สวัสดี บุคคลทั่วไป

ประวัติศาสตร์วงการ Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 205 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
ประวัติศาสตร์วงการ Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: มกราคม 19, 2019, 01:35:31 AM »
                ถ้าหากท่านคือคนที่หลงรักในเสียงดนตรี หรือเสียงเพลง มั่นใจว่าคุณจะต้องรู้จักมักจี่ยี่ห้อเครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน ทั้งนี้เพราะเป็นยี่ห้อที่ได้รับความชื่นชอบอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และอื่นๆ อีกจำนวนมาก ซึ่งประวัติประวัติของยี่ห้อนี้ ถือได้ว่าเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แวดวงดนตรีRock 'n' Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยี่ห้อที่กำลังกล่าวขวัญอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยประวัติของ Marshall นั้น จักมีภูมิหลังประการใดบ้าง พร้อมกับเพราะเหตุใดถึงได้มาเป็นแบรนด์สุดยอดเช่นนี้ ดิฉันจะมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ก่อตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดแรกเริ่มอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมืออาชีพมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง ตอนหลังก็ได้ผันตนเองมาทำกิจการร้านขายเครื่องดนตรี และเครื่องไม้เครื่องมือหลายชนิด โดยเริ่มจากการขายกลองชุดอีกทั้งกีตาร์ในลอนดอนเขตแดน Hanwell โดยผู้บริโภคจำนวนมากจักเป็นนักดนตรีเพลงร็อกแอนด์โรล ที่มีความโด่งดังในยุคนั้น อย่างเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือว่าเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นเหตุที่ทำให้มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น
                ต่อจากนั้นก็เริ่มมีนักดนตรีดังๆ หลายท่านเรียกร้องแอมป์ หรือว่าเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งดังกว่าเดิม เนื่องด้วยปมปัญหาที่พบเป็นส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นเรื่องความเสียงดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอดีในการสำแดงโชว์สดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจทดลองออกมาจัดจำหน่าย และดันประสบผลขนานใหญ่ กลายเป็นการบอกเล่าปากต่อปาก กระทั่งวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาจัดทำออกมาจำหน่ายอย่างเอาจริงเอาจัง พร้อมทั้งได้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นในปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นแหล่งกำเนิดของแบรนด์ Marshall อย่างถ่องแท้
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่เป็นเหตุให้นักดนตรีทั้งหลายโปรดปราน อีกทั้งยังเอื้อนคือความเห็นเดียวกันว่าคือแอมป์กีตาร์ที่เสียงเยี่ยมเท่าที่เคยมีมา (ในสมัยนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาสร้างแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมด้วยตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความไว้วางใจจากมือกีตาร์แนวบลูส์ แนวร็อก จากวงดังๆ ระดับประวัติศาสตร์เช่นว่า The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC ฯลฯ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในยุค 60 ของ Marshall ฉบับรวบรัดตัดความ แต่กระนั้นครั้นเมื่อยุคได้ล่วงพ้นเข้าสู่ยุคดิจิตอล แบรนด์ Marshall ที่ชำนาญในวงการเครื่องเสียงก็ได้พัฒนาและหยิบยกเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าร่วมในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อทันยุค ทันสมัย อีกทั้งถูกต้องตามพระราชประสงค์ หรือตอบโจทย์ผู้ซื้อเพิ่มขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ที่เป็นสินค้าจำพวกหูฟัง เพื่อให้ผู้บริโภค หรือว่าคนทั่วๆ ไปให้ได้รับประสบการณ์การรับฟังเสียงดนตรีในแบบของ Marshall รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ประเภทลำโพงที่สามารถเชื่อมบลูทูธได้ โดยนั่นทำให้ Marshall ได้รับความนิยมอย่างเพียบเช่นเดียวกัน ด้วยสไตล์เสียงที่ไม่ซ้ำใคร และการออกแบบที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิค สละสลวย ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าสนใจ พร้อมกับจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth และลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจะมีรายละเอียดปลีกย่อยดังนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไร้สายที่มีความคลาสสิคอยู่ในตัว ดีไซน์สวยงาม ดูดีมีสไตล์ ขนาดกะทัดรัดสามารถพับได้ ทำให้พกติดตัวไปไหนต่อไหนได้สะดวก มีการเชื่อมต่ออย่างเร็วด้วย Bluetooth 4.0 แต่ว่าสามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นกัน  สามารถใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) และกินเวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ส่วนของเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องชัด มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกรายละเอียดของชิ้นส่วนดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเลิศ สมกับการเป็นสุดยอดประวัติศาสตร์ยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกแน่นอน ซึ่งหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ มูลค่าจะอยู่ที่ไม่เลย 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ที่ได้ออกค้าขายนานแล้วเช่นเดียวกัน ทว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้แย่ไปกว่าแต่แรกเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้น้ำเสียงที่กระจ่างครบถ้วน ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ด้านในทั้งหมด 3 ตัว รวมไปถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือว่าแจ็คขนาด 3.5 มม. พร้อมด้วย INPUT2 หรือ RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีสมรรถนะในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้อีกด้วย ให้เสียงเสมือนคุณกำลังฟังเสียงเพลงจากการแสดงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีความถูกที่ไม่เลย 15,900 บาท ถ้าเปรียบเทียบสุรเสียงที่ได้มา ถือได้ว่าคุ้มค่ามากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางอีฉันได้ยกมาฝากกันในวันนี้ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยก่อนจวบจนถึงปัจจุบันนี้นั้น ชาวเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall สัญชาติอังกฤษนี้เกือบจะทุกเวทีเลย รวมไปถึงหูฟัง และลำโพงที่มากมายก่ายกองหลากหลายรุ่นที่ไม่ว่ายุคจักผ่านไปนานแค่ไหน แต่ทว่า Marshall ก็ยังดำรงความคลาสสิคตามแนวแบบ Marshall ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : หูฟัง marshall

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall