31
ห้องรับแขก Civic Fan Club / Honda civic 2012 asia version
« เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 10:06:31 AM »
ดูแล้วสวยมากเลย
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
32
ข่าวสาร Honda Civic ทั่วโลก / ฟอร์มตก! Honda Civic รุ่นปี 2012 โฉมใหม่ ได้คะแนนรองบ๊วยจาก Consumer Reports
« เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 10:04:18 AM »
โดยปกติแล้ว ในทางทฤษฎีรถรุ่นใหม่ย่อมมีคุณภาพและสมรรถนะ รวมถึงคุณสมบัติต่างๆดีกว่ารุ่นก่อนๆ ยกเว้นในเรื่องรูปลักษณ์ที่อาจจะขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคนเป็นหลักและวัดได้ยาก แต่ดูเหมือนว่ารถที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดรุ่นหนึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาอย่าง All-New Honda Civic โมเดลเชนจ์โฉมปี 2012 จะเป็นกรณียกเว้น เพราะล่าสุด Civic LX รุ่นปี 2012 ซึ่งเป็นรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและเป็นรุ่นใหญ่กว่ารุ่น Base (Civic DX) ขึ้นมาอีก 1 รุ่น ทำคะแนนได้ไม่ดีเลยจากรายงานผลการทดสอบของนิตยสารชื่อดัง Consumer Reports ที่จัดให้ Civic รุ่นนี้อยู่รองบ๊วย เหนือเพียง Volkswagen Jetta เท่านั้น
แค่นั้นยังไม่พอ ความเจ็บปวดที่สุดก็คือ การเสียตำแหน่งผู้นำในรถระดับเดียวกันที่ครองอันดับ 1 มาหลายปี และติดโผ Top 5 ใน 10 ปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งการถูกติดป้ายว่า Recommended ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะทำได้ด้วยซ้ำ เรียกว่า คะแนนต่ำเกินไปเกินกว่าจะ Recommend ได้! ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Hyundai Elantra กับดีไซน์ใหม่ทำอันดับได้ดีขึ้น รวมถึง Ford Focus โฉมใหม่และน้องใหม่อย่าง Chevrolet Cruze ก็อยู่ในอันดับต้นๆเช่นกัน จากการเปิดเผยของ David Champion ผู้อำนวยการอาวุโส Consumer Reports Auto Test Center
Civic LX ทำคะแนนได้เพียง 61 จาก 78 ที่ Civic โฉมก่อนเคยทำได้ในปีที่ผ่านมา ซึ่งทีมผู้ขับทดสอบจาก Consumer Reports พบว่า Honda Civic โฉมใหม่ มีคุณภาพของห้องผู้โดยสารภายในที่ด้อยลง มีเสียงรบกวนจากภายนอกสูงขึ้น ความคล่องตัวในการขับขี่ลดลง ระบบเบรคไม่ดีเหมือนก่อน เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแย่ในทุกเรื่องเพราะ Civic รุนนี้มีพื้นที่ผู้โดยสารด้านหลังที่กว้างขวางมากขึ้นและประหยัดน้ำมันมากที่สุดเป็นที่ 2 ในรถระดับเดียวกัน(ที่นำมาทดสอบ)
Honda Civic LX ที่ใช้ถูกทดสอบมีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิตร 140 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยที่น่าประทับใจคือ 30 ไมล์/แกลลอน การขับเคลื่อนผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด สามารถทำได้อย่างนุ่มนวล ซึ่งเป็นข้อดีอีกข้อหนึ่งของรถรุ่นนี้
อย่างไรก็ตาม Honda ก็ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ในทันที โดยให้ความเห็นว่า โดยรวมแล้ว บริษัทฯไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับผลการทดสอบของ Consumer Reports เนื่องจากรถคอมแพคท์ซีดานรุ่นนี้มีจุดเด่นในหลายๆเรื่องมากกว่ารุ่นก่อน เรียกได้ว่าเกือบจะทุกอย่างก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประหยัดน้ำมัน ระบบความปลอดภัย และคุณภาพของรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องประสิทธิภาพและการทำงานที่่นุ่มนวลของเครื่องยนต์ ในเรื่องของความปลอดภัยก็ถือว่าเป็นอันดับแรกโดยการจัดอันดับของ IIHS สหรัฐอเมริกาให้เป็น Top Safety Pick ส่วนเรื่องการประหยัดน้ำมันนั้นยิ่งโดดเด่นด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 30 ไมล์/แกลลอน โดยสามารถทำได้ที่ 47 ไมล์/แกลลอน สำหรับการขับนอกเมือง ฉะนั้นบริษัทฯจึงมันใจว่า Honda Civic โฉมใหม่คือ รถคอมแพคท์ซ๊ดานที่ดีที่สุดที่บริษัทฯเคยผลิตออกมารุ่นหนึ่ง!
สำหรับคนไทยแล้วก็ต้องรอพิสูจน์กันต่อไป..
http://www.autospinn.com/2011/08/%E0%B8%97%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A-honda-civic-2012-%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7-%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%84/
33
ห้องรับแขก Civic Fan Club / รูป Honda City ที่เค้าว่าเหมือน civic Hf หน่อยสิ
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 03:41:39 PM »
34
ห้องรับแขก Civic Fan Club / Honda Civic เจน 9 เผยโฉมแล้ว
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 03:18:56 PM »
2012 Honda Civic
หลากหลายทางเลือกของความประหยัด กับ เจนเนอเรชั่นที่ 9
ฮอนด้า เผยโฉมภาพออฟฟิเชียลของ Honda Civic ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่จะทำตลาดในอเมริกาเหนือ พร้อมให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับทางเลือกของรุ่นที่จะใช้จำหน่ายเล็กน้อย โดยเค้าโครงเส้นสายภายนอก เป็นอย่างที่ ฮอนด้า เคยประกาศไว้ คือแทบจะไม่ต่างจากตัวต้นแบบ Honda Civic Concept ที่โชว์ตัวไปในงาน ดีทรอยต์ ออโต โชว์ 2011 ที่ผ่านมา เพียงแต่ลบความคมของเส้น สัน ต่างๆ รอบตัวออกไปเล็กน้อย
จากข้อมูล ณ เวลานี้ ฮอนด้า ค่อนข้างชูจุดเด่นในเรื่องของความประหยัด มากกว่าจะโชว์สมรรถนะความแรงของรถ ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับยุคสมัย แต่ ซีวิค ก็ยังคงเป็น ซีวิค รูปทรงโดยรวมมีความสปอร์ตอยู่ในตัวเสมอ ภายในยังคงดีไซน์แดชบอร์ดแบบ 2 ชั้น ลดความอ่อนช้อยลง ดูบึกบึนทั้งในส่วนของมาตรวัด และพวงมาลัย แต่ได้รับการปรับปรุงให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้นด้วยเส้นเฉียง ตำแหน่งการจัดวางอุปกรณ์ดูคล้ายเจนเนอเรชั่นที่ 8
Honda Civic ใหม่ จะมีทั้งหมด 3 ทางเลือก ทางเลือกแรก คือ Civic รุ่นปกติ แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย Civic HF (high fuel economy), Civic Sedan, Civic Coupe และ Civic GX Natural Gas หรือ CNG จากโรงงาน ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.8 ลิตร i-VTEC 140 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมเทคโนโลยี Eco Assist (Ecological Drive Assist System) ช่วยให้ผู้ขับประเมินลักษณะการขับ เพื่อช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยรุ่น HF จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย (ไฮเวย์ มาตรฐาน EPA) ประมาณ 17 กม./ลิตร ส่วนรุ่นซีดาน และคูเป้ ประมาณ 16 กม./ลิตร
ทางเลือกที่ 2 น่าสนใจขึ้นอีกระดับ ด้วย Civic Hybrid เทคโนโลยีไม่ต้องสงสัยอะไรมากมาย ได้รับการพิสูจน์มาแล้วจาก Honda CR-Z เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร i-VTEC เก็บพลังด้วยชุด แบตเตอรี่แพค ลิเธียม-ไอออน ทั้งระบบผลิตกำลังรวมได้ 110 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมเทคโนโลยี Eco Assist อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยประมาณ 19.5 กม./ลิตร
ปิดท้ายด้วยทางเลือกที่ 3 กับตัวแรงสุด Honda Civic Si มีทั้งตัวถังซีดาน และคูเป้ มากับเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้น 4 สูบ 2.4 ลิตร 200 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะตัวใหม่ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยแบบช่างมัน ไม่ซีเรียส ประมาณ 13.4 กม./ลิตร แต่ก็ถือว่าดีกว่ารุ่นปัจจุบันราว 2 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน EPA)
ที่มา : motortrivia.com
หลากหลายทางเลือกของความประหยัด กับ เจนเนอเรชั่นที่ 9
ฮอนด้า เผยโฉมภาพออฟฟิเชียลของ Honda Civic ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่จะทำตลาดในอเมริกาเหนือ พร้อมให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับทางเลือกของรุ่นที่จะใช้จำหน่ายเล็กน้อย โดยเค้าโครงเส้นสายภายนอก เป็นอย่างที่ ฮอนด้า เคยประกาศไว้ คือแทบจะไม่ต่างจากตัวต้นแบบ Honda Civic Concept ที่โชว์ตัวไปในงาน ดีทรอยต์ ออโต โชว์ 2011 ที่ผ่านมา เพียงแต่ลบความคมของเส้น สัน ต่างๆ รอบตัวออกไปเล็กน้อย
จากข้อมูล ณ เวลานี้ ฮอนด้า ค่อนข้างชูจุดเด่นในเรื่องของความประหยัด มากกว่าจะโชว์สมรรถนะความแรงของรถ ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับยุคสมัย แต่ ซีวิค ก็ยังคงเป็น ซีวิค รูปทรงโดยรวมมีความสปอร์ตอยู่ในตัวเสมอ ภายในยังคงดีไซน์แดชบอร์ดแบบ 2 ชั้น ลดความอ่อนช้อยลง ดูบึกบึนทั้งในส่วนของมาตรวัด และพวงมาลัย แต่ได้รับการปรับปรุงให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้นด้วยเส้นเฉียง ตำแหน่งการจัดวางอุปกรณ์ดูคล้ายเจนเนอเรชั่นที่ 8
Honda Civic ใหม่ จะมีทั้งหมด 3 ทางเลือก ทางเลือกแรก คือ Civic รุ่นปกติ แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย Civic HF (high fuel economy), Civic Sedan, Civic Coupe และ Civic GX Natural Gas หรือ CNG จากโรงงาน ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.8 ลิตร i-VTEC 140 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมเทคโนโลยี Eco Assist (Ecological Drive Assist System) ช่วยให้ผู้ขับประเมินลักษณะการขับ เพื่อช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยรุ่น HF จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย (ไฮเวย์ มาตรฐาน EPA) ประมาณ 17 กม./ลิตร ส่วนรุ่นซีดาน และคูเป้ ประมาณ 16 กม./ลิตร
ทางเลือกที่ 2 น่าสนใจขึ้นอีกระดับ ด้วย Civic Hybrid เทคโนโลยีไม่ต้องสงสัยอะไรมากมาย ได้รับการพิสูจน์มาแล้วจาก Honda CR-Z เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร i-VTEC เก็บพลังด้วยชุด แบตเตอรี่แพค ลิเธียม-ไอออน ทั้งระบบผลิตกำลังรวมได้ 110 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมเทคโนโลยี Eco Assist อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยประมาณ 19.5 กม./ลิตร
ปิดท้ายด้วยทางเลือกที่ 3 กับตัวแรงสุด Honda Civic Si มีทั้งตัวถังซีดาน และคูเป้ มากับเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้น 4 สูบ 2.4 ลิตร 200 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะตัวใหม่ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยแบบช่างมัน ไม่ซีเรียส ประมาณ 13.4 กม./ลิตร แต่ก็ถือว่าดีกว่ารุ่นปัจจุบันราว 2 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน EPA)
ที่มา : motortrivia.com
35
ห้องรับแขก Civic Fan Club / Re: civic 2012 คนติว่าไม่สวย แต่นานวันมันก็สวยขึ้นแฮ
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 03:14:23 PM »
36
ห้องรับแขก Civic Fan Club / Re: civic 2012 คนติว่าไม่สวย แต่นานวันมันก็สวยขึ้นแฮ
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 03:13:54 PM »
37
ห้องรับแขก Civic Fan Club / civic 2012 คนติว่าไม่สวย แต่นานวันมันก็สวยขึ้นแฮ
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 03:13:12 PM »
38
ข่าวสาร Honda Civic ทั่วโลก / เปิดตัว Honda Civic 2012 จำหน่ายจริงแล้ววันนี้
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 03:11:32 PM »
เมื่อเร็วๆ นี้ ทาง Thaicarlover.com ได้มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวฮอนด้า ซีวิค โฉมปี 2012 (Honda Civic 2012) ไปแล้ว
มาในวันนี้ ฮอนด้าได้เริ่มจำหน่าย Civic คันเป็นๆ แล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยงานนี้ทาง ฮอนด้าก็ได้ตั้งราคา ฮอนด้า ซีวิค มายั่วใจด้วยราคาเพียง 15,805 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 474,000 บาทเท่านั้น
Honda Civic 2012 - Front
โดยรถยนต์คอมแพ็คคาร์ยอดนิยมรุ่นล่าสุด New Honda Civic 2012 เจนเนอร์เรชั่นที่ 9 ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด Back to basic โดยเหตุผลหลัก ๆ ที่ทางค่ายรถยนต์ฮอนด้าได้เปลี่ยนโฉมให้ย้อนยุคไม่หวือหวามากไปเพราะว่า Honda Civic รุ่น FD มันล้ำสมัยเกินไป โดนใจวัยรุ่น แต่กลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่ที่ซื้อใช้เป็นรถครอบครัวส่วนใหญ่จะไม่ชอบ ทางฮอนด้าเลยเลือกออกแบบใหม่รุ่นนี้ให้มันดูมีความเป็นกลางๆ มากขึ้น เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ทำให้คนที่เคยชอบทรง/ภายในของ Civic รุ่นปัจจุบันมากๆ รู้สึกว่ารุ่นนี้ออกแบบได้เชยขึ้น แต่นั่นก็เป็นความตั้งใจของทางฮอนด้า ที่จะให้รถเข้าถึงคนหมู่มากนั่นเอง
Honda Civic 2012
และงานนี้ทางฮอนด้าก็ได้หันไปพัฒนาด้านวิศวกรรมของตัวรถแทน ให้ขับสนุกมากขึ้น คล่องตัวมากขึ้น ปลอดภัยขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ การประหยัดน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของรถยุคปัจจุบัน และเป็นเทคโนโลยีของยนตรกรรมของรถในปี 2012 อีกด้วย
ภายใน Honda Civic 2012
สำหรับฮอนด้ารุ่นปกติ HF และ GX จะใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,800 ซีซีในรหัส R18 เหมือนกับ FA/FD แต่มีการปรับสเป็กให้สอดคล้องกับบุคลิกของตัวรถ โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้เป็นแบบแคมเดี่ยว SOHC พร้อม i-VTEC และชุดเพลาลูกเบี้ยวคุมวาล์วไอดีแบบ 2 สเตจ มีกำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 17.7 กก.-ม. ที่ 4,300 รอบ/นาที ทั้งรุ่นปกติ และ HF แรงม้าแรงบิดเท่ากัน แต่ต่างกันตรงนี้อัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งในรุ่น HF มีตัวเลขในเมือง/นอกเมือง/เฉลี่ยอยู่ที่ 11.7/16.6/13.4 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนรุ่นปกติอยู่ที่ 11.3/14.6/12.6 กิโลเมตร/ลิตร
ขณะที่รุ่น GX กำลังของเครื่องยนต์จะถูกลดลงมาอยู่ที่ 110 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.6 กก.-ม. ที่ 4,200 รอบ/นาที เพื่อแลกกับการใช้พลังงานทางเลือกอย่างก๊าซธรรมชาติ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ
สำหรับแฟนๆ Honda ในบ้านเราคงต้องอดใจรอไปก่อน แต่ก็ไม่แน่ที่อาจจะมีการเปิดตัวรถยนต์ Honda Civic 2012 ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปร 2554 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้นี้ ซึ่งอันนี้แฟนๆ Honda คงต้องติดตามกันต่อไปครับ
อย่าพลาดติดตามอัลบั้มรูปรถยนต์เด่น พริตตี้น่ารักๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ครับ
มาในวันนี้ ฮอนด้าได้เริ่มจำหน่าย Civic คันเป็นๆ แล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยงานนี้ทาง ฮอนด้าก็ได้ตั้งราคา ฮอนด้า ซีวิค มายั่วใจด้วยราคาเพียง 15,805 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 474,000 บาทเท่านั้น
Honda Civic 2012 - Front
โดยรถยนต์คอมแพ็คคาร์ยอดนิยมรุ่นล่าสุด New Honda Civic 2012 เจนเนอร์เรชั่นที่ 9 ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด Back to basic โดยเหตุผลหลัก ๆ ที่ทางค่ายรถยนต์ฮอนด้าได้เปลี่ยนโฉมให้ย้อนยุคไม่หวือหวามากไปเพราะว่า Honda Civic รุ่น FD มันล้ำสมัยเกินไป โดนใจวัยรุ่น แต่กลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่ที่ซื้อใช้เป็นรถครอบครัวส่วนใหญ่จะไม่ชอบ ทางฮอนด้าเลยเลือกออกแบบใหม่รุ่นนี้ให้มันดูมีความเป็นกลางๆ มากขึ้น เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ทำให้คนที่เคยชอบทรง/ภายในของ Civic รุ่นปัจจุบันมากๆ รู้สึกว่ารุ่นนี้ออกแบบได้เชยขึ้น แต่นั่นก็เป็นความตั้งใจของทางฮอนด้า ที่จะให้รถเข้าถึงคนหมู่มากนั่นเอง
Honda Civic 2012
และงานนี้ทางฮอนด้าก็ได้หันไปพัฒนาด้านวิศวกรรมของตัวรถแทน ให้ขับสนุกมากขึ้น คล่องตัวมากขึ้น ปลอดภัยขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ การประหยัดน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของรถยุคปัจจุบัน และเป็นเทคโนโลยีของยนตรกรรมของรถในปี 2012 อีกด้วย
ภายใน Honda Civic 2012
สำหรับฮอนด้ารุ่นปกติ HF และ GX จะใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,800 ซีซีในรหัส R18 เหมือนกับ FA/FD แต่มีการปรับสเป็กให้สอดคล้องกับบุคลิกของตัวรถ โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้เป็นแบบแคมเดี่ยว SOHC พร้อม i-VTEC และชุดเพลาลูกเบี้ยวคุมวาล์วไอดีแบบ 2 สเตจ มีกำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 17.7 กก.-ม. ที่ 4,300 รอบ/นาที ทั้งรุ่นปกติ และ HF แรงม้าแรงบิดเท่ากัน แต่ต่างกันตรงนี้อัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งในรุ่น HF มีตัวเลขในเมือง/นอกเมือง/เฉลี่ยอยู่ที่ 11.7/16.6/13.4 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนรุ่นปกติอยู่ที่ 11.3/14.6/12.6 กิโลเมตร/ลิตร
ขณะที่รุ่น GX กำลังของเครื่องยนต์จะถูกลดลงมาอยู่ที่ 110 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.6 กก.-ม. ที่ 4,200 รอบ/นาที เพื่อแลกกับการใช้พลังงานทางเลือกอย่างก๊าซธรรมชาติ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ
สำหรับแฟนๆ Honda ในบ้านเราคงต้องอดใจรอไปก่อน แต่ก็ไม่แน่ที่อาจจะมีการเปิดตัวรถยนต์ Honda Civic 2012 ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปร 2554 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้นี้ ซึ่งอันนี้แฟนๆ Honda คงต้องติดตามกันต่อไปครับ
อย่าพลาดติดตามอัลบั้มรูปรถยนต์เด่น พริตตี้น่ารักๆ รวมถึงความเคลื่อนไหวในวงการรถยนต์ทั้งไทย และต่างประเทศได้ใหม่กับ Thaicarlover.com ครับ
39
ข่าวสาร Honda Civic ทั่วโลก / All-New Honda Civic ปี 2012 รุ่นผลิต เจนเนอเรชั่นที่ 9 เวอร์ชั่นอเมริก
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 03:10:42 PM »
สำหรับคนอเมริกันแล้ว การได้เห็นภาพของ All-New Honda Civic รุ่น Production หรือผลิตเชิงพาณิชย์ ตามที่เห็นอยู่นี้ มันคือ Civic เจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่ได้รับการออกแบบใหม่ยกคัน และมีความเป็นไปได้สูงเช่นกันที่จะมีการใช้โฉมนี้สำหรับเมืองไทย ถ้า Honda ตัดสินใจเดินตามกลยุทธ์เดิมที่ใช้กับ Accord และ CR-V รุ่นล่าสุดมาแล้ว
Civic เจนเนอเรชั่นนี้มีหลายเวอร์ชั่นให้เลือกซื้อคือ มีทั้งเวอร์ชั่นซีดานและคูเป้ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร แบบเดิม มีเวอร์ชั่น HF (High Fuel economy) ที่ประหยัดน้ำมันเป็นพิเศษซึ่งใช้ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตรเช่นกัน เวอร์ชั่นสมรรถนะ Si อีก 2 รุ่น เวอร์ชั่นไฮบริดตามสมัยนิยม และสุดท้ายคือ เวอร์ชั่นติดแก๊สธรรมชาติ
เริ่มจาก Civic HF ใช้ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ i-VTEC 1.8 ลิตร ผลิตกำลังสูงสุดได้ 140 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 41 ไมล์/แกลลอนสำหรับการขับนอกเมือง ส่วนรุ่นที่ประหยัดน้ำมันที่สุดตกอยู่กับ Civic Hybrid ที่เป็นครั้งแรกที่มีการใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นแหล่งจ่ายไฟ มาพร้อมเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตรที่ให้กำลัง 110 แรงม้า ซึ่ง Honda คาดว่า Civic Hybrid รุ่นนี้จะผ่านมาตรฐานอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ EPA สหรัฐอเมริกาซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 45 ไมล์/แกลลอน ดีขึ้นกว่า Civic Hybrid รุ่นปี 2011 อยู่ 4 ไมล์/แกลลอน ทั้งรุ่น HF และ Hybrid จะได้รับการติดตั้งด้วยแอโรพาร์ทที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับระบบ ECO Assist ของ Honda อีกด้วย
สำหรับ Civic เวอร์ชั่นซีดานและคูเป้ จะได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ i-VTEC 1.8 ลิตร ขนาด 140 แรงม้า โดยคาดว่าจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 39 ไมล์/แกลลอนสำหรับการขับนอกเมือง ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม 3 ไมล์/แกลลอน และอีกรุ่นหนึ่งก็คือ Civic Natural Gas หรือรุ่นติดแก๊สที่กินน้ำมันน้อยกว่ารุ่นเดิม 7%
Civic รุ่นสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดก็คือ Si ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตรที่แรงขึ้น ขับเคลื่อนผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้สูงถึง 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 170 ปอนด์ฟุต โดยคาดว่าจะมีอัตราสิ้นเปลืองฯสำหรับการขับนอกเมืองที่ 31 ไมล์/แกลลอน ดีกว่าเดิม 2 ไมล์/แกลลอน โดยรวมคือ Civic ตัวใหม่จะประหยัดน้ำมันมากขึ้นตามที่ Honda ได้ตั้งใจเอาไว้
.
.
Honda จะเปิดรายละเอียดอื่นๆของ All-New Civic เวอร์ชั่นอเมริกานี้ก่อนที่จะเริ่มมีการจำหน่ายในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ที่อเมริกาครับ
ที่มา: autospinn.com
Civic เจนเนอเรชั่นนี้มีหลายเวอร์ชั่นให้เลือกซื้อคือ มีทั้งเวอร์ชั่นซีดานและคูเป้ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร แบบเดิม มีเวอร์ชั่น HF (High Fuel economy) ที่ประหยัดน้ำมันเป็นพิเศษซึ่งใช้ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตรเช่นกัน เวอร์ชั่นสมรรถนะ Si อีก 2 รุ่น เวอร์ชั่นไฮบริดตามสมัยนิยม และสุดท้ายคือ เวอร์ชั่นติดแก๊สธรรมชาติ
เริ่มจาก Civic HF ใช้ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ i-VTEC 1.8 ลิตร ผลิตกำลังสูงสุดได้ 140 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 41 ไมล์/แกลลอนสำหรับการขับนอกเมือง ส่วนรุ่นที่ประหยัดน้ำมันที่สุดตกอยู่กับ Civic Hybrid ที่เป็นครั้งแรกที่มีการใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นแหล่งจ่ายไฟ มาพร้อมเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตรที่ให้กำลัง 110 แรงม้า ซึ่ง Honda คาดว่า Civic Hybrid รุ่นนี้จะผ่านมาตรฐานอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ EPA สหรัฐอเมริกาซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 45 ไมล์/แกลลอน ดีขึ้นกว่า Civic Hybrid รุ่นปี 2011 อยู่ 4 ไมล์/แกลลอน ทั้งรุ่น HF และ Hybrid จะได้รับการติดตั้งด้วยแอโรพาร์ทที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับระบบ ECO Assist ของ Honda อีกด้วย
สำหรับ Civic เวอร์ชั่นซีดานและคูเป้ จะได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ i-VTEC 1.8 ลิตร ขนาด 140 แรงม้า โดยคาดว่าจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 39 ไมล์/แกลลอนสำหรับการขับนอกเมือง ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม 3 ไมล์/แกลลอน และอีกรุ่นหนึ่งก็คือ Civic Natural Gas หรือรุ่นติดแก๊สที่กินน้ำมันน้อยกว่ารุ่นเดิม 7%
Civic รุ่นสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดก็คือ Si ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.4 ลิตรที่แรงขึ้น ขับเคลื่อนผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้สูงถึง 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 170 ปอนด์ฟุต โดยคาดว่าจะมีอัตราสิ้นเปลืองฯสำหรับการขับนอกเมืองที่ 31 ไมล์/แกลลอน ดีกว่าเดิม 2 ไมล์/แกลลอน โดยรวมคือ Civic ตัวใหม่จะประหยัดน้ำมันมากขึ้นตามที่ Honda ได้ตั้งใจเอาไว้
.
.
Honda จะเปิดรายละเอียดอื่นๆของ All-New Civic เวอร์ชั่นอเมริกานี้ก่อนที่จะเริ่มมีการจำหน่ายในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ที่อเมริกาครับ
ที่มา: autospinn.com
40
All Problem Civic Fan Club / รหัสเครื่องและปีที่ผลิต [[HONDA]]
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 03:09:37 PM »
Engine Codes / Vehicle / Year
A20A3 Honda Accord 1988-1989
B16 Acura Integra XSi/RSi (JDM) 1990-1991
B16 Acura Integra XSi/RSi 1992-1993
B16A Honda Civic SiR (JDM) 1989-1991
B16A Honda Civic (EDM) 1992-1995
B16A Honda Civic VTi 1996-2000
B16A Honda Del Sol/CRX SiR 1992-1996
B16A Honda Civic SiR (JDM-Hatch) 1989-1992
B16A1 Honda CRX 1.6i/VTi (EDM) 1989-1992
B16A1 Honda CRX SiR 1990-1991
B16A1 Honda Civic SiR (JDM) 1990-1991
B16A2 Honda Civic Si 1999-2000
B16A2 Honda Civic SiRII (JDM) 1992-1995
B16A2 Honda Del Sol (JDM) 1993-1995
B16A3 Honda Del Sol 1992-1995
B16B Honda Civic Type R (JDM) 1998-2001
B17A1 Acura Integra GSR 1992-1993
B18A1 Acura Integra GS 1990-1991
B18A1 Acura Integra GS 1992-1993
B18B1 Acura Integra GS/LS/RS 1994-1995
B18B1 Acura Integra GS/LS/RS 1996-2000
B18C Acura Integra SiR (JDM) 1995-1997
B18C1 Acura Integra GSR 1994-2001
B18C3 Honda Integra Type R 1995-1998
B18C5 Acura Integra Type R 1998-2001
B18C5 Honda Integra Type R 1997-2001
B20A3 Honda Prelude 2.0 S 1990-1991
B20A5 Honda Prelude 2.0 Si 1990-1991
B20A5 Honda Prelude Si 1988-1989
B20A5 Honda Prelude Si 1988-1989
B20B Honda CRV 1997-1998
B20Z Honda CRV 1998-2001
B21A1 Honda Prelude Si 1990-1991
C30A Acura NSX 1991-1996
C32B Acura NSX 2002+
D15A Honda Civic DX 1988-1991
D15A1 Honda CRX DX 1988-1991
D15A2 Honda CRX HF (Carbed) 1984-1987
D15B2 Honda Civic DX/LX 1988-1991
D15B6 Honda Civic HF/CRX HF 1988-1989
D15B6 Honda Civic HF/CRX HF 1990-1991
D15B7 Honda Civic DX/LX 1992-1995
D15B8 Honda Civic CX 1992-1995
D15Y7 Honda Civic DX/LX/CX 1996-2000
D15Z Honda Civic HF 1996-2000
D15Z1 Honda Civic VX 1992-1995
D16A1 Acura Integra 1986-1987
D16A3 Acura Integra 1988-1989
D16A3 Acura Integra 1988-1989
D16A6 Honda Civic Si/CRX Si 1988-1991
D16A6 Honda Civic EX 1990-1991
D16A8/9 Acura Integra 1988-1989
D16Y8 Honda Civic EX 1996-2000
D16Z6 Honda Civic EX/Si /Del Sol Si 1992-1995
D17A1 Honda Civic DX/LX 2001+
D17A2 Honda Civic EX 2001+
EW4 Honda CRX Si 1985-1987
EW4 Honda Civic Si 1986-1987
F20A Honda Accord 2.0Si (JDM) 1990-1993
F20C Honda S2000 2000+
F22 Honda Prelude Si 1992-1996
F22A1 Honda Accord 1990-1993
F22A1 Honda Prelude S 1992-1996
F22A4 Honda Accord 1990-1991
F22A6 Honda Accord 1991-1993
F22B1 Honda Accord EX 1994-1997
F22B2 Honda Accord DX/LX 1994-1997
H22 Honda Accord SiR 1994-1997
H22 Honda Prelude VTEC 1992-1996
H22A Honda Prelude SiR (JDM) 1997-2001
H22A Honda Prelude 1999-2001
H22A Honda Prelude Type S (JDM) 1997-2001
H22A1 Honda Prelude 1997-1998
H22A1 Honda Prelude VTEC (USDM) 1993-1996
H22A4 Honda Prelude (USDM) 1997-2001
H22A7 Accord Euro-R 2002+
H23 Honda Prelude Type S (JDM) 1993-1995
H23A1 Honda Prelude SE/Si 1992-1996
K20A Acura Integra (JDM) 2001+
K20A Honda Civic Type R (JDM) 2001+
K20A Integra Type R (JDM) 2001+
K20A Acura Integra IS (JDM) 2001+
K20A2 Acura RSX Type S 2001+
K20A3 Acura RSX 2001+
K20A3 Honda Civic Si 2002+
K24 Honda CRV 2002+
ZC Honda CRX (JDM) 1990-1993
ZC Honda CRX Si16/1.6i (JDM) 1989-1992
ZC Honda CRX Si (JDM) 1985-1987
ZC Acura Integra (JDM) 1990-1993
ZC Acura Integra (JDM) 1986-1989
ZC Honda Civic Si (JDM) 1986-1987
ZC Honda Civic Si (JDM) 1988-1991
Engine Codes / Size / Type / Vehicle & Power Ratings
EW4 1.4L & 1.5L SOHC PGM-Fi '84-'87 Civic 60-92hp
D15B 1.5L SOHC non-VTEC '88-'95 Civic's 62-102hp
D16A1 1.6 L DOHC 86-89 Integra 86/87 113hp 88/89 118hp
D16A6 1.6L SOHC 88-91 Civic Si/ CRX Si 108hp
ZC JDM equivalent of D16A1 130ps
D16Z6 1.6L SOHC VTEC 92-95 Civic EX/Si 125hp
D16Y5 1.6L SOHC VTEC-E 96-00 Civic HX 115hp
D16Y7 1.6L SOHC non-VTEC 96+ Civic CX/DX/LX 106hp
D16Y8 1.6L SOHC VTEC 96+ Civic EX 127hp
B16A 1.6L JDM DOHC VTEC 89-91 Civic Si-R I/CRX Si-R, Integra RSi/XSi 160ps
B16A2/3 1.6L USDM DOHC VTEC 93-97 DelSol VTEC/99-00 Civic Si 160hp
B16A 1.6L JDM DOHC VTEC 92-95 Civic Si-R II/ 92-97 CRX DelSol SiR 170ps
B16B 1.6L JDM DOHC VTEC 98+ Civic Type R 185ps
D17A2 1.7L SOHC VTEC-E 01 Civic EX 127hp
D17A1 1.7L SOHC non-VTEC '01+ Civic DX/LX 115hp
B17A1 1.7L USDM DOHC VTEC 92-93 Integra GS-R 160hp
B18A1 1.8L USDM DOHC non-VTEC 90-93 Integra RS/LS/GS 90-91: 130hp / 92-93: 140hp
B18B1 1.8L USDM DOHC non-VTEC 94-01 Integra RS/LS/GS 140hp
B18C 1.8L JDM DOHC VTEC 94+ Integra SiR-G 180ps
B18C1 1.8L USDM DOHC VTEC 94+ Integra GS-R 170hp
B18C5 1.8L USDM DOHC VTEC 97+ Integra Type R 195hp
B18C6/7 1.8L JDM DOHC VTEC 96+ Integra Type R 200ps
B20A5 2.0L DOHC non-VTEC 87-91 Prelude 2.0Si 135hp
B20B 2.0L DOHC non-VTEC 96-98 CR-V 126hp
B20Z 2.0L DOHC non-VTEC 99-01 CR-V 143hp
B21A1 2.1L DOHC non-VTEC 90-91 Prelude Si 145hp
K20A3 2.0L DOHC i-VTEC '02+ RSX 02+ Civic Si 160hp
K20A2 2.0L DOHC i-VTEC 02+ RSX Type S 02+ Civic TypeR 200hp
K20A 2.0L JDM DOHC i-VTEC '02+ Integra Type R 220ps
F20A1 2.0L JDM DOHC non-VTEC 90-93 Accord Si 155hp
F20B 2.0L JDM DOHC VTEC 90-93 Accord Si-R 190ps
F20C1 2.0L DOHC VTEC '00+ S2000 250ps/240hp
F22A1 2.2L USDM non-VTEC 92-96 Prelude S 90-93 Accord LX/EX 130hp-135hp
F22B 2.2L USDM SOHC VTEC 94-97 Accord EX/97 2.2CL 145hp
F23A5 2.3L USDM SOHC 98+ Accord DX 135hp
F23A1 2.3L USDM SOHC VTEC 98+ Accord EX & LX/98-99 2.3CL 150hp
F23A4 2.3L USDM SOHC ULEV VTEC 98+ Accord EX & LX 148hp
H22A1 2.2L USDM DOHC VTEC 92-96 Prelude VTEC 190hp
H22A4 2.2L DOHC VTEC 97-01 Prelude VTEC/SH 97-98: 195hp 99-01: 200hp
H22A 2.2L JDM DOHC VTEC 92+ Prelude Type-S, 97+ Prelude SiRS Spec 220ps
H23A1 2.3L USDM DOHC non-VTEC Prelude Si 160hp
G25A1 2.5L USDM SOHC non-VTEC 96-98 2.5TL 176hp
J25A 2.5L JDM SOHC VTEC V6 JDM Honda Aspire/Sabre 200ps
C27? 2.7L USDM SOHC non-VTEC V6 86-89 Legend 150-160hp
C27? 2.7L USDM SOHC non-VTEC V6 95-97 Accord V6 170HP
C30A() 3.0L DOHC VTEC V6 91-96 NSX/NSX-T 270hp
J30A1 3.0L USDM SOHC VTEC V6 98-02 Accord V6/97-99 3.2CL 200hp
C32A6 3.2L USDM SOHC non-VTEC V6 91-95 Legend Sdn, 91-92 Legend Cpe 96-98 3.2TL 200hp
C32A5 3.2L USDM SOHC non-VTEC V6 94-95 Legend GS Sdn, 93-95 Legend Cpe 230hp
C32A? 3.2L DOHC VTEC- V6 97+ NSX/NSX-T 290hp
J32A1 3.2L USDM SOHC VTEC V6 98+ 3.2TL/3.2CL 225hp
J32A2 3.2L USDM SOHC VTEC V6 00+ 3.2CL Type-S, 01 3.2TL Type-S 260hp
C35A2 3.5L USDM SOHC non-VTEC V6 3.5RL 215-225hp
J35A1 3.5L USDM SOHC VTEC V6 98+ Odyessy 210hp
J35A3 3.5L USDM SOHC VTEC V6 Acura MDX 240hp
A20A3 Honda Accord 1988-1989
B16 Acura Integra XSi/RSi (JDM) 1990-1991
B16 Acura Integra XSi/RSi 1992-1993
B16A Honda Civic SiR (JDM) 1989-1991
B16A Honda Civic (EDM) 1992-1995
B16A Honda Civic VTi 1996-2000
B16A Honda Del Sol/CRX SiR 1992-1996
B16A Honda Civic SiR (JDM-Hatch) 1989-1992
B16A1 Honda CRX 1.6i/VTi (EDM) 1989-1992
B16A1 Honda CRX SiR 1990-1991
B16A1 Honda Civic SiR (JDM) 1990-1991
B16A2 Honda Civic Si 1999-2000
B16A2 Honda Civic SiRII (JDM) 1992-1995
B16A2 Honda Del Sol (JDM) 1993-1995
B16A3 Honda Del Sol 1992-1995
B16B Honda Civic Type R (JDM) 1998-2001
B17A1 Acura Integra GSR 1992-1993
B18A1 Acura Integra GS 1990-1991
B18A1 Acura Integra GS 1992-1993
B18B1 Acura Integra GS/LS/RS 1994-1995
B18B1 Acura Integra GS/LS/RS 1996-2000
B18C Acura Integra SiR (JDM) 1995-1997
B18C1 Acura Integra GSR 1994-2001
B18C3 Honda Integra Type R 1995-1998
B18C5 Acura Integra Type R 1998-2001
B18C5 Honda Integra Type R 1997-2001
B20A3 Honda Prelude 2.0 S 1990-1991
B20A5 Honda Prelude 2.0 Si 1990-1991
B20A5 Honda Prelude Si 1988-1989
B20A5 Honda Prelude Si 1988-1989
B20B Honda CRV 1997-1998
B20Z Honda CRV 1998-2001
B21A1 Honda Prelude Si 1990-1991
C30A Acura NSX 1991-1996
C32B Acura NSX 2002+
D15A Honda Civic DX 1988-1991
D15A1 Honda CRX DX 1988-1991
D15A2 Honda CRX HF (Carbed) 1984-1987
D15B2 Honda Civic DX/LX 1988-1991
D15B6 Honda Civic HF/CRX HF 1988-1989
D15B6 Honda Civic HF/CRX HF 1990-1991
D15B7 Honda Civic DX/LX 1992-1995
D15B8 Honda Civic CX 1992-1995
D15Y7 Honda Civic DX/LX/CX 1996-2000
D15Z Honda Civic HF 1996-2000
D15Z1 Honda Civic VX 1992-1995
D16A1 Acura Integra 1986-1987
D16A3 Acura Integra 1988-1989
D16A3 Acura Integra 1988-1989
D16A6 Honda Civic Si/CRX Si 1988-1991
D16A6 Honda Civic EX 1990-1991
D16A8/9 Acura Integra 1988-1989
D16Y8 Honda Civic EX 1996-2000
D16Z6 Honda Civic EX/Si /Del Sol Si 1992-1995
D17A1 Honda Civic DX/LX 2001+
D17A2 Honda Civic EX 2001+
EW4 Honda CRX Si 1985-1987
EW4 Honda Civic Si 1986-1987
F20A Honda Accord 2.0Si (JDM) 1990-1993
F20C Honda S2000 2000+
F22 Honda Prelude Si 1992-1996
F22A1 Honda Accord 1990-1993
F22A1 Honda Prelude S 1992-1996
F22A4 Honda Accord 1990-1991
F22A6 Honda Accord 1991-1993
F22B1 Honda Accord EX 1994-1997
F22B2 Honda Accord DX/LX 1994-1997
H22 Honda Accord SiR 1994-1997
H22 Honda Prelude VTEC 1992-1996
H22A Honda Prelude SiR (JDM) 1997-2001
H22A Honda Prelude 1999-2001
H22A Honda Prelude Type S (JDM) 1997-2001
H22A1 Honda Prelude 1997-1998
H22A1 Honda Prelude VTEC (USDM) 1993-1996
H22A4 Honda Prelude (USDM) 1997-2001
H22A7 Accord Euro-R 2002+
H23 Honda Prelude Type S (JDM) 1993-1995
H23A1 Honda Prelude SE/Si 1992-1996
K20A Acura Integra (JDM) 2001+
K20A Honda Civic Type R (JDM) 2001+
K20A Integra Type R (JDM) 2001+
K20A Acura Integra IS (JDM) 2001+
K20A2 Acura RSX Type S 2001+
K20A3 Acura RSX 2001+
K20A3 Honda Civic Si 2002+
K24 Honda CRV 2002+
ZC Honda CRX (JDM) 1990-1993
ZC Honda CRX Si16/1.6i (JDM) 1989-1992
ZC Honda CRX Si (JDM) 1985-1987
ZC Acura Integra (JDM) 1990-1993
ZC Acura Integra (JDM) 1986-1989
ZC Honda Civic Si (JDM) 1986-1987
ZC Honda Civic Si (JDM) 1988-1991
Engine Codes / Size / Type / Vehicle & Power Ratings
EW4 1.4L & 1.5L SOHC PGM-Fi '84-'87 Civic 60-92hp
D15B 1.5L SOHC non-VTEC '88-'95 Civic's 62-102hp
D16A1 1.6 L DOHC 86-89 Integra 86/87 113hp 88/89 118hp
D16A6 1.6L SOHC 88-91 Civic Si/ CRX Si 108hp
ZC JDM equivalent of D16A1 130ps
D16Z6 1.6L SOHC VTEC 92-95 Civic EX/Si 125hp
D16Y5 1.6L SOHC VTEC-E 96-00 Civic HX 115hp
D16Y7 1.6L SOHC non-VTEC 96+ Civic CX/DX/LX 106hp
D16Y8 1.6L SOHC VTEC 96+ Civic EX 127hp
B16A 1.6L JDM DOHC VTEC 89-91 Civic Si-R I/CRX Si-R, Integra RSi/XSi 160ps
B16A2/3 1.6L USDM DOHC VTEC 93-97 DelSol VTEC/99-00 Civic Si 160hp
B16A 1.6L JDM DOHC VTEC 92-95 Civic Si-R II/ 92-97 CRX DelSol SiR 170ps
B16B 1.6L JDM DOHC VTEC 98+ Civic Type R 185ps
D17A2 1.7L SOHC VTEC-E 01 Civic EX 127hp
D17A1 1.7L SOHC non-VTEC '01+ Civic DX/LX 115hp
B17A1 1.7L USDM DOHC VTEC 92-93 Integra GS-R 160hp
B18A1 1.8L USDM DOHC non-VTEC 90-93 Integra RS/LS/GS 90-91: 130hp / 92-93: 140hp
B18B1 1.8L USDM DOHC non-VTEC 94-01 Integra RS/LS/GS 140hp
B18C 1.8L JDM DOHC VTEC 94+ Integra SiR-G 180ps
B18C1 1.8L USDM DOHC VTEC 94+ Integra GS-R 170hp
B18C5 1.8L USDM DOHC VTEC 97+ Integra Type R 195hp
B18C6/7 1.8L JDM DOHC VTEC 96+ Integra Type R 200ps
B20A5 2.0L DOHC non-VTEC 87-91 Prelude 2.0Si 135hp
B20B 2.0L DOHC non-VTEC 96-98 CR-V 126hp
B20Z 2.0L DOHC non-VTEC 99-01 CR-V 143hp
B21A1 2.1L DOHC non-VTEC 90-91 Prelude Si 145hp
K20A3 2.0L DOHC i-VTEC '02+ RSX 02+ Civic Si 160hp
K20A2 2.0L DOHC i-VTEC 02+ RSX Type S 02+ Civic TypeR 200hp
K20A 2.0L JDM DOHC i-VTEC '02+ Integra Type R 220ps
F20A1 2.0L JDM DOHC non-VTEC 90-93 Accord Si 155hp
F20B 2.0L JDM DOHC VTEC 90-93 Accord Si-R 190ps
F20C1 2.0L DOHC VTEC '00+ S2000 250ps/240hp
F22A1 2.2L USDM non-VTEC 92-96 Prelude S 90-93 Accord LX/EX 130hp-135hp
F22B 2.2L USDM SOHC VTEC 94-97 Accord EX/97 2.2CL 145hp
F23A5 2.3L USDM SOHC 98+ Accord DX 135hp
F23A1 2.3L USDM SOHC VTEC 98+ Accord EX & LX/98-99 2.3CL 150hp
F23A4 2.3L USDM SOHC ULEV VTEC 98+ Accord EX & LX 148hp
H22A1 2.2L USDM DOHC VTEC 92-96 Prelude VTEC 190hp
H22A4 2.2L DOHC VTEC 97-01 Prelude VTEC/SH 97-98: 195hp 99-01: 200hp
H22A 2.2L JDM DOHC VTEC 92+ Prelude Type-S, 97+ Prelude SiRS Spec 220ps
H23A1 2.3L USDM DOHC non-VTEC Prelude Si 160hp
G25A1 2.5L USDM SOHC non-VTEC 96-98 2.5TL 176hp
J25A 2.5L JDM SOHC VTEC V6 JDM Honda Aspire/Sabre 200ps
C27? 2.7L USDM SOHC non-VTEC V6 86-89 Legend 150-160hp
C27? 2.7L USDM SOHC non-VTEC V6 95-97 Accord V6 170HP
C30A() 3.0L DOHC VTEC V6 91-96 NSX/NSX-T 270hp
J30A1 3.0L USDM SOHC VTEC V6 98-02 Accord V6/97-99 3.2CL 200hp
C32A6 3.2L USDM SOHC non-VTEC V6 91-95 Legend Sdn, 91-92 Legend Cpe 96-98 3.2TL 200hp
C32A5 3.2L USDM SOHC non-VTEC V6 94-95 Legend GS Sdn, 93-95 Legend Cpe 230hp
C32A? 3.2L DOHC VTEC- V6 97+ NSX/NSX-T 290hp
J32A1 3.2L USDM SOHC VTEC V6 98+ 3.2TL/3.2CL 225hp
J32A2 3.2L USDM SOHC VTEC V6 00+ 3.2CL Type-S, 01 3.2TL Type-S 260hp
C35A2 3.5L USDM SOHC non-VTEC V6 3.5RL 215-225hp
J35A1 3.5L USDM SOHC VTEC V6 98+ Odyessy 210hp
J35A3 3.5L USDM SOHC VTEC V6 Acura MDX 240hp
41
ห้องรับแขก Civic Fan Club / Re: ประวัติรถ HONDA CIVIC 9 GENERATION
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 03:00:09 PM »
7th generation
โฉมนี้ มีการผลิตมาทั้งสิ้น 5 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 2001 - ค.ศ. 2005 โฉมนี้ มีตัวถัง 4 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู , hatchback 3 ประตู , ซีดาน 4 ประตู และ hatchback 5 ประตู
