Civic Fan CLUB In ThaiLand รวมคนรัก Civic Fan Club

Civic Fan Club Market Place: ห้องซื้อขาย-แลกเปลี่ยน สรรพสินค้า => Other Products Marketplace: ห้องซื้อขายสินค้าทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: asianoned ที่ มกราคม 28, 2019, 02:19:34 AM

หัวข้อ: "นาฬิกา" นวัตกรรมคู่พื้นแผ่นดิน
เริ่มหัวข้อโดย: asianoned ที่ มกราคม 28, 2019, 02:19:34 AM
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างของสิ่งประดิษฐที่ทำคุณค่าให้สามัญชนอย่างมากมาย นาฬิกา คงเป็น1อย่างที่มีคุณค่ามีในลิสต์ดังกล่าวข้างต้น
ไม่ปรากฏยุคสมัยที่ชัดเจนว่า การสร้างขึ้นนาฬิกาเรือนแรกเกิดขึ้นเมื่อใด ทว่ามีของกลางว่ากลุ่มมนุษย์อียิปต์โบร่ำโบราณ ใช้เครื่องใช้ไม้สอยบ่งบอกเวลาในรูปของแท่งเขาหินสูงสี่เหลี่ยม ซึ่งจะทอดเงาลงบนทรายแสดงเวลาที่ผ่านไปในช่วงเดียวกันนั้นก็มีการใช้นาฬิกาแดดด้วย ซึ่งประกอบจากแผ่นโลหะรูปร่างกลมมีส่วนนูนลาดเบี่ยงขึ้นมาจากตรงกลาง เมื่อทินกรเคลื่อนตัวไป เงาที่ตกลงบนแผงหน้าปัดจะเป็นตัวแสดงเวลา จนทุกวันนี้ก็ยังมีการใช้นาฬิกาแดดอยู่
จนในห้วงปี 1500 ก่อนคริสตกาล กลุ่มคนอียิปต์ได้สร้างนาฬิกาแดดที่เก็บไว้กับตัวได้ติดตัวขึ้นมา ซึ่งถือว่าเป็นบรรพบุรุษของนาฬิกาด้านในปัจจุบัน
นาฬิกาเรือนแรกเริ่มที่มี ตัวเกาะฟันเฟือง (escapements) ปรากฏในปี ค.ศ. 1285 โดยเป็นหอนาฬิกาที่มีเข็มชั่วโมงแค่อันเดียว สถาปนาอยู่ที่เมืองมิลาน เป็นระบบเคลื่อนที่ด้วยสม่ำเสมอบ่อยๆและขับดันฟันเฟืองให้เลื่อนไปด้านหน้าด้วยอัตราที่เท่ากัน แต่ความเที่ยงของเวลาที่ย้ำเตือนยังไม่ตลอดมา
                ค.ศ.1364 Giovanni de Dondi เป็นสามัญชนแรกที่จัดทำนาฬิกาแบบมีลูกศรย้ำเตือนตำแหน่งของ จันทรา  พระอาทิตย์และดาวนพเคราะห์ ทั้ง  5  ดวงด้วย  Peter Henlein ผู้ประดิษฐทำกุญแจเชื้อชาติเยอรมันเป็นผู้ตั้งนาฬิกาตามสมัยเรือนแรกเริ่มของโลกในตอนต้นปี  ค.ศ.1500  แต่นาฬิกายังคงมีขนาดใหญ่โตและมีน้ำหนักแยะไม่ต่างจากเดิมทีเท่าใดนัก
ค.ศ.1500  Peter Henlein ได้ประกอบนาฬิกาที่มีขนาดย่อมและความหนักเบาเบา แค่  1  กิโลกรัมเท่านั้น ในปี ค.ศ.1641 กาลิเลโอได้ตรวจการกระดิกของตะเกียง เขาค้นเจอว่าการแกว่งไปแกว่งมาบริบูรณ์รอบของตะเกียงแต่ละเพราใช้เวลาเท่าเท่ากัน  ไม่ว่าจะแกว่งไปแกว่งมามากหรือน้อยเพียงใด  กาลิเลโอจึงมอบหมายให้โอรส ชื่อ Vincenzio Galilei จัดทำนาฬิกาโดยใช้การแกว่งของลูกตุ้มเป็นเครื่องมือจำกัดเวลา  ขนานนามว่า  นาฬิกาเพนดูลัม (Pendulum)  ซึ่งสามารถเดินได้อย่างตรงเวลาพอควร
ค.ศ.1657 Christian Huygens นักวิทยาศาสตร์ชาวเนเธอร์แลนด์รังสรรค์นาฬิกาโดยใช้วิถีของ Pendulum สั่งการการทำงานโดยมีองค์ประกอบคือ  ล้อ  ฟันเฟืองและลวดสปริง นาฬิกาแบบนี้อาจตรวจวัดเวลาได้ตามเวลายิ่งกว่านาฬิกาเพนดูลัม
ค.ศ.1929 Warren Morrison ได้สร้างสรรค์นาฬิกาควอตซ์ขึ้นเป็นรูปพรรณสัณฐานใส่ข้อมือ  นาฬิกาจำพวกนี้เที่ยงเหลือแหล่ และในปี  ค.ศ.1980  เป็นสมัยที่เริ่มเอาความทันสมัยคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้  มีการสร้างสรรค์นาฬิกาโดยใช้ชิป (chip)  เป็นตัวประกอบเพิ่มเติมในกลไกของนาฬิกา  ซึ่งเว้นแต่จะแจ้งเวลาแล้วยังอาจจะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นและสามารถใช้เป็นเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย  แล้วเทคโนโลยีในด้านการประดิษฐ์นาฬิกาได้ก้าวหน้าเรื่อยมา จนทุกวันนี้เรามีนาฬิกาสมองกลใช้กันแล้ว
สำหรับประเทศไทย มีการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาใช้เองตราบใดร้อยปีมาแล้ว ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทรงมีรับสั่งกับข้าราชสำนักผู้ใกล้ชิด มีความว่า " สยามจะอยู่รอด คุ้มครองความเป็นอิสระไม่เป็นไพร่คนตะวันตก จะต้องทำให้คนไทยไว้ใจ และต่างด้าวเชื่อว่าคนไทยนี้แจ๋ว " จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้ากรมอุทกศาสตร์ท่านแรกของประเทศไทย ชื่อ Captain Loftus ทำ นาฬิกาแดด ไว้ให้เป็นเครื่องชี้เฉพาะหมายบอกให้ทราบเวลา แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งไว้ที่ลานน้ำหน้าพระอุโบสถวัดนิเวศน์ธรรมประวัติ บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนทุกวันนี้
นาฬิกาที่ใช้อยู่ในสมัยนี้แยกออกเป็น 2 จำพวกเช่นนี้



