของการผลิตเว็บไซต์
 เทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ให้น่าสนใจ
1.สีสันโดดเด่น
การเปิดหน้าเว็บไซต์แล้วน่าสนใจเป็น สีสันที่เด่น สะดุดสายตา จะมีผลให้อยากทราบรายละเอียดของเว็บไซต์มากขึ้น แต่ก็ไม่สมควรจะจัดจ้าจนกระทั่งเหลือเกินควรใช้สีสันที่เหมาะสมกับลักษณะของสินค้าหรือองค์กร
2.หน้าเว็บไซต์ดูเข้าใจไม่รกรุงรัง
มีเมนูการใช้แรงงานที่แน่ชัดเข้าถึงเนื้อหาในส่วนต่างๆได้ไม่ยาก ปัญหาของการทำเว็บไซต์แล้วไม่เป็นผลเป็น หน้าเว็บมองรกไม่รู้เรื่องยาก หน้าเว็บไซต์ไม่มีความมีระเบียบเรียบร้อย ก็เลยทำให้ลูกค้าไม่สามารถที่จะเข้าถึงตัวแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ได้ในที่สุด แม้ผลิตภัณฑ์จะมีคุณภาพดีแค่ไหนถ้าหน้าเว็บไซต์ยังใช้งานยาก จะมีผลให้ลูกค้าเลือกใช้ช่องทางอื่นหรือเลือกใช้เว็บไซต์อื่นแทน
3.มีเอกลักษณ์ของแบรนด์ หรือ Corporate Identities
หน้าเว็บที่สมบูรณ์ ชี้ตัวตนของผลิตภัณฑ์ ควรจะมีเอกลักษณ์ที่ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเข้าใจง่ายโดยไม่ต้องอ่านเนื้อหามากมาย ก็สามารถเข้าถึงรวมทั้งนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการเพิ่มยอดจำหน่ายได้ มีลิงค์เชื่อมโยงรายละเอียดที่ชัดแจ้ง
4.การใช้งานหน้าเว็บไซต์ไม่ซับซ้อน
ควรจะพัฒนาเว็บไซต์ให้มีการใช้งานง่าย ไม่สมควรมีขั้นตอนที่มากหรือสลับซับซ้อน โดยเฉพาะรายการอาหารการสั่งสินค้า การแจ้งผล ปริมาณสินค้า ควรจะเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่าย รวดเร็ว มีการตอบรับในทันทีทันใด จะช่วยลดเวลาและก็ความยุ่งยากกรณีที่ลูกค้าอยากผลิตภัณฑ์แบบเร่งด่วนหรือแม้กระทั้งรายการอาหารข่าวสารควรเข้าถึงได้ง่ายและก็เร็ว

• ความรวดเร็วในการโหลดข้อมูล
  
  การออกแบบเว็บไซต์ควรจะมีการสรุปรูปภาพ เพื่อช่วงเวลาในการโหลดข้อมูลบนหน้าเว็บของเราเร็วเพราะว่าคนจำนวนมากที่เข้าเว็บไซต์ ก็อยากที่จะเข้าถึงข้อมูลโดยเร็ว มิใช่พื่อการเข้ามามองเพียงแค่กราฟฟิคบนเว็บไซต์
  
  Tags : ออกแบบเว็บไซต์,สินค้า,กราฟฟิค

ความงดงามเด่นของเว็บไซต์ คือสิ่งที่จะช่วยให้ลูกค้าพอใจ และอยากรู้จักแบรนด์หรือตัวผลิตภัณฑ์ของพวกเราได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการเพิ่มยอดจำหน่ายการสร้างการจดจำของแบรนด์ และจะต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตได้ การเขียนเว็บไซต์จึงมีความจำเป็นสำหรับขั้นตอนแรกของการผลิตเว็บไซต์
 เทคนิคการออกแบบเว็บไซต์ให้น่าสนใจ
1.สีสันโดดเด่น
การเปิดหน้าเว็บแล้วน่าสนใจเป็น สีสันที่เด่น สะดุดสายตา จะทำให้อยากรู้เนื้อหาของเว็บมากยิ่งขึ้น แม้กระนั้นก็ไม่ควรจะจัดจ้าจนกระทั่งเหลือเกินควรใช้สีสันที่เหมาะสมกับลักษณะของผลิตภัณฑ์หรือองค์กร
2.หน้าเว็บไซต์ดูเข้าใจไม่รกรุงรัง
มีรายการอาหารการใช้แรงงานที่กระจ่างเข้าถึงเนื้อหาในส่วนต่างๆได้ไม่ยาก ปัญหาของการออกแบบเว็บไซต์แล้วไม่ได้เรื่องคือ หน้าเว็บไซต์ดูรุงรังไม่เข้าใจยาก หน้าเว็บไซต์ไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย จึงทำให้ลูกค้าไม่สามารถที่จะเข้าถึงตัวแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ได้ในที่สุด แม้สินค้าจะมีคุณภาพดีมากแค่ไหนถ้าหากหน้าเว็บยังใช้งานยาก จะทำให้ลูกค้าเลือกใช้ช่องทางอื่นหรือเลือกใช้เว็บอื่นแทน
3.มีเอกลักษณ์ของแบรนด์ หรือ Corporate Identities
หน้าเว็บไซต์ที่สมบูรณ์ แสดงตัวตนของผลิตภัณฑ์ ควรจะมีเอกลักษณ์ที่ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเข้าใจง่ายโดยไม่ต้องอ่านเนื้อหามากมาย ก็สามารถเข้าถึงและก็ส่งผลให้เกิดการเพิ่มยอดจำหน่ายได้ มีลิงค์เชื่อมโยงเนื้อหาที่ชัดเจน
4.การใช้งานหน้าเว็บไซต์ไม่ซับซ้อน
ควรจะทำเว็บไซต์ให้มีการใช้แรงงานง่าย ไม่สมควรมีขั้นตอนที่เยอะหรือซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูการสั่งสินค้า การแจ้งผล จำนวนผลิตภัณฑ์ ควรจะเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่าย เร็ว มีการตอบกลับในทันทีทันใด จะช่วยลดเวลาแล้วก็ความยุ่งยากในกรณีที่ลูกค้าต้องการสินค้าแบบเร่งด่วนหรือเมนูข้อมูลข่าวสารควรจะเข้าถึงได้ง่ายและก็เร็ว

• ความรวดเร็วในการโหลดข้อมูล
  
  การทำเว็บไซต์ต้องมีการย่อรูปภาพ เพื่อระยะเวลาในการโหลดข้อมูลบนหน้าเว็บของเราเร็วเพราะคนส่วนใหญ่ที่เข้าเว็บ ก็อยากได้ที่จะเข้าถึงข้อมูลโดยด่วน ไม่ใช่พื่อการเข้ามามองเพียงแค่กราฟฟิคบนเว็บ
  
  Tags : เขียนเว็บไซต์,ผลิตภัณฑ์

ผู้คนจำนวนมากคงจะคุ้นหูกับคำว่า แผนผังเว็บไซต์ หรือ site map หรือ แผนที่เว็บ ต่อหน้านี้เป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งส่วนใดของเว็บพูดง่ายๆถ้าหากคิดถึงหนังสือ หน้านี้ก็คือหน้าสารบัญ หรือดรรชนี ที่ทำให้เห็นว่าในเว็บมีรายละเอียดอะไรบ้าง และรวมรวมลิงค์ไปยังส่วนต่างๆของหน้าเว็บไซต์ต่อหน้านี้ช่วยสร้างปฎิสัมพันธ์ที่ดีต่อ Search Engine อีกด้วย
 
การออกแบบเว็บไซต์นั้น ขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญก็คือ การเขียน Site Map อย่างคร่าวๆขึ้นมาก่อน เพื่อเป็นตัวกำหนดขอบเขตการทำเว็บไซต์ และก็การเตรียมข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ว่าเราจะใส่ข้อมูลอะไรลงบนหน้าเว็บบ้าง หลังจากนั้นก็จะง่ายในการเตรียมข้อมูลต่างๆตาม Site Map ที่พวกเราเขียนเอาไว้
 

 
ผังเว็บไซต์ (Site Map) สำหรับ Search Engine
 
สมัยเก่า site map นั้นจะเป็นหน้าหน้านึงบประมาณนเว็บ เพื่อรวมลิงค์ของทุกหน้าบนเว็บ แม้กระนั้นในเวลานี้ ได้มีการทำsitemap เฉพาะของ Search Engine ขึ้นมา เพื่อนำไป submit บนsearch engine ทำให้ search engine รู้สารบาญบนเว็บไซต์ของเราทั้งปวง ซึ่งผู้ที่รับออกแบบเว็บไซต์หรือผู้ทำเว็บไซต์ ต้องพิจารณาถึงส่วนนี้ด้วย Site Map โดยปกติจะทำออกมาในรูปแบบของ XML Fileซึงมีเครื่องมือฟรีมากมากมาย ที่ออกมาเพื่อสร้าง Site Map ฟรี เมื่อได้ไฟล์ XML แล้ว เราสามารถนำไฟล์ XML นี้ไป Submit ที่ Search Engine ได้เลย ได้แก่ Google,Bring,Yahoo
 

ทำไมต้องทำ site map ?
 

• เป็นการจัดเตรียมเพื่อคิดแผนให้ผู้รับทำเว็บไซต์พัฒนาเว็บไซต์
  
• ทำให้ผู้ชมเว็บเข้าใจองค์ประกอบเว็บไซต์และเข้าถึงข้อมูลที่อยากได้เร็วเพิ่มขึ้น
• Sitemap ทำ ให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์รู้เรื่ององค์ประกอบของเว็บไซต์ แล้วก็เห็นภาพรวมของ Linkในเว็บไซต์ ทำให้ง่ายในการพัฒนา เนื่องจาก Sitemap จะแบ่งส่วนของเว็บไซต์ ไว้อย่างชัดเจน
• ทำให้ Bot ของ Search Engine เข้ามาเก็บข้อมูล (index pages)ได้เร็ว และก็ง่ายขึ้นเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของกระบวนการทำ SEO

Tags : รับทำเว็บ,รับทำเว็บราคาถูก,เว็บรองรับมือถือ

สิ่งจำเป็นในการพัฒนาเว็บไซต์ นอกจากข้อมูล และรูปภาพที่ควรจะคิดถึงแล้ว สีสันบนหน้าเว็บนั้น ก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญและก็เป็นใบหน้าของเว็บโดยรวมเลยทีเดียว เนื่องจากว่าสีนั้นมีผลต่อความรู้สึกรวมทั้งอารมณ์ของผู้ที่เข้ามาดูเว็บไซต์ แม้ว่าข้อมูลบนหน้าเว็บจะดีแค่ไหน ถ้าเกิดเลือกใช้สีไม่ดี ก็จะส่งผลให้หน้าเว็บมองไม่น่าสนใจ รวมทั้งทำให้อ่านยาก ผู้ชมเว็บไซต์จะอยู่ในเว็บไซต์ไม่นานและก็อาจจะไม่กลับมาที่หน้าเว็บอีกเลยก็ได้ ฉะนั้นควรเลือกสีให้เหมาะสมกับเว็บ ว่าจะสื่อออกมาในอารมณ์รวมทั้งความรู้สึกแบบไหน และมีการแสดงผลที่เอื้ออำนวยต่อการอ่านข้อมูลของผู้ชมเว็บไซต์ด้วย

ภาพจาก http://www.vandelaydesign.com
สีแต่ละสีสื่อความหมายอะไร
นอกจากเรื่องเฉดสีจะเป็นส่วนช่วยทำให้เว็บมีความสวยงามและก็น่าดึงดูดได้แล้วนั้น สียังส่งผลต่อความรู้สึก แล้วก็ยังสามารถสื่อถึงอารมณ์ส่งไปยังผู้เข้าชมเว็บได้อีกด้วย โดยสีแต่ละสีจะมีความหมายและสื่ออารมณ์ที่ไม่เหมือนกัน จึงควรเลือกใช้เฉดสีให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ของท่าน ดังเช่น
สีส้ม เป็นสีแห่งความคิดสร้างสรรค์ อบอุ่น สดใส มีสติปัญญา ความทะยานอยาก

 สีแดง เป็นสีที่กระตุ้นระบบประสาทของเราได้รุนแรงที่สุด ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเร้าใจ ตื่นเต้นท้า ตื่นตัว

 สีชมพู ให้ความรู้ความเข้าใจสึกอบอุ่น สุภาพ นุ่มนวล อ่อนหวาน ความรัก

 สีเหลือง ให้ความรู้สึกแจ่มใส ความแจ่มใส ความอบอุ่น ความร่าเริง ความสำราญสว่างใส

 สีเขียว เป็นสีที่เด่นที่สุดบนโลก ให้ความรู้ความเข้าใจสึกร่มเย็น สบายตา บรรเทา ปลอดภัย นำมาซึ่งความคาดหวังและความสมดุล

 สีน้ำเงิน เป็นสีที่สร้างความสุขุม เยือกเย็น หนักแน่นรวมทั้งละเอียดรอบคอบ น่าเชื่อถือ
 สีฟ้า เป็นสีที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกสงบเยือกเย็น เป็นอิสระ สดใส สบายไม่เป็นอันตราย ใจเย็น สะอาด

 สีขาว ให้ความรู้ความเข้าใจสึกบริสุทธิ์ สะอาด ผ่องใส เบาบาง อ่อนโยน
เลือกสีอย่างไรให้เหมาะกับเว็บไซต์
สีแต่ละสีที่เราเลือกมาออกแบบเว็บไซต์นั้นส่งผลต่ออารมณ์ผู้เข้าชมเว็บ และก็สิ่งจำเป็นที่สุดคือความสอดคล้องกับจุดประสงค์หรือจุดหมายของเว็บด้วย เช่น

 
เว็บร้านค้าที่เกี่ยวกับเรื่องของความสะอาด สีที่เลือกใช้บนหน้าเว็บไซต์อยู่ในโทนสีขาวและสีฟ้าเนื่องจากว่าสีขาวสื่อถึงความสะอาด สีฟ้าสื่อถึงน้ำหรือแจ่มใสของเสื้อผ้า

 เว็บไซต์รีสอร์ท ที่พัก สีที่เลือกใช้บนหน้าเว็บไซต์อยู่ในโทนสีเขียวและก็สีน้ำตาล สื่อถึงบรรยากาศที่สดชื่นงาม จากต้นไม้รวมทั้งทิวทัศน์ของธรรมชาติรอบๆ
 เว็บเกี่ยวกับของกิน สีที่เลือกก็จะออกแนวแดง ส้มจะก่อให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์มีความรู้สึกหิวหรือน่ากิน
 เว็บหน่วยงาน ก็บางทีอาจจะวางแบบเว็บ โดยใช้สีเท่ากับ สีหลักขององค์กร หรือสีตามโลโกขององค์กร เพื่อการจดจำ แล้วก็ไปในทำนองเดียวกัน
การเลือกใช้กลุ่มสีที่มีความกลมกลืนและเข้ากันสำหรับการออกแบบเว็บ
  เมื่อเริ่มออกแบบเว็บไซต์ ภายหลังเลือกสีที่จะเป็นเฉดสีหลักของเว็บไซต์แล้ว อาจต้องใช้สีในองค์ประกอบอื่นๆเพิ่มเติม เช่น แถบสีหัวข้อเมนู สีพื้นข้างหลังเว็บไซต์ เป็นต้น โดยมีแนวทางเป็นเลือกใช้สีที่ให้อารมณ์ใกล้เคียงกัน หรือเข้ากันได้ดีกับสีหลัก
 ควรรอบคอบในการควบคุมโทนสีไม่ให้จัดจ้าหรือนานาประการเกินไป เป็นต้นว่า สีประจำบริษัทหมายถึงสีแดงและเขียว เบื้องต้นเลือกใช้สีพื้นหลังเว็บเป็นขาว ตัวอักษรเทาหรือดำ แล้วใช้ส่วนของแถบบาร์รายการอาหารเป็นสีแดงหรือเขียว เป็นต้น
 
ควรใช้สีตัวอักษรให้อ่านง่าย สบายตา
สีของตัวหนังสือ ควรเป็นสีที่ตรงกันข้ามหรือตัดกับสีพื้นข้างหลังของเว็บไซต์กล่าวอีกนัยหนึ่ง แม้เว็บไซต์ของท่านมีสีพื้นหลังเป็นสีอ่อน ควรจะเลือกใช้สีตัวหนังสือเป็นสีเข้ม ถ้านึกไม่ออกสีขาว หรือ สีโทนอ่อน ดูคงจะเหมาะสมแก่วิธีการทำพื้นหลังในส่วนที่เป็นเนื้อหามาก แล้วก็สีดำ เทา หรือสีน้ำเงินเข้ม ก็เหมาะสมแก่การใช้สำหรับเป็นตัวหนังสือที่ใช้สำหรับอ่าน

Tags : พัฒนาเว็บไซต์,เว็บร้านค้า

สิ่งที่ผู้พัฒนาเว็บไซต์จำเป็นต้องจัดเตรียมก่อนการดีไซน์จริง


ขั้นตอนการพัฒนาเว็บไซต์
การทำเว็บไซต์ให้มีข้อมูลและก็รายละเอียดที่ครบสมบูรณ์แล้วก็ครอบคลุมกับความจำเป็น เว็บไซต์มีความงาม อีกทั้งง่ายต่อการดูและปรับเปลี่ยนข้อมูลในภายหลังนั้น จะต้องมีการวางเป้าหมายในการเขียนเว็บไซต์ที่ดี ซึ่งพอสรุปขั้นตอนได้ดังนี้เป็น

1. กำหนดจุดประสงค์ของเว็บ การพัฒนาเว็บไซต์ ควรเริ่มจากการกำหนดจุดหมายให้เห็นภาพกระจ่างแจ้งว่าต้องการเสนอหรือต้องการให้เกิดผลอะไร เมื่อทราบจุดประสงค์และจากนั้นก็จะสามารถกำหนดข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ที่เกี่ยวเนื่องได้ อาทิเช่นลักษณะเค้าหน้าและสีสันของเว็บเพจ


2. กำหนดกรุ๊ปผู้ชมเป้าหมาย เมื่อทราบจุดประสงค์ของการพัฒนาเว็บไซต์แล้ว ขั้นตอนถัดมาจะเป็นการกำหนดกลุ่มผู้ชมเป้าหมายที่จะเข้าชมและก็ใช้บริการเว็บแห่งนี้เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ให้ตอบทำให้ตามที่ต้องการของกลุ่มคนเหล่านี้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเนื้อหา โทนสี กราฟิก และก็เทคโนโลยีที่นำมาส่งเสริมการสร้างเว็บไซต์


3. จัดแจงแหล่งข้อมูล เนื้อหาหรือข้อมูลนับเป็นสาระสำคัญของการสร้างเว็บไซต์ ด้วยเหตุนั้นผู้เขียนเว็บไซต์จึงจึงควรทราบว่าจะต้องนำข้อมูลจากแหล่งใดบ้าง เพื่อข้อมูลบนเว็บสมบูรณ์ที่สุด

เนื้อหาที่ควรจะมีในเว็บไซต์
การศึกษาแบบอย่างจากเว็บทั่วๆไป จะช่วยทำให้เรามองเห็นว่าในเว็บของเราควรจะมีรายละเอียดอะไรบ้างแต่รายละเอียดต่างๆบนเว็บไซต์นั้นไม่มีกฎเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานคงที่ แม้กระนั้นขึ้นกับสิ่งที่จะพรีเซ็นท์และจุดแข็งที่เราอยากให้มี ซึ่งจะทำให้รายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละเว็บไซต์ไม่เหมือนกันออกไป แม้กระนั้นหลักๆสำคัญแล้ว พอเพียงสรุปได้ว่าข้อมูลฐานรากที่จะต้องมีในเว็บไซต์ควรจะมี

1. เนื้อหาสาระเกี่ยวกับบริษัท หน่วยงาน หรือคนจัดทำ (About Us) เป็นข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของเว็บ เพื่อบอกให้ผู้ชมรู้ว่าเราเป็นคนไหนกันแน่ มาจากไหน และก็อยากได้นำเสนออะไรได้แก่ วัตถุประสงค์ของเว็บ ประวัติความเป็นมา สถานที่ที่ตั้งของหน่วยงาน ฯลฯ


2. เนื้อหาของผลิตภัณฑ์หรือบริการ(Product/Service Information) เป็นข้อมูลหลักที่พวกเรานำเสนอในเว็บไซต์ ซึ่งถ้าหากเป็นเว็บทางธุรกิจ ผู้เข้าชมอาจต้องการรู้เนื้อหาของผลิตภัณฑ์หรือบริการในเว็บไซต์ของพวกเรา เพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อสินค้าหรือบริการ แต่ถ้าเป็นเว็บที่ให้ความรู้ความเข้าใจ ส่วนนี้ก็บางทีอาจจะประกอบด้วยบทความ ภาพกราฟิกมัลติมีเดีย และการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นเพื่อได้ข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้


3. ข่าว (News / Press Release) อาจเป็นข่าวสารที่อยากส่งถึงบุคคลทั่วไปหรือสมาชิก เพื่อรับทราบความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับบริษัทหรือเว็บของพวกเรา ยกตัวอย่างเช่นการเปิดตัวสินค้าบริการใหม่ๆโปรโมชั่นผลิตภัณฑ์รอบเดือน หรือกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น


4. คำถามคำตอบ (Frequently Asked Question)ปริศนาคำตอบมีความจำเป็น เนื่องจากว่าผู้เข้าชมนิดหน่อยอาจไม่เข้าใจข้อมูลหรือมีปัญหาที่อยากสอบถามการติดต่อทางอีเมล์หรือหนทางอื่น หากว่าจะทำได้แม้กระนั้นเสียเวลาโดยเหตุนี้พวกเราควรคาดเดาหรือสะสมปริศนาที่เคยตอบไปแล้วใส่ไว้ในเว็บเพจ ซึ่งผู้เข้าชมที่สงสัยจะสามารถเปิดดุได้ทันที นอกเหนือจากนี้ อาจมีกระดานสนทนาสำหรับให้ผู้ดูแลเว็บไซต์รอตอบคำถาม รวมถึงบางทีอาจเปิดให้ผู้เข้าชมด้วยกันก็ได้


5. ข้อมูลในการติดต่อ (Contact Information) เพื่อให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของพวกเราที่เกิดเรื่องที่น่าสงสัย หรืออยากถามไถ่ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อกับเราได้ ควรจะเจาะจงอีเมล์แอดเดรส (E-mail Address) ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ที่ติดต่อได้ไว้ ด้วย รวมทั้งอาจมีแผนที่สำหรับลูกค้าที่จำต้องการติดต่อโดยตรง
ส่วนประกอบของหน้าเว็บเพจ

โดยปกติ หน้าเว็บเพจจะแบ่งได้เป็นส่วนสำคัญๆดังนี้คือ

1. ส่วนหัว (Page Header) อยู่ตอนเหนือสุดของหน้าเว็บเพจ เป็นรอบๆที่สำคัญที่สุด เนื่องจากว่าผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บจะแลเห็นก่อนรอบๆอื่น ส่วนใหญ่นิยมใช้วางโลโก้ ชื่อเว็บไซต์ ป้ายที่ใช้สำหรับโฆษณา ลิงค์สำหรับการติดต่อ หรือลิงค์ที่สำคัญและระบบนำทาง

2. ส่วนเนื้อหา (Page Body) อยู่ตอนกลางหน้า ใช้แสดงเนื้อหาข้างในเว็บเพจซึ่งบางทีอาจประกอบไปด้วยใจความ ภาพกราฟิก ตารางข้อมูล และก็อื่นๆบางโอกาสเมนูหลักหรือเมนูเฉพาะกลุ่ม บางทีอาจอยู่ในส่วนนี้ก็ได้ โดยมักวางไว้ด้านซ้ายมือสุด เนื่องจากว่าผู้เข้าชมจะมองเห็นได้ง่าย


