สวัสดี บุคคลทั่วไป

โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

  • 0 ตอบ
  • 193 อ่าน
โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2019, 01:15:52 AM »
ย้อนกลับไปในศักราช 2001 โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เริ่มมีการขายในวงกว้างแต่ทว่าเนื่องมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อาทิเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเอาเป็นเอาตายมากนัก ครั้นเมื่อผนวกและมูลค่าที่สูงเป็นปกติของเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดใหม่ๆ ในตอนนั้น มีผลให้มีผู้ซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่มากนักเมื่อเปรียบกับท้องตลาดโทรศัพท์มือถือรวมทั้งหมด
 
 แม้กระนั้นเวลาก็แปรเปลี่ยนพร้อมทั้งความเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงปัจจุบันนี้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ กลับเป็นสาระสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่ายต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้สื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนมือถือได้สบาย
 
 ในศก 2017 ยอดรวมส่งออกมือถือทั่วโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์มือถือถูกขายไปรวบยอดราวๆ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ราว 5% ซึ่ง 3 ลำดับของยี่ห้อที่มียอดขายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งการตลาด 10% พวกเราไปล้วงลึกสภาพการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย

 ปลายปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเผยสถิติกำไรมากเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งผลกำไรสุทธิตั้งแต่เดือนตุลาคมจวบจนถึงธันวาคมทะยานไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูเหมือนว่า ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากเลยไปเพียง 3 เดือน ทันทีที่ก้าวเข้าสู่เดือนมีนาคม 2018โดยสร้างเงินรายได้ราวๆ 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว

 
ซึ่งทั้งๆ ที่เงินรายได้รวมเบ็ดเสร็จใน3 เดือนแรกของปี 2018 นั้นจะต่ำกว่า3 เดือนสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แม้กระนั้นด้วยรายจ่ายต่างๆ นั้นต่ำกว่า เป็นเหตุให้ ซัมซุงสามารถสร้างกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ เปลี่ยนเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท

ที่มาของกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นผลงานของมือถือซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ปีนี้เลื่อนมาจำหน่ายไวขึ้น ผนวกกับความสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็นโทรศัพท์ซัมซุงมูลค่าไม่แพงที่ซื้อขายในหลายๆ ประเทศ และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างเงินรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถทำการกำไรได้สูงถึง 70% ของท้องตลาด

 ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยรายรับรวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มปริมาณ 13% จากคราวเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเหมือนกัน ด้านเงินรายได้จากต่างแดนนอกอเมริกาคิดเป็น 65% ของเงินรายได้รวม

 ไตรมาสที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม จำหน่าย iPhone X ซึ่งประมาณการณ์กันว่าจะเป็นสินค้าหลักที่ทำกำไร ทั้งที่จะมีข่าวโคมลอยออกมาไม่ดีนัก โดยในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลเผยจำนวนรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดลงจาก3 เดือนเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)

 เงินได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
                ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดิบขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกสัปดาห์ นับจากเริ่มส่งมอบครั้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 และจำหน่ายได้มากกว่าที่แอปเปิลคาด
 
 ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายได้ที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นดอกผลสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่ม 28.1% ในปีที่ผ่านมา

 ซึ่งในศักราช 2017 หัวเว่ยได้ให้โทรศัพท์มือถือทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นกรรมสิทธิ์เดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016

 ซึ่งครั้นเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยป่าวประกาศเอาไว้ว่า จุดมุ่งหมายของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทสมาร์ทโฟนใหญ่อันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แต่ทว่าทุกวันนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างมีปัญหาในการพยายามทะลวงตลาดแถบอเมริกาเหนือ เพราะฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ดูแลอยู่ ด้านตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยทีเดียว เพราะว่ามือถือเกรดไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี

 ทั้งๆ ที่ยอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็วางเป้าหมายไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ ตัวอย่างเช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
 
 ในหลายปีที่ผ่านมาเครือข่ายไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลากหลายรัฐมี 4G และปี2018 หวังว่าเป็นการเริ่มต้นแห่งยุค 5G โดยจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่เกาหลีใต้ เป็นการทดสอบความสามารถก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีภายภาคหน้า
 
 การแสดงตัวของเครือข่ายไร้สาย 5G เป็นเหตุให้มีการคาดหมายกันว่า สมาร์ทโฟนจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้นไปอีกซึ่งจำเป็นจะต้องเฝ้ารอเฝ้ามองดูว่ายี่ห้อโทรศัพท์เคลื่อนที่กลุ่มนี้จักใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเท่าใดในการเพิ่มยอดขายและแก่งแย่งความเป็นที่ 1 ต่อไป
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่

Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่