สวัสดี บุคคลทั่วไป

กล้องถ่ายภาพถ่ายรูป VS กล้องมือถือ หากหนักห่างกันไม่กี่ขีด...แล้วเธอจักเลือกสิ่งไร?

  • 0 ตอบ
  • 216 อ่าน
ครั้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันน่าจดจำจนต้องรวบรวมบันทึกออกมาเป็นภาพถ่าย และมันจะดีเยี่ยมขึ้นอีก ครั้นภายในภาพมีคนพิเศษอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่จะช่วยให้เราได้เก็บภาพความทรงจำดีๆเหล่านั้น นอกจากสมอง และใจของเราแล้ว ก็ต้องเป็น "กล้องถ่ายรูป" นั่นเอง ซึ่งในยุคนี้ ใครต่อใคร ต่างก็มีโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องถ่ายรูปพร้อมมาด้วย เพราะว่าง่ายต่อการใช้งาน ไม่ต้องสะพายกระเป๋ากล้องใบใหญ่ อีกทั้งยังมีความกระจ่างมิได้แตกต่างไปจากกล้องถ่ายภาพ DSLR หรือ Mirrorless ซะทีเดียว แต่ทว่าที่จริงนั้นมันยังมีอะไรอีกมากหลายที่ต่างกันอยู่มากเลยทีเดียว
 
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเซนเซอร์ เพราะกล้องถ่ายรูปจะมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าเซนเซอร์ของกล้องจากสมาร์ทโฟน ยิ่งขนาดเซนเซอร์ใหญ่เท่าใด ก็จะรักษาแสงได้เหนือกว่า ได้รายละเอียดภาพที่มากกว่า มีมิติเหนือกว่า รวมไปถึงทำให้ปรับความตื้นลึกของภาพได้อย่างหลากหลายมากกว่า สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่อาจทำได้ไม่ดีเท่ากล้องเท่าไหร่นัก พร้อมทั้งสิ่งเหล่านี้ยังมีผลต่อคุณภาพของภาพที่ได้ด้วย ยิ่งกว่านั้นยังช่วยลด Noise หรือเม็ดสีที่แตกในภาพ โดยครั้นเมื่อย้อนกลับไปมาดูภาพจากกล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็จะพบ Noise ยิ่งกว่าภาพจากกล้องถ่ายภาพทั่วไป นั่นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเซนเซอร์จาก กล้องถ่ายภาพโทรศัพท์เคลื่อนที่เล็กกว่ากล้องถ่ายภาพทั่วไป
 
ถัดจากนั้นก็จะเป็น Optical zoom ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้กล้องถ่ายรูปเหนือกว่ากล้องถ่ายภาพจากโทรศัพท์มือถือ ถ้าหากเป็นการขยายของกล้องถ่ายรูป คุณสามารถปรับได้ตามความต้องการได้เลย ซึ่งน้อยรายในหมู่แบรนด์โทรศัพท์มือถือที่จะมีคุณสมบัตินี้ เพราะภาพบางภาพ ก็จำต้องใช้การขยายแบบ Optical เพื่อให้ได้ความข้องเกี่ยวของวัตถุบนภาพที่ดีที่สุด รวมถึงหน่วยความจำก็ยังสำคัญ เพราะในสมาร์ทโฟนของคุณอาจจะมีทั้งรูปถ่าย เพลง ภาพยนตร์ หรือไฟล์วิดีโอ ซึ่งนั้นเป็นปัญหาจริงๆ ถ้าเธอคิดว่าจะใช้กล้องสมาร์ทโฟนถ่ายภาพคุณตลอดทริปที่กินซ่าไม่ก็พาแฟนท่องเที่ยว Universal Studios เพราะท่านคงไม่อยากมานั่งลบรูป ลบบทเพลงโปรด หรือไม่ลิสหนังดังของท่านหรอก แต่หากยอมสะพายกล้องถ่ายภาพสักตัว พร้อมเมมรี่การ์ดสำรองสัก 2-3 อัน แน่นอนว่าเธอได้ทั้งรูปถ่ายที่มากมาย และไฟล์วิดีโอตลอดทั้งทริปของเจ้าแน่นอน
 