3. ส่วนท้าย (Page Footer) อยู่ด้านล่างสุดของหน้าเว็บเพจจำนวนมากจะนิยมใช้วางระบบนำทางข้างในเว็บแบบที่เป็นลิงค์ข้อความง่ายๆนอกจากนั้นก็อาจจะมีชื่อของผู้ครอบครองเว็บ ข้อความแสดงลิขสิทธิ์ แล้วก็อีเมล์แอดเดรส (E-mail Address) ของผู้ดูแลเว็บ


4. แถบข้าง (Side Bar) ปัจจุบันจะนิยมวางแบบด้านข้างของหน้าเว็บเพจให้น่าสนใจ เพื่อใช้วางป้ายแบนเนอร์ หรือลิงค์เสนอแนะเกี่ยวกับบริการของเว็บ เป็น

Tags : รับทำเว็บราคาถูก,เว็บรองรับมือถือ

หลายท่านอาจชินหูกับคำว่า แผนผังเว็บไซต์ หรือ site map หรือ แผนที่เว็บ ซึ่งๆหน้านี้เป็นส่วนที่สำคัญส่วนหนึ่งส่วนใดของเว็บไซต์พูดง่ายๆถ้านึกถึงหนังสือ หน้านี้ก็คือหน้าสารบาญ หรือดรรชนี ที่แสดงให้เห็นว่าในเว็บไซต์มีเนื้อหาอะไรบ้าง และก็รวมรวมลิงค์ไปยังส่วนต่างๆของหน้าเว็บซึ่งๆหน้านี้ช่วยสร้างปฎิสมาคมที่ดีต่อ Search Engine อีกด้วย
 
การทำเว็บไซต์นั้น ขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญก็คือ การเขียน Site Map อย่างคร่าวๆขึ้นมาก่อน เพื่อเป็นตัวกำหนดขอบเขตการพัฒนาเว็บไซต์ และการเตรียมข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ว่าเราจะใส่ข้อมูลอะไรลงบนหน้าเว็บไซต์บ้าง แล้วก็จะง่ายในการเตรียมข้อมูลต่างๆตาม Site Map ที่พวกเราเขียนเอาไว้
 

 
ผังเว็บไซต์ (Site Map) สำหรับ Search Engine
 
สมัยเก่า site map นั้นจะเป็นหน้าหน้านึงบประมาณนเว็บไซต์ เพื่อรวมลิงค์ของทุกหน้าบนเว็บไซต์ แม้กระนั้นในขณะนี้ ได้มีการทำsitemap เฉพาะของ Search Engine ขึ้นมา เพื่อนำไป submit บนsearch engine ทำให้ search engine ทราบสารบาญบนเว็บของเราทั้งปวง ซึ่งผู้ที่รับพัฒนาเว็บไซต์หรือผู้ออกแบบเว็บไซต์ จำเป็นต้องคำนึงถึงส่วนนี้ด้วย Site Map โดยปกติจะทำออกมาในรูปแบบของ XML Fileซึงมีเครื่องมือฟรีมากมากมาย ที่ออกมาเพื่อสร้าง Site Map ฟรี เมื่อได้ไฟล์ XML แล้ว พวกเราสามารถนำไฟล์ XML นี้ไป Submit ที่ Search Engine ได้เลย ตัวอย่างเช่น Google,Bring,Yahoo
 

ทำไมต้องทำ site map ?
 

• เป็นการเตรียมตัวเพื่อคิดแผนให้ผู้รับทำเว็บไซต์พัฒนาเว็บไซต์
  
• ทำให้ผู้ชมเว็บรู้เรื่องโครงสร้างเว็บไซต์รวมทั้งเข้าถึงข้อมูลที่อยากได้รวดเร็วทันใจเพิ่มขึ้น
• Sitemap ทำ ให้ผู้ออกแบบเว็บไซต์เข้าใจองค์ประกอบของเว็บ รวมทั้งเห็นภาพรวมของ Linkในเว็บไซต์ ทำให้ง่ายในการพัฒนา เนื่องจากว่า Sitemap จะแบ่งส่วนของเว็บ ไว้อย่างชัดเจน
• ทำให้ Bot ของ Search Engine เข้ามาเก็บข้อมูล (index pages)ได้รวดเร็วทันใจ และง่ายขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของการทำ SEO

Tags : เว็บรองรับมือถือ