สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 216 อ่าน
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2019, 01:50:16 PM »
ย้อนกลับในศักราช 2001 มือถือได้เริ่มมีการขายในวงกว้างแต่ทว่าเพราะความเจริญของเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเอาเป็นเอาตายมากนัก เมื่อผนวกกับราคาที่สูงเป็นปกติของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ในขณะนั้น มีผลกระทบให้มีผู้บริโภคมือถือไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับท้องตลาดสมาร์ทโฟนรวมทั้งหมด
 
 แต่กระนั้นเวลาก็เปลี่ยนแปลงพร้อมทั้งความเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จวบจนกระทั่งช่วงปัจจุบัน มือถือ กลายเป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และขอบข่ายต่าง ๆ ส่งเสริมให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนมือถือได้สบาย
 
 ในศก 2017 ยอดรวมส่งออกโทรศัพท์มือถือทั่วโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์เคลื่อนที่ถูกซื้อขายไปรวมเบ็ดเสร็จโดยประมาณ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มปริมาณจากปี 2016 ราวๆ 5% โดย 3 ระดับของยี่ห้อที่มียอดขายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งตลาด 10% เราไปเจาะใจสภาพการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย

 สิ้นปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งจะเผยสถิติกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017โดยเงินกำไรสุทธิตั้งแต่ตุลาคมจวบจนถึงธันวาคมกระโดดไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูเหมือน ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากล่วงเลยแค่ 3 เดือน เมื่อก้าวเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018โดยทำรายได้คร่าวๆ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
ซึ่งถึงเงินรายได้รวมเบ็ดเสร็จใน3 เดือนแรกของปี 2018 นั้นจะน้อยกว่า3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แม้กระนั้นด้วยรายจ่ายหลายอย่าง นั้นน้อยกว่า เป็นเหตุให้ ซัมซุงสามารถสร้างกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ เปลี่ยนเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

ต้นกำเนิดของกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นงานของมือถือซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่พ.ศ.นี้ย้ายมาวางขายเร็วขึ้น ผนวกกับผลสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นสมาร์ทโฟนซัมซุงมูลค่าไม่แพงที่จัดจำหน่ายในหลายๆ รัฐ และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวทำรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถทำการผลกำไรได้สูงถึง 70% ของตลาด

 ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยรายรับรวมสร้างสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มปริมาณ 13% จากเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีผลกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นเดียวกัน ส่วนรายรับจากต่างแดนนอกประเทศสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 65% ของเงินรายได้รวม

 3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม ขาย iPhone X ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นสินค้าหลักที่ทำเงิน ถึงแม้จะมีข่าวแต้มสีออกมาไม่ดีนัก โดยในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลบอกจำนวนรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 รายได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มปริมาณ 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดิบขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกอาทิตย์ นับตั้งแต่เริ่มส่งมอบครั้นเดือนพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้ยิ่งกว่าที่แอปเปิลคาดหวัง
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายรับที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นดอกผลสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่ม 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 ซึ่งในปี 2017 หัวเว่ยได้ส่งมอบสมาร์ทโฟนทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมแบรนด์ Honor ที่เป็นผู้ครอบครองเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 โดยครั้นปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า เป้าหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ยิ่งใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แต่ทว่าตอนนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างจะมีปัญหาในการพยายามทะลวงตลาดโซนอเมริกาเหนือ ทั้งนี้เพราะฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone คุมอยู่ ด้านตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเชียว เพราะโทรศัพท์เคลื่อนที่เกรดไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความชอบเป็นอย่างดี

 ถึงแม้ว่ายอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็ประสงค์ไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ อย่างเช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาเครือข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายบ้านเมืองมี 4G และปี2018 หวังว่าเป็นการเริ่มต้นแห่งยุค 5G โดยจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่เกาหลีใต้ เป็นการทดลองความสามารถก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีข้างหน้า
 
 การปรากฏตัวของเครือข่ายไร้สาย 5G เป็นเหตุให้มีความคาดหมายกันว่า มือถือจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้นไปอีกซึ่งจำต้องคอยเฝ้ามองดูว่าแบรนด์มือถือเหล่านี้จะใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเพียงใดในการเพิ่มยอดจำหน่ายและแก่งแย่งความเป็นที่ 1 ต่อไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โทรศัพท์ซัมซุงราคา

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่