สวัสดี บุคคลทั่วไป

ไอโฟน 8 และ iPhone 8Plus อีกลู่ทางของความคุ้มราคา

  • 0 ตอบ
  • 225 อ่าน
*

ออฟไลน์ mmhaloha

  • *****
  • 4698
    • ดูรายละเอียด
แม้นสมาร์ทโฟนตัวท็อปของค่าย Apple ในปี 2017 ที่ผ่านมาก็คือ iPhone X ที่มาพร้อมดีไซน์และคุณลักษณะแบบพรีเมี่ยมและแน่ๆว่าราคาก็สูงเช่นเดียวกัน แต่หลายคนอาจหลงลืมไปว่าในปีเดียวกัน ก่อนหน้า iPhone X เปิดฉากเพียง 15 นาที iPhone 8 กับ iPhone 8 Plus ก็ออกมาแนะนำให้สาวกค่าย Apple ได้รู้จักกัน ซึ่งต่อมาคงจะเหมือนกับคือรุ่นที่ถูกลืมเนื่องมาจากกระแสของ iPhone X แต่รู้ไหมว่า iPhone 8 พร้อมทั้ง iPhone 8 Plus แม้กระนั้นจะมีลักษณะหน้าตาไม่ต่างไปจาก iPhone 7 และ iPhone 7Plus แต่ก็มีดีพอที่จะทำให้คนที่ไม่สามารถเป็นเจ้าของ iPhone X ในหลาย ๆ เหตุผล หันมาเป็นผู้ครอบครองได้ ฉันจักนำพาทุกท่านไปทำความรู้จักมักจี่กับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ให้ดีเพิ่มขึ้น
 
iPhone 8 และ iPhone 8 Plus เปิดซื้อขายครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2017 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและจำหน่ายที่ไทยวันที่ 3 พฤศจิกายนในปีเดียวกัน มีให้เลือกสองขนาด คือ iPhone 8 ขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 8 Plus สัดส่วน 5.5 นิ้ว โดยทั้งคู่รุ่น มีสัดส่วนตัวเครื่องพอกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เลย สามารถใช้เคสเดิมมาสวมกันได้สีที่ไม่ให้เลือกก็คือ เทา สเปซเกรย์, สีเงิน และสีทอง ซึ่งเป็นการทำสีเฉดใหม่เอี่ยมมีสมรรถนะในการกันน้ำ กันฝุ่น เช่นกัน อย่างไรก็ดีมีข้อแตกต่างตรงที่ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีข้างหลังเป็นกระจก เป็นเหตุให้สามารถชาร์จแบบไร้สายได้
 
 ในส่วนของความจุนั้น Apple ก็มีมาให้คัดแค่เพียง 2 ขนาด เช่น 64 GB และ 256 GB ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเป็นการที่ Apple จะกระจายผลิตภัณฑ์ไปให้ผู้ใช้ได้อย่างครอบคลุมและเร็วเพิ่มมากขึ้น จึงทำการลดรุ่นให้น้อยลง

 
 แม้นความละเอียดหน้าจอยังคงเท่ากับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus แต่ รุ่นนี้ เพิ่มเติมการรองรับการแสดงผลแบบ True Tone ที่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิสีจอให้ตรงกับสภาวะแสงในเวลานั้น เป็นเหตุให้จอดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
 
 ตัว CP ใช้ชิป A11 Bionic แบบ 6-Core จำแนกเป็น 4-Core ที่ความสามารถสูง และอีก 2-Core ใช้ระยะเวลาที่เครื่องมิได้ทำงานหนักอะไร ซึ่งใช้การทำงานได้อย่างลื่นไหล ที่น่าสนใจคือ รองรับ AR อย่างเต็มรูปแบบทั้งการทำงานในแอพพลิเคชั่นทั่วๆ ไปพร้อมกับเกม โดยชิป A11Bionic นี้เป็นชิปตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone X ด้วย

 ในการเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมทุกเกมที่ออกมาตอนนี้ได้อย่างลื่นไหลในภาพกราฟิกอันดับสูงสุด ยกตัวอย่างเกมรถแข่งเช่น Need for Speed ที่ต้องใช้การ์ดจอ (GPU) ค่อนข้างเยอะ ไม่ก็ ROV ก็เล่นได้ไม่ติดขัด

 กล้องถ่ายภาพได้ขยายมาจาก iPhone 7 ทั้งคู่โมเดล ถึงแม้จะยังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม กลับมีการเปลี่ยนแปลงเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น และพิกเซลที่เก็บรายละเอียดปลีกย่อยได้เพิ่มขึ้น ฉายรูปในสภาพการณ์แสงน้อยได้ดีขึ้น ฉายรูป มีโหมดพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา ที่เรียกว่า "Portrait Lighting" เฉพาะกล้องคู่ของ iPhone 8 Plus เท่านั้น สามารถเลือกได้จากในโหมด Portrait เดิม ที่ให้คุณเลือกสรรปรับแสงใบหน้าบุคคลได้มากถึง 5 แบบ กล้องด้านหน้า ความละเอียด 7MP/ f2.2 พร้อมด้วยไฟแฟลชจากจอ Retina HD

                 ในส่วนการถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 60fps (Frame Per Second) ภาพการเคลื่อนไหวในวิดีโอที่ออกมาก็จะแลดูอ่อนนุ่ม ตรงนี้ใครที่ใช้ iPhone รุ่นที่ผ่านมาจะมีตัวเลือก fps วิดีโอ 1080p จะมีตัวเลือก 30 กับ 60fps ส่วน 4K ก่อนหน้ามีเพียง 30fps) แต่ณ เวลานี้เราเลือกได้เสรีมากขึ้นว่าจะให้เป็น 24, 30 หรือ 60fps ในการถ่ายวิดีโอโหมดปรกติ ด้านการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นมีตัวเลือก 720p 240fps, 1080p 120fps และ 1080p 240fps
 
 เทคโนโลยีชาร์จไร้สายที่เพิ่มเติมเข้ามาให้กับ iPhone 8, 8 Plus (พร้อมกับ iPhone X) เป็นครั้งแรกนั้นรองรับกับวัสดุอุปกรณ์ชาร์จมาตรฐาน Qi ซึ่งหมายถึง ไม่จำเป็นจะต้องชาร์จจากแท่นชาร์จของ Apple แค่นั้น แต่ก็จะมี AirPowerแท่นชาร์จไม่มีสายจาก Apple ออกมาขายในเร็ว ๆ นี้ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถใช้แบรนด์อื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตามแนะนำว่าจงเลือกรุ่นใหม่ที่รองรับ Fast Charge

 สรุปว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus สำหรับสาวก Apple แม้ว่าจะคงไว้ออกแบบตัวเครื่องเดิมตั้งแต่ iPhone 6 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2014 เอาไว้ แต่ก็มีดีเรื่องกล้อง โดยเฉพาะในโหมด Portrait Lighting ใน iPhone 8 Plus ที่คนชื่นชอบถ่ายรูปน่าจะติดใจการรวมกันของคุณภาพของกล้องถ่ายรูปที่ดี กับซอฟต์แวร์ที่ช่วยแต่งเติมแสงเงาในภาพได้หลากหลายแบบตามความต้องการ ทำให้ขณะที่ออก ออกขายใหม่ ๆ ก็เป็นหนึ่งในกล้องถ่ายรูปโทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุดในท้องตลาดโทรศัพท์มือถือ
 
ส่วนจอที่ต้องตาต้องใจบวกกับความไหลลื่นและคุณลักษณะสำคัญ ๆ ที่ไม่เป็นรองสมาร์ทโฟนตัวเรือธงใด ๆ ในช่วงนี้ก็ถือว่า ไอโฟน 8 และ iPhone 8 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่แพงไปนักเมื่อเปรียบกับ iPhone x แต่ถ้าหากใครใช้ iPhone 7 ทั้ง 2 โมเดลอยู่แล้ว และจะเขยื้อนขึ้นมาเป็น iPhone 8 ทั้ง 2 โมเดลที่ชักชวนไปนั้น ก็แนะนำว่ารอท่าไปอีกสักหน่อย เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่น่าจะมากขึ้นยิ่งกว่านี้อีกในรุ่นถัดไป

Tags : iPhone 8,iPhone 8 ราคา,ไอโฟน 8