สวัสดี บุคคลทั่วไป

โรคทริคิโนสิส

  • 0 ตอบ
  • 345 อ่าน
โรคทริคิโนสิส
« เมื่อ: กรกฎาคม 11, 2018, 03:54:28 AM »
โรคทริคิโนสิส   UFABET(Trichinosis) จะแพร่มาสู่คนได้โดยการกินเนื้อสัตว์ ที่มีตัวอ่อนของพยาธิในถุงหุ้มห่อที่แฝงอยู่ในกล้ามดิบๆหรือดิบๆสุกๆยกตัวอย่างเช่น ลาบ แหนม หลู้ ก้อย น้ำตก จากนั้นพยาธิจะเข้าไปในร่างกาย ถูกย่อยในกระเพาะ ถุงหุ้มห่อตัวพยาธิจะถูกย่อยออก ทำให้พยาธิออกมาเติบโต เป็นตัวเต็มวัยภายใน 2-3 วัน ซึ่งจะขยายพันธุ์กันในลำไส้เล็ก ออกลูกเป็นตัวอ่อนเยอะมาก พยาธิตัวเมีย 1ตัว จะออกตัวอ่อนได้ราว1,000 –1,500 ตัว หรือมากถึง 10,000 ตัว ขนาดความยาวของตัวอ่อน 0.8-1 มม. พยาธิตัวอ่อนจะไชเข้าไปในระบบน้ำเหลือง และจากนั้นก็เข้าระบบหมุนวนเลือด ตอนท้ายจะแพร่ไปทั่วร่างกาย ถัดจากนั้นจะเข้าไปฝังตัวอยู่ตามกล้ามต่างๆกล้ามที่พบได้บ่อยเป็นเครื่องกั้นลม กล้ามเนื้อตา กล้ามที่อยู่ระหว่างกระดูกซี่โครง กล้ามแก้ม ลิ้น และน่องยิ่งกว่านั้นยังพบในอวัยวะอื่นของร่างกาย อาทิเช่น กล้ามเนื้อหัวใจ ปอด สมอง ตับ ตับอ่อน และไต พยาธิตัวอ่อนที่ขดตัวอยู่ในกล้ามจะสร้างถุงหุ้มห่อหรือซิสต์ (cyst) ล้อมและก็จะมีการจับตัวของหินปูน ใน 1 เดือนด้านหลังการต่อว่าดพยาธิ พยาธิตัวอ่อนในถุงหุ้มห่อนี้อาจมีชีวิตอยู่ในตัวสัตว์ได้นานถึง 11-24 ปี แต่ว่าจะไม่มีการเจริญเติบโตจวบจนกระทั่งเนื้อสัตว์ที่มีถุงหุ้มห่อของพยาธิจะถูกกินเข้าไป
แม้กระนั้นอาจมีพยาธิตัวอ่อนบางตัวไม่เติบโตเป็นพยาธิตัวแก่ในลำไส้เล็กหากแม้จะถูกขับออกมากับอุจจาระ ในกรณีแบบงี้สัตว์อื่นสามารถติดเชื้อได้โดยการกินอุจจาระที่มีตัวอ่อนพยาธิปนเปื้อน



อาการ

อาการโรคในสัตว์สังกัดความรุนแรงของโรค ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนพยาธิที่ได้รับเข้าไป ในหมูถ้าหากได้รับพยาธิไม่ล้นหลาม จะไม่ออกอาการผิดปกติให้แลเห็น แต่ในรายที่ได้รับพยาธิจำนวนมากจะทำให้หมูไม่สบาย ตัวอย่างเช่น จับไข้ ซึม เบื่ออาหาร ผอมโซ หายใจติดขัด บวมตามหน้า เจ็บตามกล้าม มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของขา โดยเฉพาะขาด้านหลังจะแข็งทำให้มีความลำเค็ญในการลุกขึ้นยืนหรือเดิน มีขนแข็งกระด้าง ในสุนัขแล้วก็แมว ถ้าได้รับพยาธิจำนวนมาก จะมีน้ำลายไหล ปวดกล้ามจำนวนมากจนกระทั่งไม่สามารถที่จะจะเดินได้ จะมีขนแข็งกระด้าง

ลักษณะของโรคในคนแบ่งเป็น 3 ระยะเป็น
ระยะที่ 1 พยาธิตัวแก่อยู่ในลำไส้เล็ก ในขณะนี้ผู้เจ็บป่วยจะมีลักษณะของโรคทางเดินอาหาร ได้แก่อาการปวดท้อง อาเจียน อาเจียน ท้องเดิน และก็อาจมีอาการเหน็ดเหนื่อย อาการกลุ่มนี้อาจเกิดขึ้นข้างใน 24 ชั่วโมงด้านหลังเปลืองเนื้อที่มีพยาธิเข้าไป ปัจจุบันนี้ใช้เวลาราว1 อาทิตย์

ระยะที่ 2 ตัวอ่อนของพยาธิเกลื่อนกลาดกระจุยกระจายไปทั่วร่างกาย รวมทั้งไชเข้ากล้าม ผู้ป่วยจะมีลักษณะไข้สูง ปวดกล้ามมากมายก่ายกอง หายใจติดขัด บดอาหารตรากตรำ กลืนอาหารและก็น้ำตรากตรำ เปลือกตาบวม ตาแดง เลือดออกใต้ตา ปวดตามกล้าม หายใจติดขัด ขึ้นอยู่กับกล้ามส่วนใดถูกพยาธิตัวอ่อนไช คนบาดเจ็บบางรายมีลักษณะผื่นขึ้นเรียกตัว เลือดออกใต้เล็บ บางรายมีลักษณะอาการของเยื่อหุ้มสมองรวมทั้งสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือปอดอักเสบ ซึ่งอาจรุนแรงกระทั่งแก่ชีวิตได้ ขณะนี้พบได้ตั้งแต่ราว อาทิตย์ที่ 2 ถึงอาทิตย์ที่ 6 วันหลังได้รับพยาธิ

ระยะที่ 3 จะพบระหว่างที่พยาธิตัวอ่อนเริ่มสร้างถุงห่อในอาทิตย์ที่ 6 หลังจากได้รับพยาธิเป็นต้นไป เดี๋ยวนี้รูปแบบของคนเจ็บจะดีขึ้น แต่ว่าอาจมีอาการปวดตามกล้าม รวมทั้งอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปอีกนาน

อย่างไรก็แล้วแต่ มีอยู่หลายรายที่ได้รับเชื้อแล้วไม่มีอาการ สามารถตรวจพบพยาธิได้โดยการตรวจชิ้นเนื้อหลังจากถึงแก่ความตายไปแล้ว


การวินิจฉัยโรค
โดยทั่วไปควรมี

1. เรื่องราวรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ดิบ หรือดิบๆสุกๆ

2. ลักษณะของโรคทริคิโนสิส ได้แก่ เป็นไข้สูง อาเจียน อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน ตาบวม ปวดตามกล้าม และก็เลือดออกตามผิวหนัง

3. การพิสูจน์เลือดทางห้องแลป พบเม็ดเลือดขาวชนิด Eosinophil (อีโอสิโนฟิล) สูงขึ้นกว่าปกติเยอะมาก

4. การตรวจทางปาราสิตวิทยา (parasitological examination) การตัดชิ้นเนื้อจากกล้ามไปตรวจ อาจมองดูสดโดยใช้กระจกสไลด์ 2 แผ่นกดกล้ามให้บางที่สุด พบพยาธิตัวอ่อนม้วนอยู่ในถุงหุ้มห่อกล้าม หรือใช้น้ำย่อยเทียม (acid-pepsin) แล้วเอามาตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ (microscope)

5. การตรวจภูมิคุ้มกันในซีรั่ม (serological examination) ตัวอย่างเช่นการตรวจโดยการทดสอบผิวหนังหรือโดยทางอีไลซ่า (ELISA)

6. การตรวจทางด้านชีวโมเลกุล (molecular examination) เช่น กลวิธีคอมพิวเตอร์ส่วนตัวอาร์ (PCR)

การคุ้มครองและก็ควบคุม

1. เพราะว่าโรคทริคิโนซีสเป็นโรคสัตว์ที่สามารถติดต่อถึงคนได้ โดยการบริโภคเนื้อหมูหรือเนื้อสัตว์จำพวกอื่นที่มีพยาธิตัวอ่อนเข้าไป ด้วยวิธีการทำกับข้าวครึ่งดิบครึ่งสุกอาทิเช่น ลาบ แหนม อื่นๆอีกมากมาย เพราะฉะนั้นควรแนะนำให้ผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงปรุงอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ให้สุกก่อนบริโภค ด้วยการต้มให้เดือดนาน 30 นาที ต่อเนื้อหนัก 1 กิโล ก็เลยจะฆ่าพยาธิตัวอ่อนที่อยู่ในเนื้อได้
2. การเลี้ยงหมูจะต้องเลี้ยงในคอกที่แข็งแรง หรือในบริเวณที่จำกัด ไม่ปล่อยให้หมูเพ่นพ่านท่องเที่ยวอาหารกินเอง
3. น่าจะให้อาหารหมูด้วยอาหารสำหรับหมูโดยตรง หากใช้เศษอาหารนำไปเลี้ยงหมูจะต้องต้มให้สุก เพื่อทำลายพยาธิตัวอ่อนที่อยู่ในเศษเนื้อหมูที่อาจติดมากับอาหารได้
4. กำจัดสัตว์อื่นที่เป็นตัวแพร่โรคได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนู ด้วยเหตุว่าหมูสามารถติดโรคได้โดยการกินหนูตาย หรือซากหนูที่มีพยาธิเข้าไป หากว่าสัตว์เลี้ยงในบริเวณที่มีการระบาดเกิดตายลงอาทิเช่น สุนัข แมว จะต้องฝังให้มิดชิด กลบด้วยปูนผสมดิน
5. จริงจังการย้ายที่หมูในเขตที่มีโรคระบาด กรรมวิธีที่ยอดเยี่ยมก็คือ ทำลายหมูที่สงสัยว่าเป็นโรคทั้งหมด ด้วยการเผาหรือฝังให้ลึก
6. ไม่ซื้อหมูจากแหล่งที่เป็นโรค หรือเคยเกิดโรคระบาดมาเลี้ยง


บทความที่เกี่ยวโยง

http://ufabetthgmailg.blogspot.com/2018/06/blog-post_25.html

http://ufabetthgmailg.blogspot.com/2018/06/blog-post.html

http://ufabetthgmailg.blogspot.com/2018/06/blog-post_25.html


http://ufabetthgmailg.blogspot.com/2018/06/blog-post_1.html

http://ufabetth123415.blogspot.com/2018/06/blog-post_25.html

http://ufabetth123415.blogspot.com/2018/06/blog-post_48.html

https://ufabetth57002989.wordpress.com/2018/06/26/%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%81/

https://ufabetth573fr.wordpress.com/2018/06/26/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b9%81%e0%b8%94%e0%b8%87/

https://ufabetthgbzd.wordpress.com/2018/06/26/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%84%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%99/

https://ufabetth54rwes.wordpress.com/2018/06/26/%e0%b9%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%aa%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%9a%e0%b8%9a%e0%b8%b5/


https://ufabetthzdghz.wordpress.com/2018/07/05/%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%aa%e0%b8%95%e0%b8%b1/