- Manual Winding Watch คือนาฬิกาไขลาน (หมุนลานด้วยมือ) ซึ่งพึ่งการไขลานเพื่อดึงให้สปริงลานดึงขึ้น และตราบใดสปริงลานตัวนี้สู่สภาพเดิม เปรียบเสมือนการถ่ายถ่ายเทพลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนตัวฟันเฟืองต่างๆ ของกลไกและทำให้ตัวเครื่องปฏิบัติการ
     - Automatic Winding Watch (Self-winding watch) คือนาฬิกาอัตโนมัติ หรือนาฬิกาไขลานอัตโนมัติ หรือขนานนามง่ายๆ ว่าไขลานและปฏิบัติการได้ด้วยตัวเอง นาฬิกาในเหล่านี้จะมีตัวโรเตอร์ (Rotor) คอยสลัดขึ้นลานให้ ครั้นเมื่อที่เราสวมนาฬิกาไว้บนข้อมือตลอด หรือ อยู่ในเครื่องหมุนหรือตู้ไขลานนาฬิกา (Watch winder) ซึ่งแรงเหวี่ยงจากข้อมือและตู้ไขลานจะช่วยให้โรเตอร์ปฏิบัติการไม่เว้นมีผลให้เกิดการขึ้นลานตลอด นาฬิกาจึงสามารถเดินได้ทุกขณะ และข้อควรจำของนาฬิกาหมวดถ้าเคาะนี้ตัวเรือนค่อยๆๆ ก็จะรู้เสียงโรเตอร์สั่นและหมุนดังเป็นเสียงกิ๊กนุ่มนวลๆ