วันนี้ผมเอาใจคนมีครอบครัวหน่อยดีมากกว่า คนไม่มีคู่รักอย่าอิจฉาน้าาาาาา คิคิ
 
สำหรับผู้ที่มี "ลูกน้อย" แว้ๆผมอยากถามคำถามว่า หากเราเลือกได้ว่าต้องการให้ของขวัญลูกพวกเราสักชิ้น ระหว่างให้เงินลูกรัก 5,000,000 บาท กับ สอนแนวทางหาเงิน 100,000 บาท
 
หากเป็นผมจะเลือกสอนแนวทางหารายได้ 100,000 บาทนะ เนื่องจาก สมัคร บัตร เครดิต UOB ถ้าเอาเงินให้ลูกไป ผมว่าเอาไปผลาญหมดแน่นอนฮ่าๆๆ
 
ผมกำลังจะกล่าวว่าสอนวิธีหาเงิน ก็คือให้ การศึกษาลูกเนี่ยล่ะ สำคัญฝุดๆด้วยเหตุดังกล่าว "การวางแผนการศึกษาลูก" ก็เลยมีความสำคัญมากมายทีเดียว
 
สำหรับมีลูกแล้ว ทราบมั้ยว่ากว่าเราจะส่งลูกพวกเราจนสำเร็จการศึกษา จำต้องใช้เงินเท่าไหร่ ?
และก็ที่สำคัญอาจจะอยากให้ลูกเราเรียนเยี่ยมที่สุด เรียนเอกชนบ้างล่ะ นานาประเทศ 8 ภาษาบ้างล่ะ สักครู่ลูกฟุตฟิตฟอร์ไฟไม่ได้ ห่วยเลยนะนั้น !
 
แม้กระนั้นคงจะไม่ใช่รู้สึกว่าเดี๋ยวถึงเวลานี้ เราก็คงมีเงินส่งลูกเรียนเองล่ะ เนื่องจากว่าถ้าถึงในตอนนั้นมันไม่มีล่ะ จะทำยังไง ? จะให้ลูกพวกเรามิได้เรียน ผมว่าอาจไม่ใช่อะนะ อันนี้แหละที่น่าห่วง
 
ผมว่าคนไม่ใช่น้อยอาจยังไม่เคยทราบ สมัคร บัตร เครดิต แน่ๆเลย เดี๋ยวนี้เงินเฟ้อหัวข้อการเรียนรู้อยู่ 6-7% ต่อปี ซึ่งมากมายเป็นลำดับแรกๆเลยล่ะ แปลว่า ค่าเทอมจะสูงมากขึ้นเรื่อยในอัตราที่เร็วมาก
 
เหตุผลแค่นี้น่าจะเพียงพอที่ทำให้เราหันมา วางแผนการเรียนให้กับลูกพวกเราแล้วแหละนะ
 
หรือผู้ใดกันต้องการทดลองกำหนดแผนการเล่าเรียนลูก ผมก็มีโปรแกรมมาให้คิดแผนกันง่ายๆตรงนี้ มาทำเพื่ออนาคตที่ดีที่สุดของลูกเรากันเถิด ! บัตร เครดิต UOB

Tags : สมัคร บัตร เครดิต UOB,สมัคร บัตร เครดิต,บัตร เครดิต UOB

อย่างที่ผมเคยเสนอแนะไปบ่อยๆว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นการลงทุนที่น่าสนใจ
 
ด้วยเหตุว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มักจะส่งผลทดแทนที่ค่อนข้างจะแน่ๆที่มาจาก "ค่าเช่า" แล้วแถมจำนวนมากเนี่ยนะ ผู้เช่าชอบต่ออายุสัญญาเช่าอีก เราเกือบจะมั่นอกมั่นใจ "รายได้" ของเราได้ดิบได้ดีระดับหนึ่งเลยล่ะ
 
ด้วยเหตุดังกล่าว หากถามคำถามว่าการลงทุนอะไร ... ที่สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนได้ดิบได้ดีที่สุด ผมก็ยังยกให้อสังหาริมทรัพย์อยู่นะแจ้ะ
 
แถมค่าเช่า พวกเราก็คงจะสามารถปรับขึ้นเรื่อยตามเงินเฟ้อได้อีก ! ปัญหาที่คนไม่ใช่น้อย สินเชื่อ OD พบ กล่าวได้ว่า ... เป็นปัญหาคลาสสิคของการลงทุนมากมายๆก็คือ ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นี่แหละ แต่ไม่เคยทราบจะทำอย่างไรดี ไม่มีความรู้เลย แย่จัง
 
หรือไม่ก็เงินในกระเป๋าไม่ถึง เพราะแค่คอนโดห้องนึงก็ไม่ใช่บาทสองบาท
 
แล้วถ้าเกิดยิ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์คุณภาพดีหน่อย ราคาก็ไกลเกินกว่ารายย่อยจะเข้าถึงด้วยซ้่ำ โธ้ว
 
แค่กล่าวนี่ก็ท้อจะห่วยแตกอยู่แล้วววววววว ผมเสนอแนะว่าหากสำหรับรายย่อย อยากลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่คุณภาพดี ให้ลองไปดูที่ "REIT" หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ชื่อบางทีก็อาจจะไม่คุ้นแต่ว่าก็ไม่ได้แตกต่างจากกองทุน สินเชื่อ มากแค่ไหน ก็เป็นหนทางที่ดีงามพระรามแปดเลยล่ะ
 
เพราะว่านอกเหนือจากที่พวกเราจะสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่ราคามากยิ่งกว่า 500 ล้านบาทได้แล้ว "สภาพคล่อง" ก็ยังดีมากกว่าที่เราไปลงทุนโดยตรงในอสังหาริมทรัพย์เอง
 
อีกหัวข้อนึงที่น่าดึงดูด ก็คือ การลงทุนใน REIT จะมีมืออาชีพคอยดูแลหัวข้อการปล่อยเช่าให้พวกเรา เราไม่ต้องปวดหัว ไล่เก็บค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าให้เหนื่อยใจ
 
แล้วอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงๆโดยเฉพาะกลุ่มที่เป็น "ตึกสถานที่ทำงาน" ในทำเลดีๆชอบมีอัตราการเช่าในระดับสูง ฉะนั้นการลงทุนในกลุ่มนี้ ค่อนข้างน่าดึงดูดกว่ากรุ๊ปอื่นๆอ้าว ! แล้วในขณะนี้มีกองไหนที่น่าสนใจบ้าง ? มาดูอย่างกองบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ปัจจุบันที่กำลังจะเปิดก็ละกัน กองบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ชื่อ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แล้วก็สิทธิ์การเช่าไทยแลนด์ ไพร์ม พร็อพเพอร์ตี้ (TPRIME)
 
กองนี้เค้าจะไปลงทุนในตึกสถานที่ทำงาน 2 ตึกเป็น

• กรรมสิทธิ์ตึกเอ็กเชน ทาวเวอร์ ตรงสี่แยกต้นโศก, ติด BTS โศก รวมทั้ง MRT สุขุมวิท ผ่านการถือหุ้นอย่างต่ำปริมาณร้อยละ 99.99 ในบริษัทเอ็กศาสนาเชน ทาวเวอร์ จำกัด
• สิทธิ์การเช่าที่ดินแล้วก็ อาคารเมอร์คิวรี่ ทาวเวอร์ ติด BTS ใกล้ลม

 
ซึ่ง 2 ตึกนี้ เรื่องทำเล โลเคชั่นนี่อาจจะไม่ต้องเอ่ยถึง เพราะติด BTS  2 อาคารเลย แล้วก็ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางศูนย์กลางธุรกิจของจ.กรุงเทพฯ
 
แล้วจากที่ผมไปส่องๆมา ก็มีผู้เช่าเยอะอยู่ ! นั่นมีความหมายว่าจะสามารถเก็บ "ค่าใช้จ่ายในการเช่า" ได้ครบถ้วน แล้วได้โอกาสที่ปรับเพิ่มค่าเช่าในอนาคตก็น่าจะทำได้ด้วย ถ้าดูลึกลงไปถึงระดับผู้เช่าในตึก ก็มีธุรกิจหลายชนิด มีอีกทั้งบริษัทไทยและก็ สินเชื่อส่วนบุคคล บริษัทข้ามชาติ
 
แปลว่าโอกาสที่ผู้เช่าจะยกเลิกพร้อม แล้วทำให้ค่าเช่าน้อยลงมากมายๆมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย ที่สำคัญก็อย่าลืมไปศึกษาเสริมเติมกันด้วยนะ ฮปรี่ๆก่อนลงทุนทดลองไปเดินดูที่ตึกสักนิดสักหน่อยก็จะดีมาก จะช่วยให้พวกเราเข้าใจและก็มั่นใจสำหรับเพื่อการลงทุนเพิ่มมากขึ้นอีกเย้อออออ ทดลองอ่านการ์ตูนสนุก เข้าใจง่ายๆได้ข้างล่างนี้เล้ยยยย ...

Tags : สินเชื่อ OD

ผมว่าปัญหาหนี้สำคัญๆของคนไทยส่วนใหญ่ เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการใช้ "บัตรเครดิต" ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยหลงระเริงกับการมีบัตรเครดิต รูดปรี๊ดๆจนกระทั่งติดหนี้ติดสินมากมายก่ายกอง ในที่สุดรายได้ที่มีไม่เพียงพอจ่ายกับยอดหนี้สินบัตรเครดิต ทำให้ต้องจ่ายอย่างต่ำไปเรื่อยๆดอกเบี้ยบัตรเครดิตก็ยิ่งทบทวีคูณเข้าไปอีก จากหนี้ก้อนเล็กๆรวมกับดอกเบี้ยก็กลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้น ต่อไปนี้ไม่เคยรู้จะหาทางออกอย่างไร บางบุคคลก็ปิ๊งไอเดียว่าจะเอาบัตรเครดิตอีกใบนึงโปะบัตรที่พวกเราเป็นหนี้อยู่
เคยมีคนมาถามผมว่าวิธีนี้ทำได้มั้ย ? ถ้าหากได้แก่การใช้บัตรเครดิต A รูดเพื่อจ่ายและชำระหนี้บัตรเครดิต B อาทิเช่นพวกเราเอาบัตรเครดิต A ที่ครบรอบชำระเงินวันที่ 15 ส่วนบัตรเครดิต B ครบรอบวันที่ 30 พอเพียงถึงรอบจ่ายบัตร B วันที่ 30 ผมเอาบัตร A มารูดจ่าย พอเพียงมาถึงรอบจ่ายบัตร A วันที่ 15 ผมก็เอาบัตร B มาจ่ายวนไปเรื่อยแบบงี้ก็ราวกับได้เงินมาใช้มากขึ้นฟรีๆธนาคารก็ไม่มีวันได้เงินคืนกันเลย ต่อไปนี้ทุกคนก็ใช้จ่ายกันสนุก ไม่ต้องเอาเงินมาจ่าย ดีจริงๆ...
ผมตอบได้เลยว่าไม่มีบริษัทบัตรเครดิตที่ไหนยอมแน่นอน การจ่ายชำระหนี้บัตรเครดิตจะรับเฉพาะ "เงินสด" เท่านั้น แม้กระนั้นถ้าถามผมว่าจะกดเงินสดจากบัตรเครดิตใบนึงไปโปะหนี้อีกใบนึงทำเป็นมั้ย ? ผมจะตอบว่า บัตรเครดิต ทำเป็น แต่ว่าเป็นแนวทางที่เยี่ยมมั้ยก็อีกประเด็นนึง
ผู้กระทำดเงินสดจากบัตรเครดิต คือการยืมเงินหรือการเป็นหนี้อย่างหนึ่ง ซึ่งสำหรับในการที่พวกเรากดเงินออกมาจะมีอย่างน้อยสำหรับการกด 3,000 บาทขึ้นไป แล้วนอกเหนือจากการที่จะเสียดอกเบี้ยรายวันที่สูงสูงถึง 20% ต่อปีแล้ว ยังจะต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก 3% พร้อมทั้ง VAT 7% ไปอีกด้วย
สมมุติ เรากดเงินออกมา 10,000 บาท วันที่ 1 เดือนสิงหาคม
เราจะเสียค่าธรรมเนียมทันที 3% คือ 300 บาท พร้อม VAT (7% x 300) อีก 21 บาท รวมเป็น 321 บาท
ส่วนดอกเบี้ย 20% จะเริ่มนับจากวันที่พวกเรากดเงินถึงวันที่พวกเราจ่ายเงินคืน หากใช้คืน 1 กันยายน ดอกเบี้ยจะคิด 10,000 x 20% x 31/365 = 169.86 บาท
แปลว่าเราจะต้องคืนเงินรวมทั้งหมด 10,490.86 บาท คิดเป็นดอกที่เราเสียรวมๆก็มากกว่า 4.9% ต่อเดือน !! ถ้าวัดได้เปรียบปี 58.8% ไม่เบาเลยใช่มั้ยล่ะ ?
การกดเงินสดจากบัตรเครดิตอีกใบออกมาเพื่อนำมาใช้หนี้บัตรอีกใบ เป็นสิ่งที่ผมบอกได้เลยว่าไม่ควรกระทำอย่างที่สุด !!! เพราะเหตุว่าพอๆกับเป็นการก่อหนี้สินที่เพิ่มขึ้น สมัครบัตรเครดิต เนื่องด้วยดอกเบี้ยของการกดเงินสดจากบัตรเครดิตจะสูงมากและดอกจะคำนวณแบบรายวันจวบจนกระทั่งจะสามารถนำเงินมาชำระคืนพร้อมดอก
ทางออกสำหรับหนี้สินบัตรเครดิตที่ดีหมายถึงการขอประนอมหนี้กับทางสถาบันการเงิน หรือแม้กระทั้งการยืมเงินสดจากคนสนิทเพื่อมาชำระน่าจะเป็นทางออกที่ดี เนื่องจากว่าไม่มีดอกแต่ว่าเป็นข้อตกลงดวงใจเพียงแค่นั้น
แต่ว่าถ้าหันไปทางไหนก็ไม่มีวันออก ทดลองมองดูเงินทองที่ตัวเองมี ดูแล้วว่าน่าจะราคาแพงให้นำไปขาย อย่าเสียดาย เนื่องจากการเป็นหนี้ที่เพิ่มมากขึ้นจะราคาแพงที่จำต้องจ่ายมากกว่าสินทรัพย์ที่ขายไป จำต้องตัดใจและหลุดพ้นจากการติดหนี้ติดสินก่อน จากนั้นค่อยเริ่มต้นใหม่แล้วหามาใหม่ได้ก็ยังไม่สาย
ข้อสรุปทางออกของหนี้สินบัตรเครดิตคงจะไม่มีสูตรคงที่ที่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากภาระหนี้สินของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน สมัครบัตรเครดิตออนไลน์ บางบุคคลสามารถจัดการหนี้สินได้โดยทันที บางบุคคลจะต้องใช้ระยะเวลาที่นานกว่า แต่ที่ต้องการจะยํ้าเตือนไว้เสมอเป็นเมื่อเป็นหนี้เป็นสิน อย่าหนี แม้กระนั้นให้เดินเข้าสู่กรรมวิธีปลดหนี้สิน
โดยเริ่มต้นจากการหยุดใช้บัตรนั้นๆและก็ติดต่อสถาบันการเงินเพื่อขอผ่อนผันและก็กำหนดระยะเวลาที่แจ่มกระจ่างเพื่อใช้หนี้เป็นงวดๆอย่าท้อเนื่องจากหนี้บัตรเครดิตก็ไม่ท้อที่จะเพิ่มดอกเบี้ยให้กับเรา เราเลยควรต้องชนะหนี้นั้นให้ได้ ผมเป็นกำลังดวงใจให้กับเป็นหนี้เป็นสินทุกๆคนน้า
 

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.thai4loaning.com/credit-card-online-registration

Tags : สมัครบัตรเครดิต ออนไลน์, บัตรเครดิต, สมัครบัตรเครดิต