นั่นคือข้อมูลเบื้องต้นว่าเพราะเหตุใดพวกเราถึงต้องยอมสะพายกล้องตัวหนัก แล้วต้องยอมพักกล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้ก่อน และอาจจะพักยาวๆ เลย ถ้าได้รู้จักกับกล้องถ่ายภาพตัวนี้ นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 III ซึ่งกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรี่ส์ OM-D โดยก่อนหน้าจะมีรุ่นพี่เป็น E-M5 และ E-M1 นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าตัวล่าสุด มันจะต้องดีกว่าตัวก่อนๆ แน่นอน เรามาดูข้อดี ๆ ของกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III ดีกว่าว่าคุ้มต่อการพกพา มากกว่ากล้องถ่ายรูปมือถือหรือไม่
 
กล้องถ่ายภาพ Olympus OM-D E-M10 III เป็นกล้องถ่ายภาพเปลี่ยนเลนส์ได้ระบบ Micro Four Thirds ใช้เซนเซอร์ 4/3 Live MOS Sensor ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล และให้ภาพที่ขนาดใหญ่สุดๆที่ 4608 x 3456 และ Ratio ที่เหมาะของภาพคือ 4:3 ซึ่งเซนเซอร์ที่ว่ามานี่อาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างยอดเยี่ยม สาระสำคัญของกล้อง Olympus ตัวนี้ ในความคิดส่วนตัวน่าจะเป็นเรื่องของการระบบกันสั่นของเขา เพราะกล้องถ่ายรูป Olympus รุ่นนี้ เป็นระบบกันสั่น 5 แกน สามารถลดการสั่นไหวได้ถึง 4 Stop โดยหากถ่ายด้วยความไวชัตเตอร์ที่ 1/10 วินาที แล้วถือถ่ายก็ยังทำได้ดีเลย
 
และด้วยความที่ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้ ที่ทำให้ระบบกันสั่น 5 แกนทำงานได้ดี นั่นก็คือ เลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ และโปรเซสเซอร์ประมวลภาพ ซึ่งกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลภาพ TruePic VIII จึงให้รูปถ่ายที่มีคุณภาพสูงงดงามแม้ที่แสงสว่างน้อย โดยที่เธอมิต้องตั้งค่า ISO สูงๆ ด้วยซ้ำ อีกทั้งยังกันการเกิด Noise ด้วย และด้วยระบบกันสั่น 5 แกนนี้ ยังเป็นเหตุให้การบันทึกภาพยนตร์ของเจ้ามิเป็นตัวปัญหาอีกด้วย โดยกล้อง Olympus OM-D E-M10 III สามารถบันทึกภาพยนต์คุณภาพสูงถึง 4K เลยเทียว ที่แม้ว่าจะถือด้วยมือ และมิได้มีอุปกรณ์เสริมใดๆ ก็ยังให้ภาพที่ได้ออกมาสะดวก ถ้าเกิดสั่นไหว ก็เกิดได้น้อยที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งแยกเฟรมเพื่อให้บันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ที่บันทึกไว้อีกด้วย

 จะเห็นว่านี่แค่จุดแข็งเรื่องเดียวของกล้องถ่ายรูป Olympus OM-D E-M10 III ก็เอาชนะกล้องถ่ายรูปสมาร์ทโฟนขาดลอยแล้ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ต่างๆ อีกเพียบเลยที่ยังมิได้อ้างอิงถึง อาทิเช่น โหมดถ่ายภาพ Auto ที่ให้ท่านปรับตั้งค่าตามที่ท่านต้องการ หรือโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป Scene อีกทั้งโหมดถ่ายภาพขั้นสูง Advanced Photo ที่มีให้เลือกหลากหลาย ตัวอย่างเช่น Live Composite, Live Time และ ถ่ายภาพซ้อน ฯลฯ และโหมด Art Filter ซึ่งก็มีให้เลือกเพียบอยู่เช่นกัน เพื่อให้ภาพมีความน่าสนใจมากเพิ่มขึ้น และจุดดีอีกอย่างของกล้องถ่ายภาพ Olympus ตัวนี้ คือมีขนาดที่เล็ก และพกพาสะดวกมาก โดยมีน้ำหนักเฉพาะแค่บอดี้เพียง 362 กรัม เท่านั้นเอง ตัวนี้จึงสามารถลบคำดูถูกที่ว่า "กล้องมันหนัก" ไปได้เลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : กล้อง olympus

Tags : Olympus,กล้อง olympus,olympus ราคา