สวัสดี บุคคลทั่วไป

ตำนานกลุ่ม Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"

  • 0 ตอบ
  • 202 อ่าน
ตำนานกลุ่ม Rock and Roll ต้อง "Jim Marshall"
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2019, 11:16:12 PM »
                ถ้าท่านเป็นคนที่ติดใจในเสียงดนตรี หรือเสียงดนตรี เชื่อว่าคุณจะต้องรู้จักมักคุ้นแบรนด์เครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องมาจากเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมชมชอบอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องกระจายเสียง และอื่นๆ อีกจำนวนมาก โดยประวัติเรื่องราวของแบรนด์นี้ จัดเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของตำนานสังคมเพลงRock and Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยี่ห้อที่กำลังกล่าวขวัญอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยความเป็นมาของ Marshall นั้น จักมีความเป็นมายังไงบ้าง พร้อมทั้งเพราะอะไรถึงได้มาเป็นยี่ห้อสุดยอดปานนี้ ข้าพเจ้าจักมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้ก่อตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดตั้งต้นอยู่ที่การเป็นนักดนตรีผู้เชี่ยวชาญมาก่อน ซึ่งเล่นในตำแหน่งมือกลอง ตอนหลังก็ได้ผันตัวเองมาจัดการกิจการร้านค้าขายเครื่องดนตรี พร้อมกับอุปกรณ์มากมาย ซึ่งเริ่มต้นจากการค้าขายกลองชุดพร้อมกับกีตาร์ในลอนดอนบริเวณ Hanwell โดยผู้ใช้เป็นส่วนใหญ่จะเป็นนักดนตรีเพลงRock and Roll ที่มีความโด่งดังในระยะเวลานั้น อาทิ ริตชี แบล็กมอร์ หรือเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น
                หลังจากนั้นก็เริ่มมีนักดนตรีชื่อดัง หลายท่านต้องการแอมป์ หรือว่าเครื่องกระจายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมกับเสียงดังกว่าเดิม ด้วยเหตุว่าตัวปัญหาที่ประสบโดยมากมักเป็นเรื่องความเสียงดังของเครื่องกระจายเสียงที่ไม่พอในการบรรเลงโชว์สดนั่นเอง Marshall จึงได้ตกลงใจลองทำออกมาวางขาย และดันประสบผลสำเร็จเป็นการใหญ่ กลายเป็นการบอกปากต่อปาก จนวงดนตรีหลายๆ วง ให้ความสนใจ Marshall จึงได้จัดการออกมาจำหน่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมด้วยได้ตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นต้นตอของแบรนด์ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายชมชอบ ยิ่งกว่านั้นยังเอื้อนคือเสียงเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงเยี่ยมตามที่เคยมีมา (ในยุคนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และหลังจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาผลิตแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมด้วยตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความไว้วางใจจากมือกีตาร์แนวบลูส์ แนวร็อก จากวงมีชื่อเสียง ระดับตำนานเช่นว่า The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมทั้ง AC/DC เป็นต้น
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในช่วงเวลา 60 ของ Marshall อย่างสรุป แต่ครั้นเมื่อระยะเวลาได้ผ่านพ้นก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยี่ห้อ Marshall ที่เชี่ยวชาญในวงการเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมมือในการสร้างสินค้าเพื่อให้ทันยุค ทันสมัย พร้อมทั้งแม่นยำตามความปรารถนา หรือตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เหล่าหูฟัง เพื่อให้ผู้ใช้ หรือว่าคนสามัญให้ได้รับประสบการณ์การฟังเสียงเพลงในแบบของ Marshall รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เหล่าลำโพงที่สามารถเชื่อมบลูทูธได้ ซึ่งนั่นทำให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างเยอะแยะเช่นเดียวกัน ด้วยแนวเสียงที่ไม่ซ้ำใคร และดีไซน์ที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิก ดูดี ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่ารู้ พร้อมกับจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth และลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจะมีรายละเอียดปลีกย่อยดังนี้
 
หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไร้สายที่มีความคลาสสิคอยู่ในตัว ดีไซน์สวยงาม งามตามีสไตล์ ขนาดกระชับสามารถพับได้ ทำให้พกติดตัวไปไหนต่อไหนได้ง่ายดาย มีการต่ออย่างเร็วด้วย Bluetooth 4.0 แต่สามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นเดียวกัน  สามารถใช้งานได้เป็นเวลายาวนานถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบตเตอรี่ Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งใช้เวลาชาร์จน้อยกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งผ่าน Micro USB ส่วนของเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องคมชัด มีเสียงแหลมที่ไม่บาดหู และเวทีเสียงที่สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดของชิ้นดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีมาก สมกับการเป็นสุดยอดตำนานยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกแน่แท้ โดยหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ มูลค่าจะอยู่ที่ไม่มากเกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                เป็นลำโพงบลูทูธที่มีขนาดออกจะใหญ่ที่ได้ออกค้าขายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นกัน ทว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าเดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้เสียงที่ชัดครบถ้วน ด้วยระบบชิป aptX ออกแบบด้วยไดร์ฟเวอร์ด้านในทั้งหมด 3 ตัว รวมไปถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. และ INPUT2 หรือ RCA นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการปรับเสียงทุ้มแหลมได้อีกด้วย ให้เสียงเสมือนคุณกำลังฟังบทเพลงจากการแสดงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีความถูกที่ไม่เกิน 15,900 บาท หากว่าเปรียบกับเสียงที่ได้มา จัดว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางอีฉันได้หยิบยกฝากกันในวันนี้ โดยจักเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยเก่ากระทั่งสมัยปัจจุบันนั้น พวกเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall สัญชาติอังกฤษนี้เกือบทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่นานัปการหลากหลายรุ่นที่ไม่ว่าระยะเวลาจะพ้นไปยาวนานเท่าใด แต่ Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิกตามสไตล์แบบ Marshall มิเคยเปลี่ยน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : marshall ราคา

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall