สวัสดี บุคคลทั่วไป

มองชัยชนะจากยี่ห้อทัพหน้าเทคโนโลยีที่นาม Asus

  • 0 ตอบ
  • 305 อ่าน
ในกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีในสมัยนี้ ชื่อของ Asus ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ค่อยๆ ครองใจลูกค้า จนขึ้นเป็นเบอร์ต้นๆ ของตลาดได้สำเร็จโดยเป็นทั้งผู้สร้าง และผู้ขายอะไหล่คอมพิวเตอร์, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงมือถือ, แฟบเล็ต, แท็บเล็ต หรือแม้แต่นาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) อะไรคือสิ่งที่เป็นที่ดึงดูดและเป็นจุดเริ่มชัยชนะของบริษัทจากประเทศไต้หวันแห่งนี้ มาค้นหากันได้เลยครับ
 
 บริษัท Asus ตั้งขึ้นครั้นปี 1989 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน จากผู้ชายทั้งหมด 4 คน ได้แก่ Wayne Hsieh, Ted Hsu, MT Liao และ TH Tung โดยทั้ง 4 คนนั้น ทำงานที่ Acer ด้วยกันมาก่อนจะตกลงใจลาออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง ซึ่งดำเนินกิจการเกี่ยวข้องวัสดุอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ โดยเดิมจะมาเป็นชื่อบริษัท Asus เดิมทีเดียวถูกขนานนามว่า Pegasus หมายความว่าม้าที่มีปีกในเทพนิยายกรีกโบราณ เป็นเครื่องหมายของแรงผลักดันและความรอบรู้ผู้บุกเบิกทั้ง 4 นำมายกขึ้นคือชื่อบริษัท เพื่อแทนความมุ่งหมายว่าปรารถนาจะดำเนินธุรกิจการค้าด้วยความสง่าน่านับถือ         

 ถัดจากนั้นได้เปลี่ยนแปลงนามบริษัทเป็น  Asus แทนที่ เพราะมีความหมายที่คล้องจองกัน และที่ต้องยกนิ้วในกลเม็ดด้านธุรกิจการค้าเป็นหลักการที่ว่าเมื่อค้นหาเป็นลำดับตัวหนังสือ จะพบเห็นชื่อดังกล่าวก่อนเป็นอันดับแรก
 
                 และแน่นอนว่าหากว่าเอ่ยปากถึง Asus หลายคนคงนึกถึงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ซึ่งจุดแรกเริ่มของสายการผลิตนี้อยู่ราวๆ ปี 2006 ที่ Asus ได้ผสานกับทีมรถซุปเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini ในการพัฒนาคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เน้นความไว พละกำลัง มีการใช้สีและเครื่องหมายของ Lamborghini ซึ่งโน้ตบุ๊กในรุ่นนี้ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า VX series
 
ปี 2007 Asus ก็ได้สร้างความไม่ซ้ำใครให้กับแวดวงโน้ตบุ๊กด้วยการเปิดตัว Eee PC เน็ตบุ๊กรุ่นแรกๆ ของปฐพี ในงาน Computex ที่ประเทศไต้หวัน โดยในช่วงนั้นทำให้กระแสเน็ตบุ๊กเป็นที่สนใจ และทำให้ Asus ถูกจับตาในฐานะทัพหน้าด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่นั้น
 
 ต่อมา Asus ก็ได้ผลิตโน้ตบุ๊กออกมาอีกหลากหลายรุ่น ซึ่งก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่เข้าจนในศักราช 2011 ในงาน CES Asus ได้เปิดตัว Asus Eee Pad Transformer แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android ตัวแรกที่มีหน้าจอ พร้อมด้วย Docking แป้นอักษรมาให้
 
 การจัดประเภทคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กของ Asus ใช้การแยกตามการใช้งาน อาทิ
                รุ่นมัลติมีเดียจะเป็นซีรีย์ N เน้นการใช้งานเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก
                รุ่นสำหรับเกมเมอร์จะใช้รหัสตระกูล ROG (Republic of Gamer) ที่ดีไซน์มาสำหรับการใช้งานด้านเกมโดยเฉพาะ
 
ซึ่งโน้ตบุ๊กในกลุ่มกิจการจะมี 3 ตระกูล คือ ZENBOOK เป็น Ultrabook ที่มุ่งเน้นการดีไซน์หรู มีสไตล์ VivoBook มุ่งเน้นที่ความบาง เบา Transformer Book คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่แกะหน้าจอออกมาเป็นแท็บเล็ตได้ และ TAICHI คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กพันธุ์ผสม สามารถทำได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต

 แน่นอนว่า ครั้นเมื่อเผชิญความมีชัยกับท้องตลาดโน้ตบุ๊คแล้ว  Asus ก็ต้องหันมาลุยท้องตลาดโทรศัพท์มือถือด้วย โดยเริ่มต้นจากการทำ PDA และมือถือแบบฝาพับวางขาย โดยได้เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile ส่วนมาก และยังออกฟีเจอร์ ยกตัวอย่างเช่น รุ่น "ASUS J101" ที่มีขนาดเล็ก พร้อมกับกล้องถ่ายภาพดิจิตอล 3.3 ล้านพิกเซล

 ในปี 2014 Asus ได้เปิดฉากตระกูลโทรศัพท์มือถือตัวท็อปของบริษัทในระบบปฏิบัติการ Android ที่ชื่อเสียงเรียงนามว่า Zenfone ซึ่งมีข้อเด่นที่สเปกจัดเต็มในมูลค่าที่ประหยัด โดยคำว่า Zen เป็นคำที่สอดคล้องเข้ากับคำคมหนึ่งของแดนไต้หวัน ซึ่งแปลความหมายได้ว่า การใช้ชีวิตอยู่กับในช่วงเวลาปัจจุบัน ส่วน Fone เป็นคำผสมผสานที่มาจากคำว่า Futer + Phone เปรียบเสมือนกับเป็นมือถือในอนาคต ความหมายรวมคือ วัสดุอุปกรณ์ที่ตอบความต้องการทั้งในตอนนี้และอนาคตกาล Asus ยังเนรมิตสถิติโลกให้ Zenfone ด้วยการเป็นมือถือเครื่องแรกของโลกที่มี Ram 4GB ในรุ่น Zenfone2

 ในปี 2018 Zenfone ได้จำแนกเป็นรุ่นหลักๆ ดังนี้
ZenFone 4 ได้รับการออกแบบให้บางเบา สวยงาม พกพาสะดวก
ZenFone 4 Max เป็นมือถือที่ได้รับการดีไซน์ให้เหมาะสำหรับการสัญจร เพราะแบตเตอรีมีความจุสูงถึง 4100 mAh
ZenFone4 Selfie มุ่งเน้นการถ่ายแบบถ่ายภาพตัวเองด้วยกล้องหน้าคู่ บันทึกวีดีโอได้คมชัดด้วยความละเอียดสูงถึง 4K
ZenFone Live โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องแรกของโลกที่มีเทคโนโลยีการปรับภาพให้ดูดีแบบเรียลไทม์ช่วยจ่ายเสียงกวนใจรอบกาย เหมาะกับสตรีมเมอร์
ZenFone โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ดีไซน์ออกมาเอาใจวัยแรกรุ่น

 ในส่วนของแท็บเล็ต Asus ก็ได้รับการปรับปรุงมาอย่างไม่ขาดสาย แบ่งเป็นตระกูลตามวัตถุประสงค์การใช้งานดังนี้
 
Ponepad เป็นการประสานดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานระหว่างโทรศัพท์เคลื่อนที่กับแท็บเล็ต (Fone + Pad)
Memo Pad ดีไซน์ลักษณะใกล้เคียงไดอารี่จดบันทึก สามารถจับถือได้มือเดียว และฟังก์ชั่นการใช้งานที่เอื้ออำนวยความง่ายดายให้กับผู้ใช้งาน ต่อการจดบันทึกกิจกรรมต่างๆ
Padfone ผู้ใช้งานสามารถแปลงการใช้งานจากโทรศัพท์มือถือ ให้เป็นแท็บเล็ตได้ด้วยอุปกรณ์เสริม "Padfone Station"
Transformer Pad สามารถแปลงเป็น Notebook ได้

 
ปัจจุบันนี้ Asus ได้แบ่งย่อยตนเอง ออกเป็นสามบริษัทอย่างเป็นทางการ คือ
                Pegatron บริษัทผลิตอะไหล่ เช่น เมนบอร์ด และการ์ดต่อพ่วงอื่นๆ
                Unihan เป็นผู้ประดิษฐ์เคสคอมพีซี และอุปกรณ์ต่างๆ
                Asus จะจำหน่ายเฉพาะเจาะจงผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์ Asus เดิมเท่านั้น

Tags : Asus,Asus ราคา,เอซุส