สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานกลุ่ม Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 200 อ่าน
ตำนานกลุ่ม Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 01, 2019, 04:46:55 AM »
                ถ้าหากคุณเป็นผู้ที่หลงใหลในเสียงดนตรี หรือว่าเสียงดนตรี มั่นใจว่าคุณจักต้องรู้จักมักจี่ยี่ห้อเครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน ทั้งนี้เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับความชื่นชอบอย่างมาก อาทิ ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และอื่นๆ อีกเยอะแยะ โดยประวัติประวัติของแบรนด์นี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตำนานกลุ่มเพลงRock and Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังเอ่ยถึงอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยประวัติของ Marshall นั้น จักมีประวัติอย่างใดบ้าง อีกทั้งด้วยเหตุใดถึงได้มาเป็นแบรนด์ระดับโลกปานนี้ กระผมจะมาหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ก่อตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดตั้งต้นอยู่ที่การเป็นนักดนตรีมือโปรมาก่อน ซึ่งเล่นในตำแหน่งมือกลอง สืบมาก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองมาปฏิบัติงานกิจการร้านขายของขายเครื่องดนตรี พร้อมกับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเริ่มต้นจากการขายกลองชุดและกีตาร์ในลอนดอนอาณาบริเวณ Hanwell โดยผู้ใช้เป็นส่วนใหญ่จักเป็นนักดนตรีดนตรีRock 'n' Roll ที่มีความโด่งดังในระยะเวลานั้น อาทิเช่น ริตชี แบล็กมอร์ ไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้มีผู้ใช้มากขึ้น
                หลังจากนั้นก็เริ่มมีนักดนตรีมีชื่อเสียง หลายคนต้องการแอมป์ หรือว่าเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ อีกทั้งเสียงดังกว่าแต่ก่อน เพราะตัวปัญหาที่ประสบส่วนมากมักจะเป็นเรื่องความเสียงดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอในการสำแดงโชว์สดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจทดลองออกมาขาย และดันสำเร็จเป็นการใหญ่ กลายเป็นการเล่าปากต่อปาก กระทั่งวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงได้จัดการออกมาวางขายอย่างเอาจริงเอาจัง พร้อมกับได้จัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นจุดกำเนิดของแบรนด์ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายชมชอบ อีกทั้งยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคือแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงดีเลิศเท่าที่เคยมีมา (ในยุคนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และหลังจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมด้วยตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความไว้วางใจจากมือกีตาร์สายบลูส์ สายร็อก จากวงมีชื่อเสียง ระดับตำนานเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมถึง AC/DC ฯลฯ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในสมัย 60 ของ Marshall แบบสรุป แต่กระนั้นเมื่อยุคสมัยได้ล่วงก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล แบรนด์ Marshall ที่ชำนาญในสังคมเครื่องเสียงก็ได้พัฒนาและหยิบยกเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าร่วมมือในการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อทันยุค ทันสมัย อีกทั้งแม่นยำตามความต้องการ หรือตอบโจทย์ลูกค้าเพิ่มขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ซึ่งเป็นสินค้าเหล่าหูฟัง เพื่อให้ผู้ซื้อ หรือมนุษย์ทั่วๆ ไปให้ได้รับประสบการณ์การสดับตรับฟังเพลงในสไตล์ของ Marshall รวมถึงผลิตภัณฑ์พวกลำโพงที่สามารถต่อบลูทูธได้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างท่วมท้นเช่นกัน ด้วยแบบเสียงที่ไม่เหมือนใคร และดีไซน์ที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิก ดูดี โดยรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่ารู้ พร้อมกับจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังปราศจากสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth และลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจะมีรายละเอียดปลีกย่อยดังต่อไปนี้
 
หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                คือหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิกอยู่ในตัว ออกแบบสวยงาม งามตามีสไตล์ ขนาดเล็กสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้ง่ายดาย มีการเชื่อมต่อโดยเร็วด้วย Bluetooth 4.0 แต่กระนั้นสามารถใช้ร่วมกับเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นกัน  สามารถใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งใช้เวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ส่วนของสำเนียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะว่าเบสแน่นๆ เสียงร้องชัด มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกรายละเอียดปลีกย่อยของชิ้นเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยม สมกับการเป็นสุดยอดประวัติศาสตร์แบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกโดยแท้จริง โดยหูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่นนี้ สนนราคาจะอยู่ที่ไม่เลย 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                คือลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ที่ได้ออกขายนานแล้วเช่นกัน เสียแต่ว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าแต่ก่อนเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้เสียงที่คมชัดครบถ้วน ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ข้างในทั้งหมด 3 ตัว รวมไปถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือว่าแจ็คขนาด 3.5 มม. พร้อมกับ INPUT2 หรือว่า RCA นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้เช่นกัน ให้เสียงเสมือนท่านกำลังฟังเพลงจากการเล่นดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จักมีราคาถูกที่ไม่เกิน 15,900 บาท ถ้าหากเทียบกับเสียงที่ได้มา ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางอิฉันได้นำฝากกันในวันนี้ โดยจักเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยเก่าจวบจนถึงปัจจุบันนั้น พวกเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้เกือบจะทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่มากมายหลายรุ่นที่ไม่ว่าสมัยจักพ้นไปนานเท่าใด แต่ว่า Marshall ก็ยังดำรงความคลาสสิคตามสไตล์แบบ Marshall มิเคยเปลี่ยน

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall