สวัสดี บุคคลทั่วไป

เครื่องดูดฝุ่น ทางเลือกของการทำงานบ้าน

  • 0 ตอบ
  • 301 อ่าน
            ที่ดูดฝุ่นถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำที่อยู่อาศัยเลยก็เป็นไปได้ ก็เพราะว่าใช้สะดวก สะดวก และยังทำให้ลดเวลาในการเก็บกวาดที่พักอาศัยทำให้เกือบจะทุกๆที่อยู่อาศัยจำเป็นจะต้องมีเครื่องดูดฝุ่นไว้ติดที่พัก แต่แต่อย่างไรก็ตามการที่จะเลือกที่ดูดฝุ่นเพื่อที่จะเอามาใช้งานซักเครื่องต้องมีเหตุผลหลายเรื่องเข้ามาเกี่ยวข้องในการเลือกซื้อให้เหมาะกับการทำงานดังนั้นมาดูกันว่าจะต้องมีรูปแบบในการตัดสินใจซื้อบวกกับมียี่ห้อไหนเสนอแนะกันบ้าง
            ข้อแรกคือ แบบของที่ดูดฝุ่น เป็นเรื่องที่จำเป็นเพราะว่าชนิดสำหรับเครื่องดูดฝุ่นที่ต่างกันก็เหมาะกับการทำงานที่ต่างกันออกไป ที่ดูดฝุ่นประกอบด้วย 4 ชนิด
1.) ที่ดูดฝุ่นประเภทแห้ง เหมาะสำหรับการทำงานที่ห้องทั่วๆ ไป แต่ว่าไม่เหมาะสำหรับบนพื้นพรม ด้วยความที่กำลังในการดูดฝุ่นไม่มาก
2.)  เครื่องดูดฝุ่นไม่มีสาย มุ่งเน้นความคล่องตัวสำหรับใช้ เพราะต้องชาร์จแบตเตอรี่ก่อนเอาไปใช้ รวมถึงน้ำหนักเบาใช้งานไม่ยาก เหมาะกับห้องที่บริเวณน้อย
3.) เครื่องดูดฝุ่นมือถือ ที่ดูดฝุ่นขนาดย่อม น้ำหนักเบา ไม่มีถุงเก็บฝุ่น สะดวกสบายสำหรับการทำงานสำหรับพื้นที่ไม่ใหญ่มาก อย่างเช่น รถยนต์
4.) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ทำให้ทำให้สะอาดอัตโนมัติได้ด้วยการตั้งรายการ และยังช่วยเข้าถึงบริเวณที่มุ่งหวังทำความสะอาดได้ง่ายดาย พร้อมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับเครื่องกีดขวางพร้อมทั้งยางกันชน
            ประเด็นถัดมา สถานที่ในการทำงาน ถือเป็นประเด็นที่ควรจะเอามาคิดเพราะว่าจะคือปัจจัยสำคัญสำหรับการเลือกความจุของเครื่องดูดฝุ่น รวมทั้งที่พักอาศัยของเรามีมุมอับหรือเปล่า ถ้าซื้อเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กเกินพอดีทำให้ที่ดูดฝุ่นใช้งานมากไป ทำความสะอาดได้ไม่ดี รวมถึงกระตุ้นพังเร็วกว่าเดิม
อย่างถัดมา ประเด็นของฟังก์ชั่น รวมทั้งความสามารถในการทำความสะอาดของที่ดูดฝุ่น ในส่วนนี้จำเป็นต้องดูเริ่มตั้งแต่กำลังไฟ ซึ่งจำเป็นต้องจำเป็นจะต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งานเพราะถ้าหากแรงไฟต่ำก็มีผลต่อแรงเพื่อดูดฝุ่น ถัดมาเป็นพวกโครงสร้างต่างๆ ในแต่ละแบรนด์กับทุกรุ่นก็มักมีโครงสร้างที่ต่างกันไป อย่างเช่น ทำให้อัดฝุ่นละอองให้เป็นก้อนเพื่อให้ไม่ยากต่อการเก็บกวาด หรือไม่ก็มีระบบการกรองมากชั้นสำหรับไม่ให้ฝุ่นออกจากเครื่อง เป็นต้น เราจึงควรเช็คว่าที่ดูดฝุ่นแบบใดที่ตอบโจทย์เราที่สุด
            สุดท้ายก็คือ เรื่องเกี่ยวกับคุณภาพ มูลค่า รวมทั้งอายุการใช้งาน ถือเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาว่าประสิทธิภาพกับราคาดำเนินไปในทิศทางดียวกันหรือเปล่ารวมทั้งคุ้มที่จะซื้อไปใช้หรือไม่เพราะสิ่งที่ตามมาคืออายุใช้งานถ้าหากซื้อของที่ผิดในการใช้งานไปทำให้อายุใช้งานสั้นลงรวมทั้งนับว่าเป็นการสิ้นเปลือง
เครื่องดูดฝุ่นที่น่าสนใจที่จะนำมาเสนอแนะ ได้แก่

  • HITACHI เครื่องดูดฝุ่นรูปแบบกล่อง รุ่น CV-SH20V แรงมอเตอร์ 2000 วัตต์ น้ำหนัก9 กิโลกรัม ทำให้เราขจัดฝุ่นได้การรับรองประสิทธิภาพด้วยสถาบันโรคภูมิแพ้ ในประเทศอังกฤษ (Allergy UK) กล่องใส่ฝุ่นไซโคลน ปริมาตรขนาด 1.6 ลิตร กดอัดฝุ่นละอองเป็นก้อนทำให้ง่ายในการทำลาย ไม่ฟุ้ง เพราะระบบกรองฝุ่นละออง 7 ขั้นตอน พร้อมด้วยแผ่นกรองเฮป้า รวมถึงนาโน ไททาเนียม ดักจับกลิ่น ตัดการทำงานโดยทันทีหากเครื่องร้อน สนนราคา 4,190 บาท
  • PHILIPS หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ประเภท FC8822/01 พร้อมด้วยระบบ SMART DETECTION SYSTEM เปลี่ยนโหมดในสภาพการณ์แวดล้อม พลังงาน LI-ION ช่วยให้ทำงานติดต่อกันมากที่สุด 120 นาที ระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอน ที่ประกอบด้วยการเช็ดเก็บฝุ่นละอองแบบแห้ง หุ่นยนต์ช่วยสำรวจพื้นที่ที่สกปรกมากสำหรับที่จะทำความสะอาดเป็นพิเศษ รวมถึงมีโหมดตรวจจับพื้นที่ที่แตกต่างกันสำหรับที่จะเก็บกวาดอย่างถูกวิธี มูลค่า 21,990 บาท
  • DYSON เครื่องดูดฝุ่นลักษณะด้ามจับ (0.54 ลิตร) รุ่น SV10(V8) Absolute PlusV8 Absolute Plus ที่ดูดฝุ่นไร้สาย พร้อมทั้งการทำงาน ครอบคลุมทุกอย่าง มีความมั่นคงแข็งแรง ใช้งานสะดวกสบาย เพราะว่าระบบพายุไซโคลนเรเดียล 2 ขั้น ที่สามารถเพิ่มเติมการไหลเวียนสำหรับอากาศและดักฝุ่นละอองขนาดเล็ก หัวทำความสะอาดรูปแบบ Direct-drive เก็บกวาดตรงเข้ากับพรมสำหรับกำจัดคราบเปื้อนที่พื้น และ หัวทำความสะอาดแบบลูกกลิ้งนิ่มออกแบบเพื่อที่เหมาะกับพื้นแข็ง แล้วยังพร้อมกับระบบกรองประเภทถอดออกไปชำระล้างได้ด้วย ในมูลค่า 28,900 บาท


จะเห็นได้ว่า แบรนด์ทุกๆยี่ห้อมุ่งมั่นพัฒนาพร้อมด้วยใส่เทคโนโลยีไม่ซ้ำ เข้าไปเพื่อให้สบายแก่ผู้ซื้อ ดังนั้นแล้ว การตัดสินใจซื้อเครื่องดูดฝุ่นซักอันให้เหมาะกับการทำงานก็เลยไม่ได้เป็นเรื่องยุ่งยากอีกต่อไป

Tags : เครื่องดูดฝุ่น,เครื่องดูดฝุ่น ราคา,เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี