สวัสดี บุคคลทั่วไป

ทำความรู้จักมักคุ้น Xiaomi มังกรหนุ่มแห่งวงการเทคโนโลยี

  • 0 ตอบ
  • 244 อ่าน
ปฎิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ มือถือจากแบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่จีนมาแรงมากไม่ใช่เล่น และเชื่อว่าในปัจจุบันนี้หลายๆ คนอาจชินหูชินตาชื่อกับ Xiaomi (เสี่ยวมี่)หนึ่งในยี่ห้อโทรศัพท์มือถือลำดับต้นๆ ของประเทศจีนที่ข้ามน้ำมาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะด้วยจุดเด่นในเรื่องศักยภาพการใช้งาน ในราคาไม่แพง แถมมาในการออกแบบพรีเมี่ยมอีกต่างหาก แม้จะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกมาไม่นานก็นับว่าประสบความสำเร็จและที่สำคัญยังต่อยอดไปในผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอื่น ๆ อีกด้วย พวกเราไปทำความรู้จักกับ Xiaomi ให้เพิ่มมากขึ้นดีกว่า
 
 ก้าวแต่เดิมของ Xiaomi เริ่มในเดือน เมษายนปี 2010 โดย Lei Jun (เหลย จุน) อดีตซีอีโอของ Kingsoft ที่เป็นบริษัทที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นทางด้านเอกสารออฟฟิศประเภท Word, Excel และ PowerPoint ระยะเริ่มต้น เสี่ยวหมี่ ยังไม่ได้ทำฮาร์ดแวร์ของตัวเอง แต่ว่าเริ่มต้นจากเป็นฝ่ายทำรอมแบบ After Market ให้มือถือแอนดรอยด์ในนาม MIUI (อ่านว่า "Me You I")
 
 ปี 2011 Xiaomi เริ่มขยายตนเองจากการทำรอม มาเป็นการผลิตฮาร์ดแวร์ของตัวเองด้วยการเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ Mi One ออกจัดจำหน่ายในเมืองจีนและสร้างความฮือฮา เนื่องจากเป็นสมาร์ทโฟนสเปกสูงในราคาไม่แพง จนกวาดยอดขายได้กว่า 7 ล้านเครื่อง เกินเป้าที่ตั้งไว้เพียงหลักแสนเครื่องเท่านั้น
 
 ในปีต่อมาก็ปล่อย Mi2 ก็พบกับยอดขายล็อตแรก 50,000 เครื่องในจีนหมดใน 3 นาที จนกระทั่งทำให้ทางบริษัทรู้สึกตัวว่าผลผลิตของตัวเองนั้นโดนใจผู้ซื้อในวงกว้างแค่ไหน
 
 และในปี 2014 Xiaomi ก้าวข้ามหลักการว่าสมาร์ทโฟนเมืองจีนผลิตเพื่ออาหมวยอาตี๋เท่านั้น โดยบุกเบิกออกไปทำตลาดโลก โดยบุกเบิกจากประเทศสิงคโปร์ ด้วยการเปิดประวัติศาตร์ในการจำหน่ายสมาร์ทโฟนบนระบบ E-commerce ที่สามารถขายหมดได้เพียงสองนาทีแรกของการเปิดขาย เมื่อได้รับการตอบสนองเกินการคาดการณ์ Xiaomi ไม่เพียงย่างก้าวต่อไปเรื่อยๆ เหมือนแผนธุรกิจของหลายๆแบรนด์ในปัจจุบันที่มุ่งหวังการกุมตลาดเฉพาะภายในประเทศและประเทศใกล้เคียงเท่านั้น อย่างเช่น ดินแดนในพื้นที่เอเชีย ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ประเทศอินเดีย แต่ว่ายังเอาจริงเอาจังไปถึงการครอบครองตลาดโลกอย่าง ตุรกี ประเทศรัสเซีย ประเทศบราซิล พร้อมด้วย แม็กซิโก เพื่อย้ำว่าสินค้าจากจีนก็มีคุณภาพที่ระดับโลกยกนิ้วให้
 
 จุดเด่นของโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และสินค้าอื่น ๆ ของทาง เสี่ยวหมี่ จะอยู่ที่สเปกของฮาร์ดแวร์พอเทียบเคียงกับราคาแล้วคุ้มมาก ตัวอย่างเช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ Mi8 ตัวตัวหลักช่วงนี้ ท่านจะได้โทรศัพท์มือถือ ชิป Snapdragon Snapdragon845, RAM 6/8 GB, ROM 64/128/256 GB กล้องถ่ายรูปข้างหลังคู่ความละเอียด 12 + 12 MP พร้อมทั้งระบบถ่ายด้วย AI ด้านกล้องข้างหน้า 20 MP รองรับสแกนลายนิ้วมือและ 3D Face Unlock รวมทั้งมี Dual GPS เพื่อความเที่ยงตรง และเร็ว ด้านแบตเตอรี่ความจุ 3400mAh ในราคาราวๆหมื่นบาทกลาง ๆ เท่านั้น
 
 ในด้านฮาร์ดแวร์ Xiaomi สร้างไปไกลกว่าสมาร์ทโฟนหรือTabletมาก บริษัททยอยเปิดตัวสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อีกหลายตัว อาทิ
 
 Mi TV 2 เป็นสมาร์ททีวี 4K ขนาด 49 นิ้ว สนนราคา 3,999 หยวน (ประมาณ 21,000 บาท) พร้อมชิปประมวลผลและกราฟิกในตัว เพื่อใช้เล่นเกม เชื่อมต่อบริการคอนเทนต์เพลิดเพลินต่างๆ
 
อุปกรณ์สุขภาพ Xiaomi ก็ขอตามเทรนด์ Wearable Device ด้วย Mi Band ที่เป็นเครื่องมือตรวจวัดค่าสุขภาพแบบใส่ประจำตัว สำหรับทดสอบจุดประสงค์การดำเนินชีวิตในแต่ละวันในราคาไม่ถึงพันบาท
 
 และอื่นๆ อีกมากโข อาทิ อุปกรณ์อย่างหูฟัง, เครื่องชั่งน้ำหนัก, กล้องแอ๊กชั่นแคม (Yi), แบตเตอรี่สำรอง, เครื่องฟอกอากาศ ฯลฯ
 
 ปี 2017 ที่ผ่านมา นับได้ว่าคือปีที่ดีของ เสี่ยวหมี่ ทั้งนี้เพราะในช่วงไตรมาสตอนท้ายของปี ถึงแม้ยอดจำหน่าย ลดน้อยลงทั่วโลก 6.3% แต่ทว่าหากเทียบเคียงกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น Xiaomi มียอดขายเพิ่มถึง 96.9% เลยทีเดียว โดยมียอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้นถึง 75% และขยายตลาดสู่ระดับสากลด้วยการสนับสนุนเข้าสู่ตลาดประเทศสเปน และสร้างยอดขายมากมายในตลาดประเทศอินเดีย ประเทศอินโดนีเซีย และสหภาพโซเวียต โดยในปี 2017 นี้ Xiaomi เป็นผู้ประกอบการลำดับ 5 ของโลกที่ผลิตสมาร์ทโฟนมากที่สุด และเป็นอันดับ 4 ของโลกในด้านยอดจำหน่าย ด้วยการทำยอดมากกว่า 1แสนล้านหยวน เลยเชียว
 
 โดย Lei Jun ผู้สร้าง และ CEO ของ Xiaomi ป่าวประกาศว่าหน้าที่สำหรับปี 2018 นี้ จะเป็นผู้ก่อตั้งในตลาดโลกและดำรงฐานะอันดับ 1 ในถิ่นฐานอย่างแดนมังกรใน 30 เดือน
 
 จะเห็นได้ว่าโมเดลการทำธุรกิจของ Xiaomi นั้น ไม่เคยที่จะคงที่และพึงพอใจกับผลที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ว่ายังคงเดินหน้าเพื่อปฏิรูปผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่ไลน์ของโทรศัพท์เคลื่อนที่ แต่ยังรวมถึงสมาร์ทแก็ดเจ็ตอื่น ๆ ด้วย หวังว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งหลักการให้ท่านผู้อ่านที่กำลังประกอบธุรกิจการค้าชี้ทางเป็นแรงบันดาลใจและปรับใช้กันนะฮะ

Tags : Xiaomi,ราคา Xiaomi,เสี่ยวหมี่