สวัสดี บุคคลทั่วไป

สภาพอากาศในบ้านบริสุทธิ์ง่ายๆ ด้วยที่กรองอากาศ

  • 0 ตอบ
  • 292 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
            เดี๋ยวนี้อากาศที่เราสูดไปเกือบคืออากาศที่มีแต่ละอองรวมถึงสารพิษที่ปะปนเข้าในนั้นอาจกระตุ้นให้ไม่สบายง่าย หรือไม่ก็หายใจไม่ง่ายได้ อย่างนั้นการที่เข้าอยู่อยู่ในมลพิษสิ่งโสโครกเราจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จำต้องหายใจอากาศเอาพวกนั้นเข้าไปภายในสังขาร
            อย่างไรก็ดีเมื่อเรากลับที่พักอาศัยคุณเป็นไปได้ว่าคิดว่าสภาพอากาศด้านในที่อาศัยสะอาดสะอ้านกว่านอกบ้านก็จริงอยู่แต่และยังมีฝุ่นผงมาจากสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านที่บางทีเราคงจะเห็นว่าก็ซักล้างอยู่บ่อยๆ หรือว่าที่เกาะมากับเครื่องแต่งตัวเราที่ไปข้างนอกมาตลอดทั้งวัน สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้คุณจำเป็นต้องอยู่กับมลภาวะตลอดเวลา ดังนั้นคุณก็เลยต้องมีตัวช่วยที่เรียกว่า เครื่องฟอกอากาศ เอาไว้ภายในบ้านสำหรับที่จะช่วยให้บ้านสะอาดอีกทั้งเราได้อากาศใสสะอาดมั่งภายในแต่ละวัน
            โดยที่กรองสภาพอากาศที่ใช้ภายในบ้านมีอยู่ 4 ประเภทด้วยกันตัวอย่างเช่น 1. เครื่องฟอกอากาศรูปแบบใช้งานแผ่นสกัดคาร์บอน (Carbon Air Purifiers) โดยโดยทั่วไปแล้วล่ะก็คาร์บอนมีคุณลักษณะสำหรับดูดสิ่งสกปรกกับกลิ่นอยู่แล้วจึงเกิดการเอามาผลิตเป็นไส้กรองอากาศที่ประกอบด้วยคาร์บอนให้ทำงานภายในกรรมวิธีกรองสภาพอากาศ 2. ที่ฟอกสภาพอากาศแบบใช้งานประจุไฟฟ้า (Ionic Air Purifiers) โดยเครื่องกรองสภาพอากาศแบบนี้มีการเลือกประจุไฟฟ้ามาใช้งานสำหรับดักจับฝุ่นละอองทั้งหลาย ก็เพราะว่าประจุไฟฟ้าสามารถดักจับอนุภาคดีแม้ว่าจะมีผงเล็กมากก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นแบบปกติ ขนสัตว์ หรือแม้กระทั่งควันไฟบุหรี่ ช่วยให้เครื่องกรองอากาศกระนี้เหมาะกับผู้บริโภคที่มีเรื่องมีราวเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ไม่ก็เป็นภูมิแพ้ 3. เครื่องกรองอากาศลักษณะสมรรถนะในการสกัดดี (High Efficiency Particle Arresting) หรือที่เรียกว่า HEPA คือที่กรองอากาศที่คุณภาพในการสกัดสภาพอากาศดีมากก็เพราะว่าส่วนไส้กรองทำเข้ามาจากใยแก้วละเอียด สามารถกรองอากาศให้สะอาดมากที่สุด 99% อย่างไรก็ดีข้อบกพร่องก็คือไม่สามารถดูดซึมควันหรือซึมซับกลิ่นได้ ถือเป็นที่ฟอกอากาศที่มักใช้งานข้างในโรงพยาบาลหรือโรงงานบางอย่าง โดยที่กรองอายุการทำงานนานถึง 4 ปี  4. เครื่องฟอกอากาศแบบผสมผสาน คือเครื่องกรองสภาพอากาศที่รูปแบบประสม 2 หน่วยไปด้วยกันคงจะคือผสมใน Carbon และ Ionic หรือ HEPA กับ Ionic ก็ได้ตามใจว่าผู้ประกอบการมุ่งหวังให้ที่ฟอกสภาพอากาศใช้งานออกภายในแบบใด
