สวัสดี บุคคลทั่วไป

กล้องถ่ายภาพถ่ายรูป VS กล้องถ่ายรูปมือถือ ถ้าหนักห่างกันไม่กี่ขีด...แล้วเธอจักเลือกอะไร?

  • 0 ตอบ
  • 236 อ่าน
ครั้นสิ่งที่อยู่ข้างหน้า มันน่าจำจนต้องเก็บบันทึกออกมาเป็นรูปถ่าย และมันจักยอดเยี่ยมขึ้นอีก ครั้นในภาพมีคนพิเศษอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่จะช่วยให้คุณได้เก็บภาพความทรงจำดีๆเหล่านั้น นอกจากสมอง และหัวใจของเราแล้ว ก็ต้องเป็น "กล้อง" นั่นเอง ซึ่งในสมัยนี้ ใครก็ตาม ต่างก็มีโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องพร้อมกันมาด้วย เพราะง่ายต่อการใช้งาน มิจำเป็นสะพายกระเป๋ากล้องใบโต อีกทั้งยังมีความคมชัดไม่ได้แตกต่างไปจากกล้องถ่ายรูป DSLR หรือ Mirrorless ซะทีเดียว ทว่าความจริงนั้นมันยังมีอะไรอีกมากมายก่ายกองที่แตกต่างกันอยู่อย่างยิ่งเลยเทียว
 
อาทิเช่นเรื่องเซนเซอร์ เนื่องมาจากกล้องถ่ายรูปจักมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าเซนเซอร์ของกล้องจากโทรศัพท์มือถือ ยิ่งขนาดเซนเซอร์ใหญ่เท่าใด ก็จะเก็บแสงได้ดีกว่า ได้รายละเอียดภาพที่มากกว่า มีมิติเหนือกว่า รวมถึงทำให้ปรับความตื้นลึกของภาพได้อย่างมากมายมากกว่า เนื่องด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่อาจจะทำได้ไม่ดีเท่ากล้องถ่ายภาพเท่าไหร่นัก และสิ่งเหล่านี้ยังมีผลกระทบต่อคุณภาพของภาพที่ได้ด้วย อีกทั้งยังช่วยตัดทอน Noise หรือเม็ดสีที่แตกในภาพ โดยครั้นย้อนมาดูภาพจากกล้องถ่ายภาพมือถือก็จะพบ Noise ยิ่งกว่าภาพจากกล้องทั่วๆ ไป นั่นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเซนเซอร์จาก กล้องมือถือเล็กกว่ากล้องถ่ายรูปทั่วๆ ไป
 
หลังจากนั้นก็จะเป็น Optical zoom ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้กล้องถ่ายภาพดีกว่ากล้องถ่ายรูปจากสมาร์ทโฟน ถ้าหากเป็นการซูมของกล้องถ่ายรูป คุณสามารถปรับได้ตามความต้องการได้เลย โดยน้อยรายในหมู่แบรนด์โทรศัพท์มือถือที่จะมีสรรพคุณนี้ เพราะว่าภาพบางภาพ ก็จำเป็นจะต้องใช้การซูมแบบ Optical เพื่อให้ได้ความสัมพันธ์ของสิ่งของบนภาพที่ดียิ่ง รวมไปถึงหน่วยความจำก็ยังสำคัญ เพราะในโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเธออาจจะมีทั้งรูปถ่าย เพลง ภาพยนตร์ หรือไฟล์วิดีโอ ซึ่งนั้นเป็นปัญหาแน่นอน ถ้าหากคุณคิดว่าจะใช้กล้องโทรศัพท์มือถือชักรูปเธอตลอดทริปที่กินซ่าหรือไม่ก็พาคู่ควงท่องเที่ยว Universal Studios เพราะท่านคงจะไม่ต้องการมานั่งลบรูปถ่าย ลบบทเพลงโปรด ไม่ก็ลิสหนังโด่งดังของเธอหรอก แต่ถ้ายอมสะพายกล้องสักตัว พร้อมทั้งเมมรี่การ์ดสำรองสัก 2-3 อัน แน่นอนว่าเธอได้ทั้งภาพถ่ายที่มากมาย และไฟล์วิดีโอตลอดทั้งทริปของคุณแน่นอน
 
นั่นเป็นข้อมูลเบื้องต้นว่าทำไมเราถึงต้องยอมสะพายกล้องถ่ายภาพตัวหนัก แล้วต้องยอมพักกล้องถ่ายรูปโทรศัพท์มือถือไว้ก่อน และอาจจะพักยาวๆ เลย หากได้รู้จักกับกล้องถ่ายรูปตัวนี้ นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 III ซึ่งกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรี่ส์ OM-D ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีรุ่นพี่เป็น E-M5 และ E-M1 นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าตัวล่าสุด มันจะต้องดีกว่าตัวก่อนๆ แน่นอน เรามาดูจุดดี ๆ ของกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III ดีกว่าว่าคุ้มต่อการพกพา มากกว่ากล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือเปล่า
 
กล้องถ่ายภาพ Olympus OM-D E-M10 III เป็นกล้องถ่ายรูปเปลี่ยนเลนส์ได้ระบบ Micro Four Thirds ใช้เซนเซอร์ 4/3 Live MOS Sensor ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล และให้ภาพที่ขนาดใหญ่มากที่ 4608 x 3456 และ Ratio ที่พอดีของภาพคือ 4:3 ซึ่งเซนเซอร์ที่ว่ามานี่อาจจะมิใหญ่มาก แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี จุดหลักของกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ ในความคิดส่วนตัวน่าจะเป็นเรื่องของการระบบกันสั่นของเขา เนื่องมาจากกล้อง Olympus รุ่นนี้ เป็นระบบกันสั่น 5 แกน สามารถลดการสั่นไหวได้ถึง 4 Stop โดยหากว่าถ่ายด้วยความไวชัตเตอร์ที่ 1/10 วินาที แล้วถือถ่ายก็ยังทำได้ดีเลย
 
และด้วยความที่ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้ ที่ทำให้ระบบกันสั่น 5 แกนทำงานได้ดี นั่นก็คือ เลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ และโปรเซสเซอร์ประมวลภาพ ซึ่งกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลภาพ TruePic VIII จึงให้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงงดงามแม้ในที่แสงน้อย โดยที่เธอไม่จำเป็นตั้งค่า ISO สูงๆ ด้วยซ้ำ อีกทั้งยังป้องกันการเกิด Noise ด้วย และด้วยระบบกันสั่น 5 แกนนี้ ยังเป็นเหตุให้การบันทึกภาพยนตร์ของเธอไม่เป็นตัวปัญหาอีกด้วย โดยกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III สามารถบันทึกภาพยนต์คุณภาพสูงถึง 4K เลยเทียว ที่แม้ว่าจะถือด้วยมือ และไม่ได้มีอุปกรณ์เสริมใดๆ ก็ยังให้ภาพที่ได้ออกมาราบรื่น ถ้าเกิดสั่นไหว ก็เกิดได้น้อยที่สุด ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถแยกส่วนเฟรมสำหรับบันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ที่บันทึกไว้เช่นกัน

 จะเห็นว่านี่แค่ข้อเด่นเรื่องเดียวของกล้องถ่ายภาพ Olympus OM-D E-M10 III ก็พิชิตกล้องโทรศัพท์มือถือขาดลอยแล้ว ยิ่งไปกว่านี้ยังมีคุณลักษณะหลายอย่าง อีกมากมายเลยที่ยังมิได้พูดถึง ไม่ว่าจะเป็น โหมดถ่ายภาพ Auto ที่ให้เธอปรับตั้งค่าตามที่เจ้าต้องการ หรือโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป Scene อีกทั้งโหมดถ่ายภาพขั้นสูง Advanced Photo ที่มีให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ Live Composite, Live Time และ ถ่ายภาพซ้อน ฯลฯ และโหมด Art Filter ซึ่งก็มีให้เลือกเพียบอยู่เหมือนกัน เพื่อภาพมีความน่าสนใจมากเพิ่มขึ้น และจุดสำคัญอีกอย่างของกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ คือมีสัดส่วนที่เล็ก และพกพาง่ายมาก ซึ่งมีน้ำหนักเฉพาะแค่บอดี้แค่ 362 กรัม เพียงเท่านั้น ตัวนี้จึงสามารถลบคำสบประมาทที่ว่า "กล้องมันหนัก" ไปได้เลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กล้อง olympus

Tags : Olympus,กล้อง olympus,olympus ราคา