และเพิ่มความหลากหลายของขนาดลูกสูบ โดยมี 3 ขนาด คือ 1.5, 1.7 และ 2.0 ลิตร และโฉมนี้ มีระบบเกียร์ 3 ระบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด, เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
โฉมนี้ เป็นโฉมแรก ที่ฮอนด้าได้ทำระบบไฮบริดมาติดกับรถซีวิค เป็นรุ่นพิเศษ แต่ไม่เข้ามาขายในประเทศไทย
โฉมนี้เป็นโฉมสุดท้ายที่มีการผลิตเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด พ่อค้ารถเรียกซีวิคโฉมนี้ว่า "โฉม Dimension"
--------------------------------------
8th generation
โฉมนี้ เป็นโฉมล่าสุด เริ่มผลิตตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 2006 จนถึงรุ่นปีล่าสุดของฮอนด้าซิวิคที่ฮอนด้ายังผลิตอยู่ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นโฉมนี้ มีตัวถัง 4 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู , hatchback 3 ประตู , ซีดาน 4 ประตู และ station wagon 5 ประตู โดยในประเทศไทยนั้นทางฮอนด้าจะจำหน่ายเฉพาะแบบซีดาน 4 ประตู
โฉมนี้ มีระบบเกียร์ 3 แบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด, เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีเครื่องยนต์ 3 ขนาด คือ 1.5, 1.7 และ 2.0 ลิตร แต่ในประเทศไทยมีการจำหน่ายเฉพาะรุ่น 1.8 และ 2.0 ลิตร
และจนถึงรุ่นปี ค.ศ. 2008 ก็ได้มีการพัฒนาเครื่องยนต์ชนิดใหม่ในรถซีวิค ให้สามารถใช้พลังงานทดแทนพิเศษ แก๊สโซฮอล์ E20 ได้ ซึ่งแก๊สโซฮอล์ใหม่นี้ สามารถลดมลพิษในอากาศได้มากกว่าแก๊สโซฮอล์ทั่วไป
ฮอนด้า ซีวิค โฉมที่ 8 นี้ ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี (Thailand Car of the Year 2009) ในประเภทรถยนต์นั่ง ในรุ่นไม่เกิน 2,000 ซีซี (Best Sedan under 2,000 cc.)
------------------------------------
9th generation
Honda Civic ใหม่ จะมีทั้งหมด 3 ทางเลือก
ทางเลือกแรก คือ Civic รุ่นปกติ แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย Civic HF (high fuel economy), Civic Sedan, Civic Coupe และ Civic GX Natural Gas หรือ CNG จากโรงงาน ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.8 ลิตร i-VTEC 140 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมเทคโนโลยี Eco Assist (Ecological Drive Assist System) ช่วยให้ผู้ขับประเมินลักษณะการขับ เพื่อช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยรุ่น HF จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย (ไฮเวย์ มาตรฐาน EPA) ประมาณ 17 กม./ลิตร ส่วนรุ่นซีดาน และคูเป้ ประมาณ 16 กม./ลิตร
ทางเลือกที่ 2 น่าสนใจขึ้นอีกระดับ ด้วย Civic Hybrid เทคโนโลยีไม่ต้องสงสัยอะไรมากมาย ได้รับการพิสูจน์มาแล้วจาก Honda CR-Z เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร i-VTEC เก็บพลังด้วยชุด แบตเตอรี่แพค ลิเธียม-ไอออน ทั้งระบบผลิตกำลังรวมได้ 110 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมเทคโนโลยี Eco Assist อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยประมาณ 19.5 กม./ลิตร
ทางเลือกที่ 3 กับตัวแรงสุด Honda Civic Si มีทั้งตัวถังซีดาน และคูเป้ มากับเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้น 4 สูบ 2.4 ลิตร 200 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะตัวใหม่ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยแบบช่างมัน ไม่ซีเรียส ประมาณ 13.4 กม./ลิตร แต่ก็ถือว่าดีกว่ารุ่นปัจจุบันราว 2 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน EPA)
ขอบคุณ motortrivia
โฉมนี้ มีการผลิตมาทั้งสิ้น 5 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 2001 - ค.ศ. 2005 โฉมนี้ มีตัวถัง 4 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู , hatchback 3 ประตู , ซีดาน 4 ประตู และ hatchback 5 ประตู
และเพิ่มความหลากหลายของขนาดลูกสูบ โดยมี 3 ขนาด คือ 1.5, 1.7 และ 2.0 ลิตร และโฉมนี้ มีระบบเกียร์ 3 ระบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด, เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
โฉมนี้ เป็นโฉมแรก ที่ฮอนด้าได้ทำระบบไฮบริดมาติดกับรถซีวิค เป็นรุ่นพิเศษ แต่ไม่เข้ามาขายในประเทศไทย
โฉมนี้เป็นโฉมสุดท้ายที่มีการผลิตเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด พ่อค้ารถเรียกซีวิคโฉมนี้ว่า "โฉม Dimension"
--------------------------------------
8th generation
โฉมนี้ เป็นโฉมล่าสุด เริ่มผลิตตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 2006 จนถึงรุ่นปีล่าสุดของฮอนด้าซิวิคที่ฮอนด้ายังผลิตอยู่ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นโฉมนี้ มีตัวถัง 4 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู , hatchback 3 ประตู , ซีดาน 4 ประตู และ station wagon 5 ประตู โดยในประเทศไทยนั้นทางฮอนด้าจะจำหน่ายเฉพาะแบบซีดาน 4 ประตู
โฉมนี้ มีระบบเกียร์ 3 แบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด, เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีเครื่องยนต์ 3 ขนาด คือ 1.5, 1.7 และ 2.0 ลิตร แต่ในประเทศไทยมีการจำหน่ายเฉพาะรุ่น 1.8 และ 2.0 ลิตร
และจนถึงรุ่นปี ค.ศ. 2008 ก็ได้มีการพัฒนาเครื่องยนต์ชนิดใหม่ในรถซีวิค ให้สามารถใช้พลังงานทดแทนพิเศษ แก๊สโซฮอล์ E20 ได้ ซึ่งแก๊สโซฮอล์ใหม่นี้ สามารถลดมลพิษในอากาศได้มากกว่าแก๊สโซฮอล์ทั่วไป
ฮอนด้า ซีวิค โฉมที่ 8 นี้ ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี (Thailand Car of the Year 2009) ในประเภทรถยนต์นั่ง ในรุ่นไม่เกิน 2,000 ซีซี (Best Sedan under 2,000 cc.)
------------------------------------
9th generation
Honda Civic ใหม่ จะมีทั้งหมด 3 ทางเลือก
ทางเลือกแรก คือ Civic รุ่นปกติ แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย Civic HF (high fuel economy), Civic Sedan, Civic Coupe และ Civic GX Natural Gas หรือ CNG จากโรงงาน ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.8 ลิตร i-VTEC 140 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมเทคโนโลยี Eco Assist (Ecological Drive Assist System) ช่วยให้ผู้ขับประเมินลักษณะการขับ เพื่อช่วยในการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยรุ่น HF จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย (ไฮเวย์ มาตรฐาน EPA) ประมาณ 17 กม./ลิตร ส่วนรุ่นซีดาน และคูเป้ ประมาณ 16 กม./ลิตร
ทางเลือกที่ 2 น่าสนใจขึ้นอีกระดับ ด้วย Civic Hybrid เทคโนโลยีไม่ต้องสงสัยอะไรมากมาย ได้รับการพิสูจน์มาแล้วจาก Honda CR-Z เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.5 ลิตร i-VTEC เก็บพลังด้วยชุด แบตเตอรี่แพค ลิเธียม-ไอออน ทั้งระบบผลิตกำลังรวมได้ 110 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมเทคโนโลยี Eco Assist อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยประมาณ 19.5 กม./ลิตร
ทางเลือกที่ 3 กับตัวแรงสุด Honda Civic Si มีทั้งตัวถังซีดาน และคูเป้ มากับเครื่องยนต์ใหญ่ขึ้น 4 สูบ 2.4 ลิตร 200 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะตัวใหม่ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยแบบช่างมัน ไม่ซีเรียส ประมาณ 13.4 กม./ลิตร แต่ก็ถือว่าดีกว่ารุ่นปัจจุบันราว 2 กม./ลิตร (ตามมาตรฐาน EPA)
ขอบคุณ motortrivia
42
ห้องรับแขก Civic Fan Club / Re: ประวัติรถ HONDA CIVIC 9 GENERATION
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 02:58:04 PM »
4th generation
โฉมนี้ ผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1988 - ค.ศ. 1991 โฉมนี้ มีการผลิตตัวถัง 4 รูปแบบ คือ hatchback 3 ประตู , ซีดาน 4 ประตู , คูเป้ 3 ประตู และ station wagon 5 ประตู
โฉมนี้ มีระบบเกียร์ให้เลือกถึง 4 ระบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด, เกียร์ธรรมดา 4 สปีด, เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เครื่องยนต์ 4 ขนาด คือ 1.3, 1.4, 1.5 และ 1.6 ลิตร
โฉมนี้ พ่อค้ารถในไทยนิยมเรียกว่า "โฉมไฟท้าย 2 ชั้น" เป็นโฉมสุดท้ายที่มีการผลิตเกียร์ธรรมดา 4 สปีด
นับเป็นโฉมที่มีความหลากหลาย และเครื่องยนต์ที่ทนทาน ปัจจุบันนี้ ก็ยังสามารถเห็นรถซีวิคโฉมไฟท้าย 2 ชั้นนี้ บนท้องถนนได้ แม้จะเลิกผลิตไปถึง 17 ปีแล้ว
---------------------------------------------------------
5th generation
โฉมนี้ มีการผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1992 - ค.ศ. 1995 มีตัวถัง 3 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู, hatchback 3 ประตู และแบบซีดาน 4 ประตู
มีระบบเกียร์ 2 ระบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด มีเครื่องยนต์ 2 ขนาด คือ 1.5 กับ 1.6 ลิตร พ่อค้ารถในไทย นิยมเรียกโฉมนี้ว่า "โฉมเตารีด"
โฉมนี้ เป็นโฉมที่รูปลักษณ์ภายนอกของซีวิคเริ่มเปลี่ยนไป เพราะ 4 โฉมแรก ภายนอกจะมีลักษณะตรง แล้วหักเป็นมุมๆ ทำให้มีลักษณะเป็นรูปทรงเหลี่ยมๆ แต่โฉมนี้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นความโค้งมน และโฉมจากนี้ จะเพิ่มความโค้งมนมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงโฉมล่าสุด ที่มีความโค้งมนมาก
นอกจากนี้ ในประเทศไทย ช่วงกลางๆ ของโฉมนี้ ซีวิคเริ่มเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์แบบหัวฉีด แทนระบบคาร์บูเรเตอร์ ซึ่งสังเกตได้จากอักษรทริมที่อยู่ท้ายรถ จะมีตัวไอเล็กภาษาอังกฤษ (i) ต่อท้าย (เป็นทริมแบบ LXi, EXi, ฯลฯ) แต่ถ้าไม่มี i ต่อท้าย (LX, EX, ฯลฯ) แปลว่า ซีวิคคันนั้นยังใช้เครื่องคาร์บูเรเตอร์ ซึ่งรถที่ใช้ระบบหัวฉีด จะใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่า และนอกจากนี้ เครื่องหัวฉีด สามารถเติมน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ (แก๊สโซฮอล์ E10) ได้ ซึ่งยิ่งช่วยผู้ใช้ประหยัดมากขึ้นไปอีก ในขณะที่เครื่องแบบคาร์บูเรเตอร์ ไม่เหมาะสมที่จะใช้แก๊สโซฮอล์
------------------------------------------------------------------
6th generation
โฉมนี้ มีการผลิตมาทั้งสิ้น 5 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1996 - ค.ศ. 2000
โฉมนี้ มีตัวถัง 5 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู, hatchback 3 ประตู, ซีดาน 4 ประตู, hatchback 5 ประตู และ station wagon 4 ประตู มีขนาดเครื่องยนต์ขนาดเดียว คือ 1.6 ลิตร
ระบบเกียร์ 2 ระบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด โฉมนี้พ่อค้ารถในประเทศไทยนิยมเรียกว่า "โฉมตาโต" ซึ่งโฉมนี้ เครื่องยนต์ระบบคาร์บูเรเตอร์ค่อยๆ หายไป และในที่สุด ฮอนด้าก็เลิกผลิตรถยนต์นั่งแบบคาร์บูเรเตอร์อย่างสมบูรณ์ และรถยนต์นั่งฮอนด้าทุกคันที่ผลิตเป็นรุ่นปี ค.ศ. 1996 เป็นต้นไป เติมแก๊สโซฮอล์ได้ทุกคัน
โฉมนี้ ผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1988 - ค.ศ. 1991 โฉมนี้ มีการผลิตตัวถัง 4 รูปแบบ คือ hatchback 3 ประตู , ซีดาน 4 ประตู , คูเป้ 3 ประตู และ station wagon 5 ประตู
โฉมนี้ มีระบบเกียร์ให้เลือกถึง 4 ระบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด, เกียร์ธรรมดา 4 สปีด, เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เครื่องยนต์ 4 ขนาด คือ 1.3, 1.4, 1.5 และ 1.6 ลิตร
โฉมนี้ พ่อค้ารถในไทยนิยมเรียกว่า "โฉมไฟท้าย 2 ชั้น" เป็นโฉมสุดท้ายที่มีการผลิตเกียร์ธรรมดา 4 สปีด
นับเป็นโฉมที่มีความหลากหลาย และเครื่องยนต์ที่ทนทาน ปัจจุบันนี้ ก็ยังสามารถเห็นรถซีวิคโฉมไฟท้าย 2 ชั้นนี้ บนท้องถนนได้ แม้จะเลิกผลิตไปถึง 17 ปีแล้ว
---------------------------------------------------------
5th generation
โฉมนี้ มีการผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1992 - ค.ศ. 1995 มีตัวถัง 3 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู, hatchback 3 ประตู และแบบซีดาน 4 ประตู
มีระบบเกียร์ 2 ระบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด มีเครื่องยนต์ 2 ขนาด คือ 1.5 กับ 1.6 ลิตร พ่อค้ารถในไทย นิยมเรียกโฉมนี้ว่า "โฉมเตารีด"
โฉมนี้ เป็นโฉมที่รูปลักษณ์ภายนอกของซีวิคเริ่มเปลี่ยนไป เพราะ 4 โฉมแรก ภายนอกจะมีลักษณะตรง แล้วหักเป็นมุมๆ ทำให้มีลักษณะเป็นรูปทรงเหลี่ยมๆ แต่โฉมนี้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นความโค้งมน และโฉมจากนี้ จะเพิ่มความโค้งมนมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงโฉมล่าสุด ที่มีความโค้งมนมาก
นอกจากนี้ ในประเทศไทย ช่วงกลางๆ ของโฉมนี้ ซีวิคเริ่มเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์แบบหัวฉีด แทนระบบคาร์บูเรเตอร์ ซึ่งสังเกตได้จากอักษรทริมที่อยู่ท้ายรถ จะมีตัวไอเล็กภาษาอังกฤษ (i) ต่อท้าย (เป็นทริมแบบ LXi, EXi, ฯลฯ) แต่ถ้าไม่มี i ต่อท้าย (LX, EX, ฯลฯ) แปลว่า ซีวิคคันนั้นยังใช้เครื่องคาร์บูเรเตอร์ ซึ่งรถที่ใช้ระบบหัวฉีด จะใช้เชื้อเพลิงคุ้มค่า และนอกจากนี้ เครื่องหัวฉีด สามารถเติมน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ (แก๊สโซฮอล์ E10) ได้ ซึ่งยิ่งช่วยผู้ใช้ประหยัดมากขึ้นไปอีก ในขณะที่เครื่องแบบคาร์บูเรเตอร์ ไม่เหมาะสมที่จะใช้แก๊สโซฮอล์
------------------------------------------------------------------
6th generation
โฉมนี้ มีการผลิตมาทั้งสิ้น 5 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1996 - ค.ศ. 2000
โฉมนี้ มีตัวถัง 5 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู, hatchback 3 ประตู, ซีดาน 4 ประตู, hatchback 5 ประตู และ station wagon 4 ประตู มีขนาดเครื่องยนต์ขนาดเดียว คือ 1.6 ลิตร
ระบบเกียร์ 2 ระบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด โฉมนี้พ่อค้ารถในประเทศไทยนิยมเรียกว่า "โฉมตาโต" ซึ่งโฉมนี้ เครื่องยนต์ระบบคาร์บูเรเตอร์ค่อยๆ หายไป และในที่สุด ฮอนด้าก็เลิกผลิตรถยนต์นั่งแบบคาร์บูเรเตอร์อย่างสมบูรณ์ และรถยนต์นั่งฮอนด้าทุกคันที่ผลิตเป็นรุ่นปี ค.ศ. 1996 เป็นต้นไป เติมแก๊สโซฮอล์ได้ทุกคัน
43
ห้องรับแขก Civic Fan Club / ประวัติรถ HONDA CIVIC 9 GENERATION
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 02:57:04 PM »
1st Generation
โฉมนี้ ผลิตมาทั้งสิ้นถึง 8 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1972 - ค.ศ. 1979 รุ่นบุกเบิกมีแรงม้าเพียง 50 แรงม้า และมีความยาว 139.8 นิ้ว หรือ 3.55 เมตร แต่ได้ค่อยๆ พัฒนาขึ้น โดยรุ่นสุดท้ายของโฉมนี้มีแรงม้า 60 แรงม้า และยาว 146.9 นิ้ว หรือ 3.73 เมตร
โฉมนี้ เป็นรุ่นที่อยู่ในยุคที่ระบบเกียร์ยังไม่เน้นการประหยัดน้ำมัน และเทคโนโลยีด้านรถ ยังใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ไม่ประหยัดเท่าใดนัก รถโฉมนี้ที่ออกวางจำหน่ายในขณะนั้น จะมีระบบเกียร์อยู่ 3 แบบให้เลือกซื้อ คือ เกียร์อัตโนมัติ 2 สปีด, เกียร์ธรรมดา 4 สปีด, เกียร์ธรรมดา 5 สปีด แต่จะผลิตเกียร์ธรรมดา 4 สปีด เป็นมาตรฐาน เพราะเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ยังมีราคาสูง ส่วนเกียร์อัตโนมัติจะกินน้ำมันมาก ทำให้ไม่เป็นที่นิยม
มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด คือขนาด 1.2 กับ 1.5 ลิตร
มีตัวถัง 5 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู, hatchback 3 ประตู, ซีดาน 4 ประตู, hatchback 5 ประตู และ station wagon 5 ประตู
--------------------------------
2nd generation
โฉมนี้ ผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1980 - ค.ศ. 1983 โดยทั้ง 4 รุ่นปี มีความยาวคงที่คือ 146.9 นิ้ว หรือ 3.73 เมตร แรงม้า 55 กับ 67 แรงม้า แล้วแต่รุ่นเครื่องยนต์ คือขนาด 1.3 กับ 1.5 ลิตร ตามลำดับ
โฉมนี้ มีตัวถัง 4 แบบ คือ hatchback 3 ประตู, ซีดาน 4 ประตู, hatchback 5 ประตู และ station wagon 5 ประตู (ซีวิครุ่นนี้ขายในบางประเทศในชื่อ ฮอนด้า บอลเลด (Honda Ballade) ซึ่งต่อมา บอลเลด ก็ได้แยกตัวเป็นรุ่นอิสระไป)
โฉมนี้ มีระบบเกียร์ให้เลือกซื้อ 4 ระบบ คือ เกียร์อัตโนมัติ 2 กับ 3 สปีด และเกียร์ธรรมดา 4 กับ 5 สปีด (เกียร์อัตโนมัติถูกพัฒนาขึ้นจากเดิม)
แต่โฉมนี้ ก็เป็นโฉมสุดท้ายที่ซิวิคผลิตรถเกียร์อัตโนมัติแบบ 2 ระดับเกียร์ขาย และโฉมถัดจากนี้ไปจะไม่มีอีก
-------------------------------------------------
3rd generation
โฉมนี้ ผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1984 - ค.ศ. 1987 โดยทั้ง 4 รุ่นปี มีความยาว 150 นิ้ว หรือ 3.81 เมตร สูง 1.35 เมตร กว้าง 1.62 เมตร
มีตัวถัง 4 แบบ คือ hatchback 3 ประตู, ซีดาน 4 ประตู, คูเป้ 3 ประตู และ station wagon 5 ประตู มีเครื่องยนต์ขนาดเดียว คือ 1.5 ลิตร
มี 2 ระบบเกียร์ คือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด (ไม่มีระบบเกียร์ธรรมดา 4 สปีด กับเกียร์อัตโนมัติ 2 สปีด)
และโฉมนี้ เป็นโฉมสุดท้ายที่มีการผลิตเกียร์อัตโนมัติแบบ 3 ระดับเกียร์ด้วย
โฉมนี้ ผลิตมาทั้งสิ้นถึง 8 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1972 - ค.ศ. 1979 รุ่นบุกเบิกมีแรงม้าเพียง 50 แรงม้า และมีความยาว 139.8 นิ้ว หรือ 3.55 เมตร แต่ได้ค่อยๆ พัฒนาขึ้น โดยรุ่นสุดท้ายของโฉมนี้มีแรงม้า 60 แรงม้า และยาว 146.9 นิ้ว หรือ 3.73 เมตร
โฉมนี้ เป็นรุ่นที่อยู่ในยุคที่ระบบเกียร์ยังไม่เน้นการประหยัดน้ำมัน และเทคโนโลยีด้านรถ ยังใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ไม่ประหยัดเท่าใดนัก รถโฉมนี้ที่ออกวางจำหน่ายในขณะนั้น จะมีระบบเกียร์อยู่ 3 แบบให้เลือกซื้อ คือ เกียร์อัตโนมัติ 2 สปีด, เกียร์ธรรมดา 4 สปีด, เกียร์ธรรมดา 5 สปีด แต่จะผลิตเกียร์ธรรมดา 4 สปีด เป็นมาตรฐาน เพราะเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ยังมีราคาสูง ส่วนเกียร์อัตโนมัติจะกินน้ำมันมาก ทำให้ไม่เป็นที่นิยม
มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาด คือขนาด 1.2 กับ 1.5 ลิตร
มีตัวถัง 5 แบบ คือแบบคูเป้ 2 ประตู, hatchback 3 ประตู, ซีดาน 4 ประตู, hatchback 5 ประตู และ station wagon 5 ประตู
--------------------------------
2nd generation
โฉมนี้ ผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1980 - ค.ศ. 1983 โดยทั้ง 4 รุ่นปี มีความยาวคงที่คือ 146.9 นิ้ว หรือ 3.73 เมตร แรงม้า 55 กับ 67 แรงม้า แล้วแต่รุ่นเครื่องยนต์ คือขนาด 1.3 กับ 1.5 ลิตร ตามลำดับ
โฉมนี้ มีตัวถัง 4 แบบ คือ hatchback 3 ประตู, ซีดาน 4 ประตู, hatchback 5 ประตู และ station wagon 5 ประตู (ซีวิครุ่นนี้ขายในบางประเทศในชื่อ ฮอนด้า บอลเลด (Honda Ballade) ซึ่งต่อมา บอลเลด ก็ได้แยกตัวเป็นรุ่นอิสระไป)
โฉมนี้ มีระบบเกียร์ให้เลือกซื้อ 4 ระบบ คือ เกียร์อัตโนมัติ 2 กับ 3 สปีด และเกียร์ธรรมดา 4 กับ 5 สปีด (เกียร์อัตโนมัติถูกพัฒนาขึ้นจากเดิม)
แต่โฉมนี้ ก็เป็นโฉมสุดท้ายที่ซิวิคผลิตรถเกียร์อัตโนมัติแบบ 2 ระดับเกียร์ขาย และโฉมถัดจากนี้ไปจะไม่มีอีก
-------------------------------------------------
3rd generation
โฉมนี้ ผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี ค.ศ. 1984 - ค.ศ. 1987 โดยทั้ง 4 รุ่นปี มีความยาว 150 นิ้ว หรือ 3.81 เมตร สูง 1.35 เมตร กว้าง 1.62 เมตร
มีตัวถัง 4 แบบ คือ hatchback 3 ประตู, ซีดาน 4 ประตู, คูเป้ 3 ประตู และ station wagon 5 ประตู มีเครื่องยนต์ขนาดเดียว คือ 1.5 ลิตร
มี 2 ระบบเกียร์ คือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด (ไม่มีระบบเกียร์ธรรมดา 4 สปีด กับเกียร์อัตโนมัติ 2 สปีด)
และโฉมนี้ เป็นโฉมสุดท้ายที่มีการผลิตเกียร์อัตโนมัติแบบ 3 ระดับเกียร์ด้วย
44
All Problem Civic Fan Club / วิธีตรวจเช็ครถยนต์เบื่องต้น
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 02:54:33 PM »
วิธีการตรวจเช็คเครื่องยนต์เบื้องต้นสำหรับผู้ที่เดินทางในระยะทางใกล ๆ เพื่อความพร้อมของสภาพเครื่องยนต์ โดยมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงหรือตรวจเช็คหลัก ๆ ด้วยกัน 11 ขั้นตอนได้แก่
1. น้ำหล่อเย็น ควรตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็นให้อยู่ในระดับ Full อยู่เสมอ โดยตรวจเช็คในขณะที่ดับเครื่องและเครื่องเย็น ถ้าระดับน้ำลดลงเป็นปริมาณมาก ก็อาจ จะมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นได้ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องพิจารณาหาสาเหตุ หรือนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจเช็คสาเหตุ (อย่าลืมเติมน้ำก่อนนำรถไป)
2. ระดับน้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องอุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงานแล้วดับ เครื่องเช็คระดับน้ำมันเครื่องโดยใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง
- เพื่อให้การตรวจเช็คถูกต้อง รถควรอยู่ในแนวระดับเครื่องยังร้อน และทำการวัดหลังจากดับเครื่อง 2-3 นาทีเพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงด้านล่างก่อน
- ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็คน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดด้วยผ้า
- เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องคืนกลับจุดเดิม
- ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่าง " F " กับ " L " แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติ
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการเติมน้ำมันเครื่องมากเกินไป เพราะอาจ ทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
- ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องที่ก้านวัดอีกครั้งหลังเติม น้ำมันเครื่องลงไป
3. ระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ควรตรวจเช็คระดับน้ำกลั่น แบตเตอรี่ ให้อยู่ในตำแหน่ง UPPER/LEVEL และไม่ควรเติมเกิน กว่าระดับ UPPER/LEVEL เพราะถ้าเติม มากเกินไป น้ำยาอิเลคโทรไลท์ซึ่งเป็นสารละลายกรด ซัลฟูริค จะเจือจางทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง นอกจากนี้ น้ำยาอิเลคโทรไลท์อาจจะกระเด็นออกทาง รูระบายไอ และไปกัดกร่อนชิ้นส่วนต่างๆ ในห้องเครื่องยนต์ได้
ข้อควรระวัง
- ปิดฝาเติมน้ำกลั่นให้แน่น
- ขั้วแบตเตอรี่ที่ขั้วบวกและลบขันแน่น
- แบตเตอรี่ยึดแน่นกับฐานที่ตั้ง
4. ระดับน้ำมันเบรค ควรตรวจเช็คด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันเบรคมีคำว่า MAX และ MIN ระดับน้ำมันเบรคควร อยู่ที่ระดับ MAX อยู่เสมอ สาเหตุที่เป็นไปได้ ที่มีผลทำให้ปริมาณน้ำมันเบรคในกระปุกน้ำมันเบรค ลดลงต่ำลงมี 2 ข้อ คือ
- มีการรั่วของน้ำมันเบรคออกจากระบบเบรค
- การสึกหรอของผ้าเบรค ซึ่งระดับน้ำมันเบรคจะลดลงน้อย และช้ามาก ในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันเบรคถ้าพบว่าระดับน้ำมันเบรคในกระปุกน้ำ มันเบรค ลดลงต่ำลงรวดเร็ว ควรนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจ เช็คสาเหตุ
5. ระดับน้ำมันคลัทช์ ควรตรวจเช็คด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันคลัทช์ จะมีคำว่า MAX กับ MIN ระดับน้ำมันคลัชท์ ควรอยู่ที่ระดับ MAX เสมอ ถ้าพบว่าระดับ น้ำมันคลัทช์ในกระปุกลดลงต่ำลง ควรนำรถเข้าศูนย์ บริการ เพื่อตรวจเช็คหาสาเหตุ
6. ระดับน้ำมันเกียร์ AUTO ควรตรวจเช็คขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยการดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ AUTO ออกเช็คน้ำมันเกียร์ ที่ติดก้านวัดด้วยผ้า แล้วเสียบก้านวัด น้ำมันเกียร์คืนกลับจุดเดิม ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจระดับน้ำมันเกียร์ที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมัน เกียร์อยู่ที่ขีด F พอดี แสดงว่าระดับน้ำมันเกียร์ปกติ
7. ตรวจเช็คระดับน้ำมัน POWER ควรตรวจเช็คขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยการหมุนฝาปิดกระปุกน้ำมันPOWER จะติด อยู่กับฝากระปุกน้ำมัน POWER ที่ก้าน วัดจะมีคำว่า HOT และ COLD อยู่คนละด้าน ถ้าวัดตอนที่ เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ให้ดูด้าน COLD ถ้าวัดตอนเครื่อง ร้อนให้ดูด้าน HOT ถ้าเป็นรุ่นใหม่ให้ดูที่กระปุกน้ำมัน POWER จะเป็นพลาสติกใส ที่กระปุกจะมีคำว่า HOT และ COLD อยู่คนละด้าน และมีขีดระดับ MAX กับ MIN อยู่ด้วยระดับน้ำมัน POWER ควรอยู่ระดับ MAX เสมอ ถ้าดูตอนเครื่องยนต์เย็นให้ดูด้าน COLD และถ้าดูตอน เครื่องยนต์ร้อนให้ดูด้าน HOT
8. ตรวจเช็คสภาพของสายพาน โดยวิธีการมองดูที่สายพานถ้าพบรอยแตกเกิดขึ้น ควรทำการเปลี่ยนแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะใช้รถได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ก็ควรตรวจดูความตึง ของสายพานด้วย โดยการใช้นิ้วกดลงบนสายพานตรงกลาง ระหว่างมู่เล่สองข้าง ถ้าสามารถกดลงได้เล็กน้อย ประมาณ 10 มม. ก็น่าจะพอใช้ได้ ( ถ้าไม่แน่ใจควรให้ช่างตรวจสอบ เพราะการตรวจด้วยวิธีดังกล่าว ผู้ตรวจต้องมีความชำนาญ พอสมควร )
9. ตรวจเช็คสภาพภายในห้องเครื่อง โดยวิธีการมองดูรอบๆภายในห้องเครื่อง ให้สังเกตดูว่า มีอะไรผิดปกติหรือไม่ เช่น ท่อยางหม้อน้ำมีคราบน้ำซึมหรือไม่ สายไฟภายใน ห้องเครื่องเรียบร้อยดีหรือไม่ มีหนูขึ้นมากัดหรือไม่ มีคราบ น้ำมันเครื่องรั่วซึมหรือไม่ เป็นต้น
10. ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง และไฟสัญญาณต่างๆ เปิดไฟทั้งหมดดูว่าทำงานตามปกติหรือไม่ มีหลอดไหนไม่ติด หรือไม่ ถ้าพบว่ามีไฟหลอดไหนไม่ติดควรเปลี่ยน ให้อยู่สภาพพร้อมใช้งาน หรือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อ ตรวจเช็ค
11. ตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝน ยางปัดน้ำฝนเมื่อใช้ไประยะหนึ่ง ก็อาจมีการเสื่อมสภาพ ซึ่งเนื่องมาจากสาเหตุเหล่านี้
- ผิวสัมผัสส่วนปลายมีการสึกหรอ จากการทำงานปกติของ ใบปัด
- มีสิ่งสกปรก และหินทรายละเอียดอยู่ระหว่างยางใบปัดกับกระจกทำให้ยางปัดน้ำฝนสึกหรอ
- เมื่อใบปัดน้ำฝนผ่านการใช้งานนานๆ ยางใบปัดน้ำฝน จะแข็งตัว การยืดหยุ่นจะลดลง และความบกพร่องในการ ปัดจะเกิดขึ้น เนื่องจากหน้าสัมผัสระหว่างยางใบปัดกับ กระจกไม่ดี รวมทั้งอาจเกิดจากใบปัดน้ำฝนเกิดอาการ สั่นเต้น หรืออาการอื่นๆ ถ้าพบอาการเหล่านี้ควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนใหม่
ขอบคุณ : rakcar.com
1. น้ำหล่อเย็น ควรตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็นให้อยู่ในระดับ Full อยู่เสมอ โดยตรวจเช็คในขณะที่ดับเครื่องและเครื่องเย็น ถ้าระดับน้ำลดลงเป็นปริมาณมาก ก็อาจ จะมีปัญหาอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นได้ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องพิจารณาหาสาเหตุ หรือนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจเช็คสาเหตุ (อย่าลืมเติมน้ำก่อนนำรถไป)
2. ระดับน้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องอุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงานแล้วดับ เครื่องเช็คระดับน้ำมันเครื่องโดยใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง
- เพื่อให้การตรวจเช็คถูกต้อง รถควรอยู่ในแนวระดับเครื่องยังร้อน และทำการวัดหลังจากดับเครื่อง 2-3 นาทีเพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงด้านล่างก่อน
- ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็คน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดด้วยผ้า
- เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องคืนกลับจุดเดิม
- ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่าง " F " กับ " L " แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติ
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการเติมน้ำมันเครื่องมากเกินไป เพราะอาจ ทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
- ตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องที่ก้านวัดอีกครั้งหลังเติม น้ำมันเครื่องลงไป
3. ระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ควรตรวจเช็คระดับน้ำกลั่น แบตเตอรี่ ให้อยู่ในตำแหน่ง UPPER/LEVEL และไม่ควรเติมเกิน กว่าระดับ UPPER/LEVEL เพราะถ้าเติม มากเกินไป น้ำยาอิเลคโทรไลท์ซึ่งเป็นสารละลายกรด ซัลฟูริค จะเจือจางทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง นอกจากนี้ น้ำยาอิเลคโทรไลท์อาจจะกระเด็นออกทาง รูระบายไอ และไปกัดกร่อนชิ้นส่วนต่างๆ ในห้องเครื่องยนต์ได้
ข้อควรระวัง
- ปิดฝาเติมน้ำกลั่นให้แน่น
- ขั้วแบตเตอรี่ที่ขั้วบวกและลบขันแน่น
- แบตเตอรี่ยึดแน่นกับฐานที่ตั้ง
4. ระดับน้ำมันเบรค ควรตรวจเช็คด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันเบรคมีคำว่า MAX และ MIN ระดับน้ำมันเบรคควร อยู่ที่ระดับ MAX อยู่เสมอ สาเหตุที่เป็นไปได้ ที่มีผลทำให้ปริมาณน้ำมันเบรคในกระปุกน้ำมันเบรค ลดลงต่ำลงมี 2 ข้อ คือ
- มีการรั่วของน้ำมันเบรคออกจากระบบเบรค
- การสึกหรอของผ้าเบรค ซึ่งระดับน้ำมันเบรคจะลดลงน้อย และช้ามาก ในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันเบรคถ้าพบว่าระดับน้ำมันเบรคในกระปุกน้ำ มันเบรค ลดลงต่ำลงรวดเร็ว ควรนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจ เช็คสาเหตุ
5. ระดับน้ำมันคลัทช์ ควรตรวจเช็คด้วยสายตา สังเกตดูที่กระปุกน้ำมันคลัทช์ จะมีคำว่า MAX กับ MIN ระดับน้ำมันคลัชท์ ควรอยู่ที่ระดับ MAX เสมอ ถ้าพบว่าระดับ น้ำมันคลัทช์ในกระปุกลดลงต่ำลง ควรนำรถเข้าศูนย์ บริการ เพื่อตรวจเช็คหาสาเหตุ
6. ระดับน้ำมันเกียร์ AUTO ควรตรวจเช็คขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยการดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ AUTO ออกเช็คน้ำมันเกียร์ ที่ติดก้านวัดด้วยผ้า แล้วเสียบก้านวัด น้ำมันเกียร์คืนกลับจุดเดิม ดึงก้านวัดออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจระดับน้ำมันเกียร์ที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมัน เกียร์อยู่ที่ขีด F พอดี แสดงว่าระดับน้ำมันเกียร์ปกติ
7. ตรวจเช็คระดับน้ำมัน POWER ควรตรวจเช็คขณะที่เครื่องยนต์ติดอยู่ โดยการหมุนฝาปิดกระปุกน้ำมันPOWER จะติด อยู่กับฝากระปุกน้ำมัน POWER ที่ก้าน วัดจะมีคำว่า HOT และ COLD อยู่คนละด้าน ถ้าวัดตอนที่ เครื่องยนต์ยังเย็นอยู่ให้ดูด้าน COLD ถ้าวัดตอนเครื่อง ร้อนให้ดูด้าน HOT ถ้าเป็นรุ่นใหม่ให้ดูที่กระปุกน้ำมัน POWER จะเป็นพลาสติกใส ที่กระปุกจะมีคำว่า HOT และ COLD อยู่คนละด้าน และมีขีดระดับ MAX กับ MIN อยู่ด้วยระดับน้ำมัน POWER ควรอยู่ระดับ MAX เสมอ ถ้าดูตอนเครื่องยนต์เย็นให้ดูด้าน COLD และถ้าดูตอน เครื่องยนต์ร้อนให้ดูด้าน HOT
8. ตรวจเช็คสภาพของสายพาน โดยวิธีการมองดูที่สายพานถ้าพบรอยแตกเกิดขึ้น ควรทำการเปลี่ยนแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะใช้รถได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ก็ควรตรวจดูความตึง ของสายพานด้วย โดยการใช้นิ้วกดลงบนสายพานตรงกลาง ระหว่างมู่เล่สองข้าง ถ้าสามารถกดลงได้เล็กน้อย ประมาณ 10 มม. ก็น่าจะพอใช้ได้ ( ถ้าไม่แน่ใจควรให้ช่างตรวจสอบ เพราะการตรวจด้วยวิธีดังกล่าว ผู้ตรวจต้องมีความชำนาญ พอสมควร )
9. ตรวจเช็คสภาพภายในห้องเครื่อง โดยวิธีการมองดูรอบๆภายในห้องเครื่อง ให้สังเกตดูว่า มีอะไรผิดปกติหรือไม่ เช่น ท่อยางหม้อน้ำมีคราบน้ำซึมหรือไม่ สายไฟภายใน ห้องเครื่องเรียบร้อยดีหรือไม่ มีหนูขึ้นมากัดหรือไม่ มีคราบ น้ำมันเครื่องรั่วซึมหรือไม่ เป็นต้น
10. ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง และไฟสัญญาณต่างๆ เปิดไฟทั้งหมดดูว่าทำงานตามปกติหรือไม่ มีหลอดไหนไม่ติด หรือไม่ ถ้าพบว่ามีไฟหลอดไหนไม่ติดควรเปลี่ยน ให้อยู่สภาพพร้อมใช้งาน หรือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อ ตรวจเช็ค
11. ตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝน ยางปัดน้ำฝนเมื่อใช้ไประยะหนึ่ง ก็อาจมีการเสื่อมสภาพ ซึ่งเนื่องมาจากสาเหตุเหล่านี้
- ผิวสัมผัสส่วนปลายมีการสึกหรอ จากการทำงานปกติของ ใบปัด
- มีสิ่งสกปรก และหินทรายละเอียดอยู่ระหว่างยางใบปัดกับกระจกทำให้ยางปัดน้ำฝนสึกหรอ
- เมื่อใบปัดน้ำฝนผ่านการใช้งานนานๆ ยางใบปัดน้ำฝน จะแข็งตัว การยืดหยุ่นจะลดลง และความบกพร่องในการ ปัดจะเกิดขึ้น เนื่องจากหน้าสัมผัสระหว่างยางใบปัดกับ กระจกไม่ดี รวมทั้งอาจเกิดจากใบปัดน้ำฝนเกิดอาการ สั่นเต้น หรืออาการอื่นๆ ถ้าพบอาการเหล่านี้ควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนใหม่
ขอบคุณ : rakcar.com
45
ข่าวสาร Honda Civic ทั่วโลก / เปิดตัวรถยนต์ออกมาให้เห็นโฉมหน้ากันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ All-New Honda Civic 2012 (รุ่น Prod
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2011, 02:53:01 PM »เปิดตัวรถยนต์ออกมาให้เห็นโฉมหน้ากันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ All-New Honda Civic 2012 (รุ่น Production หรือผลิตเชิงพาณิชย์ ที่ไม่ใช่ Concept Car ที่เปิดตัวไปในงาน Detroit Auto Show) อย่างไรก็ตามตามภาพที่เห็นนี้ อาจจะต้องพูดว่า นึกว่าโฉมเดิม ทั้งๆที่จริงแล้วมันคือ Civic เจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่ได้รับการออกแบบใหม่แบบยกคัน และมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการใช้โฉมนี้สำหรับประเทศไทย ถ้า Honda ตัดสินใจเดินตามกลยุทธ์เดิมที่ใช้กับ Accord และ CR-V รุ่นล่าสุด
เมื่อเปรียบเทียบเจ้า Civic Concept ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมากับเจ้า Civic รุ่น Production นี้ ก็จะพบความแตกต่างในรายละเอียดจาก Civic Concept อย่างแน่นอน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Concept Car มักจะดูดีกว่า Production Car เสมอ ซึ่งสำหรับคนไทยแล้ว มันคือการเปลี่ยนโฉมไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งหลายๆ ท่านอาจจะได้ความรู้สึกของ Civic ที่ตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แต่สำหรับคนอเมริกัน Civic โฉมล่าสุดนี้ช่างคล้ายกับรุ่นก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่ภายนอกเท่านั้น แต่ภายในโดยเฉพาะแผงหน้าปัดก็ดูไม่แตกต่างกันสมกับการที่เป็นโมเดลเชนจ์เลย
สำหรับ Civic เจนเนอเรชั่นนี้จะมีหลายเวอร์ชั่นให้เลือกซื้อคือ มีทั้งเวอร์ชั่นซีดาน และคูเป้ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร แบบเดิม เวอร์ชั่น HF (High Fuel economy) ที่ประหยัดน้ำมันเป็นพิเศษ ซึ่งใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตรเหมือนกัน นอกจากนั้นยังมีเวอร์ชั่นสมรรถนะ Si อีก 2 รุ่น เวอร์ชั่นไฮบริดตามสมัยนิยม และสุดท้ายคือ เวอร์ชั่นติดแก๊สธรรมชาติ
ด้านรายละเอียดสเปคของฮอนด้า ซีวิครุ่นต่างๆนั้น Civic HF จะใช้ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ i-VTEC 1.8 ลิตร ผลิตกำลังสูงสุดได้ 140 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 41 ไมล์/แกลลอน เหมาะสำหรับการขับนอกเมือง ส่วนรุ่นที่ประหยัดน้ำมันที่สุดตกอยู่กับรุ่น Civic Hybrid ซึ่งเป็นการใช้ชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นแหล่งจ่ายไฟเป็นครั้งแรก และมาพร้อมกับเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตรที่ให้กำลัง 110 แรงม้า ซึ่ง Honda คาดว่า Civic Hybrid รุ่นนี้จะผ่านมาตรฐานอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ EPA ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 45 ไมล์/แกลลอน ดีขึ้นกว่า Civic Hybrid รุ่นปี 2011 อยู่ 4 ไมล์/แกลลอน ทั้งนี้ Civic HF และ Hybrid จะได้รับการติดตั้งแอโรพาร์ท ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และจะมาพร้อมกับระบบ ECO Assist ของ Honda อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Honda จะเปิดรายละเอียดอื่นๆ ของ All-New Honda Civic เวอร์ชั่นอเมริกานี้ก่อนที่จะเริ่มมีการจำหน่ายในฤดูใบไม้ผลิปีนี้ที่อเมริกาครับ
สำหรับแฟนๆ Honda ในบ้านเราคงต้องอดใจรอไปก่อน แต่ก็ไม่แน่ที่อาจจะมีการเปิดตัวรถยนต์ Honda Civic 2012 ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปร 2554 (Motor Expo 2011) ในปลายปีนี้นี้ ซึ่งอันนี้แฟนๆ Honda คงต้องติดตามกันต่อไปครับ
http://www.3mautofilm.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7_%20All%20New%20Honda%20Civic%202012