สวัสดี บุคคลทั่วไป

เครื่องดูดฝุ่น ผู้ช่วยสำหรับการทำงานบ้าน

  • 0 ตอบ
  • 221 อ่าน
            ที่ดูดฝุ่นถือเป็นเครื่องมือประจำที่อยู่อาศัยเลยก็เป็นไปได้ ด้วยความที่ใช้สะดวก สะดวก และทำให้ลดระยะเวลาในการทำความสะอาดบ้านทำให้เกือบทุกที่อยู่อาศัยต้องมีที่ดูดฝุ่นไว้ติดบ้าน แต่ว่าการที่จะเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นสำหรับนำมาใช้งานซักอันจำเป็นต้องมีเหตุผลหลายอย่างมาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจซื้อให้เหมาะกับการทำงานดังนั้นมาดูกันว่าจะต้องมีวิธีการในการเลือกและมีแบรนด์ไหนเสนอแนะกันบ้าง
            อย่างแรกคือ ลักษณะของเครื่องดูดฝุ่น คือสิ่งที่ขาดไม่ได้เพราะแบบของเครื่องดูดฝุ่นที่ต่างกันก็เหมาะสำหรับการทำงานที่ต่างกันออกไป เครื่องดูดฝุ่นมีอยู่ 4 ลักษณะ
1.) เครื่องดูดฝุ่นชนิดแห้ง เหมาะสำหรับการทำงานกับห้องธรรมดา แต่ว่าไม่เหมาะสำหรับบนพื้นพรม เพราะกำลังสำหรับดูดฝุ่นน้อย
2.)  เครื่องดูดฝุ่นไม่มีสาย เน้นความคล่องแคล่วสำหรับใช้งาน เนื่องจากต้องชาร์จพลังงานก่อนที่จะเอาไปใช้งาน รวมไปถึงเบาใช้งานไม่ยาก เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่น้อย
3.) ที่ดูดฝุ่นมือถือ เครื่องดูดฝุ่นขนาดย่อม น้ำหนักเบา ไม่มีที่เก็บฝุ่น สะดวกสำหรับการใช้งานในพื้นที่เล็กๆ เช่น รถยนต์
4.) หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ช่วยให้ทำความสะอาดโดยอัตโนมัติได้ด้วยการใส่โปรแกรม และยังสามารถเข้าไปในบริเวณที่ต้องการเก็บกวาดได้ง่ายมาก พร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนสิ่งกีดขวางพร้อมกับยางกันปะทะ
            เรื่องที่สอง เนื้อที่ในการใช้ คือเรื่องที่ควรจะนำมาไตร่ตรองเพราะจะเหมือนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการซื้อขนาดของเครื่องดูดฝุ่น รวมไปถึงบ้านของเรามีมุมอับหรือไม่ ถ้าหากเลือกที่ดูดฝุ่นปริมาตรเล็กเกินไปจะทำให้ที่ดูดฝุ่นใช้งานหนัก เก็บกวาดได้ไม่มีประสิทธิภาพ พร้อมกับทำให้ชำรุดรวดเร็วกว่าเดิม
เรื่องถัดมา ประเด็นของโครงสร้าง รวมถึงประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของเครื่องดูดฝุ่น ในส่วนนี้ต้องคิดตั้งแต่กำลังไฟ โดยจำเป็นต้องจำเป็นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการทำงานเพราะว่าถ้ากำลังไฟต่ำก็ส่งผลต่อแรงสำหรับดูดฝุ่น ถัดมาก็คือพวกโครงสร้างทั้งหลาย ในแต่ละแบรนด์หรือแต่ละรุ่นก็จะมีโครงสร้างที่ต่างกันไป ตัวอย่างเช่น สามารถกดฝุ่นเป็นก้อนเพื่อให้สะดวกกับการเก็บกวาด หรือไม่ก็มีระบบการกรองหลายขั้นเพื่อที่จะไม่ให้ฝุ่นผงออกไปจากเครื่อง ฯลฯ เราจึงจำเป็นที่จะดูว่าเครื่องดูดฝุ่นแบบไหนที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด
            สุดท้ายนี้ก็คือ เรื่องของคุณภาพ มูลค่า รวมถึงอายุใช้งาน คือเรื่องที่ควรจะคิดเกี่ยวกับคุณภาพกับราคาดำเนินไปในคู่ควรกันหรือเปล่ารวมทั้งคุ้มค่าที่ควรเลือกซื้อไปใช้งานหรือเปล่าก็เพราะว่าต่อมาก็คืออายุการใช้งานถ้าหากเลือกสินค้าที่ผิดในการใช้งานไปจะทำให้อายุการใช้งานน้อยลงและยังถือเป็นการเปลืองเงิน
เครื่องดูดฝุ่นที่น่าจับตามองที่จะเอามาเสนอแนะ ยกตัวอย่างเช่น

  • HITACHI เครื่องดูดฝุ่นแบบกล่อง รุ่น CV-SH20V แรงมอเตอร์ 2000 วัตต์ น้ำหนัก9 กิโลกรัม ช่วยเรากำจัดฝุ่นได้การพิสูจน์คุณภาพด้วยสถาบันโรคภูมิแพ้ ในประเทศอังกฤษ (Allergy UK) กล่องใส่ฝุ่นไซโคลน ขนาดความจุ 1.6 ลิตร กดบีบฝุ่นกลายเป็นก้อนช่วยให้สะดวกในการกำจัด ไม่ฟุ้งกระจาย เพราะว่าระบบสกัดฝุ่น 7 ขั้นตอน พร้อมด้วยที่กรองเฮป้า กับนาโน ไททาเนียม ดักจับกลิ่น หยุดการทำงานโดยทันทีกรณีเครื่องร้อน สนนราคา 4,190 บาท
  • PHILIPS หุ่นยนต์ดูดฝุ่น รุ่น FC8822/01 พร้อมทั้งระบบ SMART DETECTION SYSTEM เปลี่ยนโหมดแล้วแต่สภาพการณ์รอบๆ ตัว พลังงาน LI-ION ช่วยให้ใช้งานต่อเนื่องมากที่สุด 120 นาที ระบบเก็บกวาด 3 ขั้นตอน ที่ประกอบด้วยการถูเก็บฝุ่นละอองประเภทแห้ง หุ่นยนต์ช่วยสำรวจบริเวณที่ไม่สะอาดมากสำหรับที่จะทำความสะอาดเป็นพิเศษ และยังมีโหมดสแกนพื้นที่ที่ไม่เหมือนกันเพื่อทำความสะอาดได้แบบถูกทาง สนนราคา 21,990 บาท
  • DYSON ที่ดูดฝุ่นรูปแบบมือจับ (0.54 ลิตร) รุ่น SV10(V8) Absolute PlusV8 Absolute Plus เครื่องดูดฝุ่นไม่มีสาย พร้อมกับการใช้งาน ครอบคลุมทุแบบ มีความแน่นหนาคงทน ใช้ไม่ยาก ด้วยระบบพายุไซโคลนเรเดียล 2 ระดับ ที่สามารถเพิ่มการไหลกลับมาของอากาศรวมถึงดักฝุ่นละอองเล็ก หัวทำความสะอาดแบบ Direct-drive ทำความสะอาดตรงเข้าไปในพรมเพื่อที่จะขจัดคราบเลอะในพื้น ส่วน หัวทำความสะอาดแบบลูกกลิ้งนุ่มออกแบบเพื่อมาที่เหมาะสำหรับพื้นแข็ง อีกทั้งมาพร้อมกับระบบกรองลักษณะแกะออกไปล้างได้ ในสนนราคา 28,900 บาท


จะเห็นว่า ยี่ห้อทุกๆยี่ห้อขยันพัฒนาและยังใส่เทคโนโลยีไม่ซ้ำ ใส่ไปเพื่อความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งาน ดังนั้นแล้ว การซื้อเครื่องดูดฝุ่นซักอันให้เหมาะกับการทำงานก็เลยไม่ใช่เรื่องยากเสมอไป

Tags : เครื่องดูดฝุ่น,เครื่องดูดฝุ่น ราคา,เครื่องดูดฝุ่น ยี่ห้อไหนดี