            เทียบกับประเภทที่ฟอกอากาศทั้งหมดที่มีที่พูดถึงอาจจะได้มีทุกคนงุนงงว่าแล้วจะกอบด้วยแนวทางการคัดที่ฟอกสภาพอากาศอย่างไรเพื่อที่จะเหมาะสำหรับตัวเองที่สุด ข้อแรกควรจะคุ้นเคยอากาศข้างในที่พักตนเองก่อนว่าประเภทสภาพอากาศรอบๆ บ้านเป็นยังไง ที่มีขี้ฝุ่นเยอะหรือเปล่า หรือมีกลิ่นเหม็นหรือไม่ก็เลยค่อยเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศถัดจากนั้นที่การคัดตัวเครื่องฟอกสภาพอากาศโดยที่อันมีคุณภาพน่าจะต้องมี  2 ระบบภายในเพียงอันเดียวก็คือ  กรองละออง ดักละออง รวมทั้งซึมซับกลิ่นภายในเพียงอันเดียว รวมไปถึงมีแรงที่ช่วยดึงสภาพอากาศรอบๆ เพื่อที่จะไปฟอกพร้อมทั้งปลดปล่อยสภาพอากาศบริสุทธิ์ออก เช็คดูให้ดีว่าหน่วยกรองอากาศรวมทั้งแผ่นกรองเป็นรูปแบบที่เราตั้งใจหรือไม่พร้อมด้วยเป็นไปได้ว่าเอาไปซักล้างได้ไม่ยากหรือไม่รวมทั้งพวกมูลค่าแผ่นกรองเป็นแบบไหนเพื่อที่เวลาแผ่นกรองหมดเขตจะสามารถซื้อได้ไม่ยาก หลังสุดก็คือการวิเคราะห์ตัวเลขที่เรียกว่า  CADR (Clean  Air  Delivery  Rate)  ค่านี้ก็คือค่าในส่วนตรวจวัดประสิทธิภาพสำหรับทำงานสำหรับเครื่องฟอกสภาพอากาศโดยที่ตัวเลขนี้จะเพิ่มสูงขึ้นถ้าหากมีผู้ใช้งานอยู่ที่ห้อง
            เรื่องสำหรับการทำงานพร้อมกับการบำรุงรักษาก็คือ การใช้งานของเครื่องฟอกสภาพอากาศควรจะปิดห้องให้เครื่องทำงานทิ้งไว้ก่อนที่จะเข้าไปในห้องเพื่อให้สภาพอากาศหมดจดก่อนหน้า ส่วนการดูแลชะล้างก็คือพึงทำความสะอาดที่กรองขั้นต่ำทุก  3 เดือน  ด้วยการนำมาชำระล้างแล้วก็แล้วก็ตากให้หายชื้น  เพื่อให้ฆ่าไวรัส  หรือว่าชะล้างดังที่คู่มือการใช้ชี้ตัวไว้ แต่ว่าสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการเก็บกวาดประจำ ก็ควรจะเลือกใช้แบบประจุไฟฟ้า ก็เพราะว่าถึงแม้จะมูลค่าสูงกว่ารูปแบบอื่นแต่ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บกวาดประจำไปจนถึงดูแลง่าย
จะเห็นว่าเครื่องกรองสภาพอากาศมีอยู่หลายชนิดพร้อมกับวิธีการเพื่อเลือกให้เหมาะกับการทำงานก็ไม่ได้ยากเหมือนที่คิดไว้นอกจากการดูแลรักษาความสะอาดยังง่ายมากอีกเช่นกัน โดยเครื่องฟอกสภาพอากาศมีให้เลือกสรรกันหลายแบรนด์ด้วยกันตัวอย่างเช่น Sharp , Philip , Dyson ,Blueair ฯลฯ มีตั้งแต่ราคา 2-3พันบาทรวมถึง 4-5 หมื่นเลยทีเดียว
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เครื่องฟอกอากาศ ราคา

Tags : เครื่องฟอกอากาศ,เครื่องฟอกอากาศ ราคา,เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี